ครั้นถูกยามที่เฝ้าประตูขัดขวางไม่ให้เข้าบ้าน ไป๋หยานก็ไม่ได้รู้สึกโกรธแต่อย่างใด นางเพียงก้าวไปข้างหน้าสองก้าว สร้างแรงกดดันให้แก่เขามากขึ้น
“จางเหยา…ลูกเขยของพ่อบ้านสกุลไป๋ เจ้าได้เข้ามาทำงานในบ้านหลังนี้ก็ด้วยการชักนำจากพ่อตาของเจ้า เช่นนั้นเจ้าจึงเชื่อฟังเพียงหยูฮูหยินมารดาของหยูหรงเท่านั้น หากข้าเดาไม่ผิด สาเหตุที่เจ้าขัดขวางข้าก็คงเป็นเพราะคำสั่งจากยายแก่ผู้นั้น“
ถ้อยคำที่ออกมาจากปากของไป๋หยาน ทำเอายามหน้าเสีย เพราะสิ่งที่หญิงสาวกล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นความจริง เรื่องที่เขาเป็นลูกเขยของพ่อบ้านสกุลไป๋นั่นก็มิใช่ความลับ คนในบ้านสกุลไป๋ต่างก็รู้เรื่องนี้ดี
แต่เรื่องที่เขาเชื่อฟังเพียงคำสั่งของหยูฮูหยินผู้เฒ่านั้น ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ แม้แต่ประมุขของบ้านสกุลไป๋เองก็ยังไม่รู้ !
“นั่นเป็นเพราะหยูฮูหยินเกรงว่าจะมีสตรีอื่นล่อลวงไป๋เฉิงเซียง เพราะยามนี้บ้านสกุลไป๋กำลังรุ่งโรจน์ เช่นนั้นนางจึงสั่งให้เจ้ามาประจำการที่นี่ เพื่อหยุดยั้งสตรีทุกคนที่จะก้าวเข้าบ้านสกุลไป๋ ที่ข้ากล่าวมาถูกต้องหรือไม่” ไป๋หยานยิ้มตลอดเวลาขณะกล่าวคำ
ก่อนนางจะมาที่นี่ในวันนี้นั้น นางได้สืบเสาะค้นคว้าหารายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับภูมิหลังของสมาชิกทุกคนในบ้านสกุลไป๋ รวมถึงบ่าวรับใช้ที่นี่ด้วย
หากมิใช่เป็นเพราะมีคนคอยให้การหนุนหลัง ไหนเลยยามผู้นี้จะกล้าโอหังถึงเพียงนี้
“เอ๊ะ…นั่น ?” น้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น ดังขัดจังหวะขึ้น ทำลายบรรยากาศเงียบงันในทันที
ครั้นไป๋หยานหันไปตามเสียงนั่น หญิงสาวผู้ส่งเสียงเมื่อครู่ก็รีบมายืนตรงหน้า นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ
“ท่านคือ … พี่ใหญ่ใช่หรือไม่ ?”
ไป๋หยานมองหญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามอ่อนหวานเบื้องหน้า แล้วก็ต้องถอนหายใจลึก
โลกนี้ช่างแคบเสียจริง กลับมาถึงบ้านไม่ทันไร ก็ต้องมาเจอบุตรสาวของหยูหรงแล้วหรือนี่ ?
“เป็นพี่ใหญ่จริง ๆ” สีหน้าของหญิงสาวแลดูมีความสุข
“พี่รู้หรือไม่ หลังจากที่พี่หายตัวไป หลายปีที่ผ่านมานี้ ท่านยายของข้าก็เป็นห่วงพี่จนล้มป่วย ในขณะที่ท่านแม่ของข้าก็เฝ้าคิดถึงแต่พี่ทุกวันทุกคืน เป็นเรื่องดีจริง ๆ ที่พี่กลับมาได้อย่างปลอดภัย“
“ไป๋จื่อ…นี่คือคุณหนูใหญ่ของบ้านสกุลไป๋ของเจ้าใช่หรือไม่ ? ผู้ที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานแล้วหนีไปกับผู้ชายใช่หรือเปล่า ? อี๋…ข้าไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่สูญเสียพรหมจรรย์คนนั้นยังจะมีหน้ากลับมาที่นี่อีก ! “
กลุ่มหญิงสาวที่ติดตามหลังไป๋จื่อมา แสดงทีท่าเหยียดหยาม ขณะกวาดตามองไป๋หยานอย่างรวดเร็ว สายตาของพวกนางเต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด
“เจ้าไม่ควรกล่าวเช่นนั้นกับพี่ใหญ่ของข้า !” ใบหน้าของไป๋จื่อเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ “แม้ว่าพี่ใหญ่ของข้าจะผิด ทว่านางก็เป็นญาติของข้า ! ยิ่งไปกว่านั้นท่านแม่ก็รักนางมาก ! แม้แต่ข้าและไป๋รั่ว พี่สาวของข้า ก็ยังไม่เคยตำหนิพี่สาวของเราเลย ! หากเจ้ากล้าดูถูกนาง เจ้าก็ออกไปจากบ้านสกุลไป๋ของเราซะ ! “
ไป๋หยานหรี่ตาลงเล็กน้อย ถ้อยคำของไป๋จื่อช่างน่าประทับใจ หญิงผู้นี้แลดูเป็นคนจิตใจดี ไม่ก็ไร้เดียงสายิ่งนัก
ทว่าเมื่อมองย้อนกลับไป ก็มิใช่พวกนางสองคนพี่น้องนี้หรอกหรือ ที่มักคอยรวมหัวกันกลั่นแกล้งไป๋หยาน !
เช่นนั้นไป๋หยานจึงสงสัยว่าเหตุใด จู่ ๆ ไป๋จื่อถึงออกหน้าปกป้องนาง
แต่แล้วนางก็ได้รู้ว่า สุนัขอย่างไรก็ต้องกินขี้ !
“มารดาของเจ้าทำข้าเจ็บปวดมาก…” ไป๋หยานกล่าว พลางกวาดสายตาไปที่ไป๋จื่อ “นางคงกลัวว่าข้าจะอ้วน เช่นนั้นนางจึงไม่ให้ข้าได้กินดีอยู่ดี ปล่อยให้ข้าต้องอด ๆ อยาก ๆ นอกจากนี้นางยังกลัวว่าข้าจะทำสินสอดทองหมั้นของมารดาข้าสูญหาย นางเลยต้องเอาไปจัดการดูแลแทนข้า ! โอ้ ! ใช่แล้วนางยังคิดว่าเมื่ออยู่ท่ามกลางที่ชุมชนข้าอาจจะมีหน้ามีตาเกินไป เช่นนั้นนางจึงไม่เคยให้ข้าได้ใส่เครื่องประดับใด ๆ ภายหลังจากที่มารดาของข้าสิ้นลมเลยแม้แต่ชิ้นเดียว“
หลังจากเปิดเผยความลับเหล่านี้ต่อหน้ากลุ่มหญิงสาวเหล่านั้น ความพยายามของไป๋หยานก็ประสบความสำเร็จ เห็นได้จากใบหน้าที่บิดเบี้ยวเหยเกน่าเกลียดของไป๋จื่อ รอยยิ้มที่เคยมีของไป๋จื่อพลันหุบลงทันที
“ใช่แล้ว…ข้าต้องขอบใจท่านแม่ของเจ้าเป็นอย่างมาก สำหรับความรักที่นางมอบให้ข้าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา !” ริมฝีปากของไป๋หยานโค้งเป็นรอยยิ้ม
ทันทีที่กล่าวจบไป๋หยานก็เชิดหน้าขึ้น ก่อนจะเดินยืดอกเข้าไปในบ้านสกุลไป๋อย่างสมภาคภูมิ หลังจากที่นี่ไปนานถึงหกปี
ในขณะที่ด้านหลังนั้น กลุ่มสาว ๆ ต่างก็มองตามนางพร้อมกับซุบซิบกันไม่ขาดปาก
หลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าไป๋หยานจะเป็นหญิงงามที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งของอาณาจักรหลิวฮั่ว ทว่านางก็มีรูปร่างผ่ายผอม กระทั่งแทบไม่มีหน้าอกเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้หากไม่พูดถึงเครื่องหน้าที่งดงามตามธรรมชาติของนางแล้ว จะว่าไปไป๋หยานก็ไม่สวมใส่เครื่องประดับใด ๆ เลยในที่ชุมชน ไม่แม้แต่จะประทินโฉมด้วยซ้ำ
***จบบท เนี่ยนะผู้ที่เรียกตนเองว่า…พ่อ (1)***