“แล้ว…” สายตาของไป๋เซียวค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ความห่วงใยของท่านตา และท่านลุงกลับไร้ค่า ท่านทั้งสองมอบยาเม็ดจิตวิญญาณอันล้ำค่าทั้งหมดให้กับท่านแม่ ! ทว่าท่านแม่ … กลับไม่คำนึงถึงสิ่งใด นางส่งมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่ท่านพ่อจนหมดสิ้น !“
เพื่อที่จะซื้อยาเม็ดจิตวิญญาณเหล่านั้น บ้านสกุลหลานไม่เพียงแต่จะใช้เงินเก็บทั้งหมด ทว่าพวกเขายังนำสมบัติหลายชิ้นไปเป็นหลักประกันในการกู้เงิน หากหลายปีก่อนท่านลุงสามารถใช้ประโยชน์จากเม็ดยาพวกนั้น กระทั่งบรรลุการฝึกฝนขั้นสูงได้สำเร็จบ้านสกุลหลานคงไม่ตกต่ำเช่นในขณะนี้ !
ที่สุดแล้วคนสกุลหลานต้องสูญเสียมากมาย เพียงเพื่อผลประโยชน์ของไป๋เฉิงเซียงคนไร้หัวใจ …
“ท่านตาของเราป่วยได้อย่างไรกัน ?” ไป๋หยานหน้านิ่วเล็กน้อย ยามเอ่ยถามเรื่องนี้
ครั้นถามถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของไป๋เซียวกลับเย็นชาลง กระทั่งกลายเป็นความแค้นเคือง
“แน่นอนว่าเกิดจากไป๋เฉิงเซียง !”
ครั้งนี้เด็กหนุ่มมิได้ใช้คำว่า “ท่านพ่อ” ทว่ากลับเอ่ยเรียกนามออกมาตรง ๆ แสดงให้เห็นว่าเขาโกรธมากเพียงใด
“นับแต่ ท่านแม่ของเราจากโลกนี้ไป สุขภาพของท่านตาก็แย่ลงเรื่อย ๆ เมื่อหกปีก่อน พี่ยังมาหายตัวไปอีก ด้วยความกังวล และความเป็นห่วง ยิ่งทำให้อาการของท่านตาทรุดหนักลงกว่าเดิม ล่าสุดลูกพี่ลูกน้องของเราก็ไปมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับไป๋จื่อ ทั้งๆ ที่พวกนางต่างก็ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ทว่าไป๋เฉิงเซียงกลับรีบรุดไปที่บ้านสกุลหลาน เขาต้องการให้ท่านตารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่านตาโกรธจนสุดทน กระทั่งหมดสติไป“
ในความทรงจำของไป๋หยาน นางจำได้ว่าท่านตาของนางสุขภาพไม่ค่อยดีนัก ยิ่งนางหายตัวไปเช่นนั้น ย่อมทำให้อาการของท่านทรุดลง หาไม่แล้ว หากท่านตายังมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ไป๋เฉิงเซียง ก็คงไม่กล้าพอที่จะสร้างปัญหาให้กับบ้านสกุลหลาน
“พิจารณาจากความมั่งคั่งของบ้านสกุลหลานแล้ว การหาซื้อยาดี ๆ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เช่นนั้นเหตุใดท่านตาถึงได้ล้มป่วย อีกทั้งยังไม่ทุเลาเป็นเวลานานเช่นนี้” ไป๋หยานลูบคางพลางเอ่ยถามข้อสงสัยในใจ
ไป๋เซียวทำได้เพียงส่ายหัวให้กับคำถามนั้น “ข้าเองก็ไม่รู้รายละเอียด เหตุใดพวกเราไม่ไปเยี่ยมท่านตากันล่ะ ? เผื่อเราจะได้คำตอบ ?”
หกปีที่ผ่านมา ไป๋เซียวผู้ไม่เคยกล้าเข้าบ้านสกุลหลานกลับกลายเป็นว่า เขาได้ไปเยี่ยมเยียนท่านตาท่านยายของเขาอยู่เนือง ๆ เวลานี้ไป๋หยานเองก็กลับมาแล้ว เขาจึงอยากพานางไปที่บ้านสกุลหลานบ้าง
“เช่นนั้นก็ดี เราไปเยี่ยมท่านทั้งสองกันเถอะ” ไป๋หยานพยักหน้า
ดูเหมือนเป็นเหตุบังเอิญ ครั้นพวกเขาคิดจะไปเยือนบ้านสกุลหลาน ฮูหยินชราแห่งบ้านสกุลหลานก็ส่งคนมาที่บ้านสกุลไป๋ ทันทีที่ได้ข่าวการกลับมาของไป๋หยาน
ในขณะนี้ มีหญิงชราผู้หนึ่งนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ของบ้านสกุลไป๋ นางค่อย ๆ วางถ้วยน้ำชาลง พลางกล่าวว่า “นายหญิงของข้า ทราบข่าวว่าหลานสาวของท่าน คุณหนูไป๋หยานได้กลับมาแล้ว นางคิดถึงหลานสาวมาก กระทั่งล้มป่วย เช่นนี้แล้วท่านยังจะขัดขวางการพบกันของยายหลานอีกกระนั้นหรือ ?”
น้ำเสียงของหญิงชราเข้มงวด อีกทั้งถ้อยคำที่ใช้ก็รุนแรง นั่นทำให้ไป๋เฉิงเซียงถึงกับขมวดคิ้วเล็กน้อย
แท้ที่จริง เขาไม่ต้องการให้ลูก ๆ ของตนไปคลุกคลีกับคนบ้านสกุลหลานมากนัก แม้แต่ไป๋เซียวที่เคยไปเยี่ยมเยียนฝ่ายนั้นอยู่เนือง ๆ ก็ยังโดนเขาตีเพราะเหตุนี้ !
“หยานเอ๋อ เพิ่งกลับมาถึง ข้าเกรงว่านางคงไม่สามารถไปกับเจ้าได้ … ” ก่อนที่ไป๋เฉิงเซียงจะทันได้กล่าวจบประโยค เขาก็เห็นไป๋หยานเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าที่สง่างามพร้อมด้วยไป๋เซียว เวลานั้นคำพูดที่เขาอยากจะพูดก็ได้แต่ถูกกลืนกลับลงลำคอ เห็นได้ชัดว่า เขามีสีหน้าลำบากใจ
“ท่านยายส่งเจ้ามารับข้าใช่หรือไม่ ? หากเป็นเช่นนั้น พวกเราก็ไปกันเถอะ ข้าไม่อยากให้ท่านยายต้องรอ“
ไป๋หยานทำราวกับว่าไม่เห็นบิดาของตนอยู่ในสายตา นางเดินผ่านชายผู้นั้นไปหยุดข้างกายหญิงชราขณะเอ่ยปาก
นั่นทำให้หญิงชราตกใจไม่น้อย นางมารับตัวไป๋หยานหลายต่อหลายครั้งแล้ว ทว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ไป๋หยานมักปฏิเสธที่จะไปด้วย ทว่าวันนี้เหตุใดคุณหนูถึงเปลี่ยนใจ ?
“ไป๋หยาน !” ไป๋เฉิงเซียงตะคอกด้วยความโกรธ “อย่าลืมสิว่ามารดาของเจ้าแต่งงานกับข้า อีกทั้งนางยังเป็นภรรยาของข้า ส่วนเจ้าและเซียวเอ๋อต่างก็เป็นสายเลือดของข้า สายเลือดสกุลไป๋ สำหรับเจ้า คนในบ้านสกุลหลานเป็นเพียงคนนอก ! หากข้าไม่อนุญาต ! เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ไปบ้านสกุลหลาน“
***จบบท เยี่ยมบ้านสกุลหลาน***