แต่ว่า …” ไป๋เสี่ยวเฉินเอียงคอ ด้วยท่าทางไร้เดียงสา
“หญิงชั่วผู้นั้นยังคว้าบุรุษมาทำลูกได้ ก็แล้วไยหม่ามี้ถึงทำไม่ได้ล่ะ ? หวังเสี่ยวผางที่อยู่ข้างบ้านก็มีน้องสาว เฉินเอ๋อก็อยากมีน้องสาวบ้าง“
“หวังเสี่ยวผางคือผู้ใด ?” ไป๋หยานเลิกคิ้วพร้อมกับเอ่ยถาม
“เขาอาศัยอยู่บ้านถัดจากเรา เป็นเพื่อนใหม่ของเฉินเอ๋อ ครอบครัวของเขาร่ำรวยมาก หวังเสี่ยวผางเลยกินจนอ้วนฉุ“
ไป๋หยานขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิดเล็กน้อย และแล้วนางก็เข้าใจ
เด็กข้างบ้านผู้นี้มิได้มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทว่าเป็นเพื่อนใหม่ของไป๋เสี่ยวเฉินที่อาศัยอยู่บ้านข้าง ๆ ถัดจากบ้านของนางในเมืองหลิวฮั่วนี้
แม้ว่าสติปัญญา และบุคลิกของเฉินเอ๋อจะสูงกว่าระดับปกติ หากแต่เขาก็ยังเป็นเพียงเด็ก เด็กก็ย่อมต้องการเล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกัน
“ลูกรัก” ไป๋หยานอุ้มบุตรชายของตนขึ้นมา พลางใช้นิ้วคีบจมูกเล็ก ๆ ของเขา “น้องสาวน่ะใช่ว่าอยากจะมีก็มีได้นะ มันต้องแล้วแต่โชคชะตา ตอนนี้เจ้ายังเด็กไว้เจ้าโต เจ้าก็จะเข้าใจเอง “
ไป๋เสี่ยวเฉินพยักหน้ารับราวกับว่าเข้าใจ
เขาอิจฉาหวังเสี่ยวผางเพื่อนของเขายิ่งนัก หวังเสี่ยวผางมีน้องสาวที่น่ารัก เช่นนั้นเขาจึงรั้นไม่ฟังคำมารดา
“หม่ามี้ งั้นเราไปตามหาป๊ะป๋ากันเลยดีมั้ย ? หากป๊ะป๋าต้องการพาเฉินเอ๋อไปกับป๊ะป๋า หม่ามี้ก็ไปพร้อมกับพวกเราด้วยดีมั้ย ?”
ก็ถ้าหาป๊ะป๋าเจอ ข้าก็จะมีน้องสาวไง
“แล้วถ้าป๊ะป๋าต้องการแต่เจ้า แล้วไม่ต้องการหม่ามี้ของเจ้าล่ะ ?”
เฉินเอ๋อมิได้เกิดจากความรัก และความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย ทว่าเกิดจากนางโดนยาปลุกกำหนัด จึงต้องการคนช่วยระบายพิษยาต่างหาก
ไป๋เสี่ยวเฉินไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน เช่นนั้นเขาจึงตกตะลึงกับคำถาม
เด็กน้อยได้แต่นิ่งเงียบ
หลังจากนิ่งคิดเพียงครู่ ดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์ของไป๋เสี่ยวเฉินพลันฉายประกาย …
“หม่ามี้แสนดีขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ป๊ะป๋าจะไม่ต้องการท่าน ! แต่หากเขาไม่ต้องการหม่ามี้จริง ๆ … เฉินเอ๋อก็ไม่ต้องเขาเช่นกัน”
ร่างเล็ก ๆ ของไป๋เสี่ยวเฉินซุกเข้าไปในอ้อมแขนของมารดา มือของเขาจับแขนเสื้อของนางแน่น
ในโลกนี้ เขายอมสูญเสียทุกสิ่ง ขอเพียงมีหม่ามี้คนเดียวก็พอแล้ว !
ไป๋หยานกอดร่างเล็ก ๆ นุ่ม ๆ ไว้ในอ้อมแขน ริมฝีปากเผยรอยยิ้มพึงใจ
ตลอดชีวิต นางไม่เคยนึกเสียใจที่ให้กำเนิดไป๋เสี่ยวเฉินลูกคนนี้เลย
ทันใดนั้นเอง สายลมยามค่ำก็พัดหวีดหวิว พลันกลิ่นจาง ๆ ที่นางคุ้นเคยก็ลอยมาแตะจมูก นั่นทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวจนหน้าซีด ไป๋หยานผลุนผลันลุกขึ้นจากเก้าอี้ นางรีบหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
“ยานี้สามารถปกปิดกลิ่นอายของเจ้าได้ รีบกินยานี้เร็ว จากนั้นก็ไปซ่อนใต้เตียง จำไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามเจ้าออกมา !“
ไป๋เสี่ยวเฉินไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เขาถูกมารดาบังคับให้กลืนยา จากนั้นมารดาก็รีบยัดตัวเขาลงใต้เตียง
ชั่วอึดใจถัดมา ร่างที่เปล่งประกายแพรวพราวก็โผล่เข้ามา
เส้นผมสีเงินยวงของเขาช่างมีเสน่ห์หาใดเทียบ
เย่อหยิ่ง ชั่วร้าย เย้ายวนใจ ไม่มีถ้อยคำใดสามารถอธิบายบุรุษผู้นี้ได้เลย
ในอาภรณ์สีม่วง ยิ่งขับให้เขาแลดูสง่างามโดดเด่นในยามราตรี นัยน์ตาหงส์ของเขาเปล่งประกายแลดูมืดมน ทว่าก็งดงามแวววาว
ไป๋หยานถึงกับหายใจติดขัด คนอะไรจะหล่อเหลาปานนี้ ! ไม่น่าแปลกใจเลยว่า เหตุใดหญิงสาวในอาณาจักรนี้ต่างก็อยากเป็นชายาของอ๋องคัง !
น่าเศร้าที่ว่า ….
สิ่งใดสวยงามมาก ก็มักจะอันตรายมาก !
บุรุษผู้นี้ก็เหมือนบุปผาที่อยู่ปลายยอดผา หากไม่ระวัง ยามเอื้อมมือเด็ด อาจตกลงสู่หุบเหวลึก ที่สุดย่อมพบจุดจบที่แหลกลาญไม่ต่างจากความหลงเพ้อที่พวกนางเรียกว่าความรัก
“เจ้ากำลังคิดสิ่งใด ?”
ในขณะที่ไป๋หยานกำลังนิ่งงันอยู่นั้น บุรุษผู้นั้นก็มายืนอยู่เบื้องหน้านางแล้ว ลมหายใจร้อน ๆ ปะทะใบหน้านางบางเบา ปลุกให้ไป๋หยานรู้สึกตัว
ครั้นนางเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลานั้นยื่นเข้ามาใกล้ นางก็ไม่ลังเลที่จะเหยียดเท้าออกไปหมายจะเตะเขา
***จบบท เตะเขา !***