สายตาของตี้คังยังคงจดจ่ออยู่ที่ริมฝีปากของไป๋หยาน นิ้วมือเย็น ๆ ลูบไล้ริมฝีปากนาง เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังระงับอารมณ์ไว้อย่างเต็มที่
“เจ็บ แล้วไยไม่บอก ?”
ครั้นเห็นรอยเลือดนั่นแล้ว หัวใจของเขาก็ราวกับถูกฉีกออกเป็นแผลกว้าง เขารู้สึกเจ็บปวด กระทั่งต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง
“แล้วท่านให้โอกาสข้าพูดหรือไม่ล่ะ ?” ไป๋หยานเยาะ
ริมฝีปากของนางถูกเขาผนึกไว้ แล้วนางจะบอกเขาอย่างไร ?
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้นางพูด แล้วเขาจะยอมปล่อยนางหรือ ?
“ไป๋หยาน !” ตี้คังขยับเข้าใกล้นางอีก เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “เจ้ายังติดหนี้ข้าอยู่อีกเก้าจูบ ! ข้าจะกลับมาเอาคืนทีละครั้ง !“
ไป๋หยานเบิกตากว้าง พลางกล่าวด้วยความโมโห “ข้าเพียงจูบท่านครั้งเดียว ท่านจะเอาคืนสิบจูบเลยกระนั้นหรือ ? ไม่มากไปหน่อยหรือ ?”
ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวของนาง ตี้คังหันหลังกลับแล้วจากไปทันที ร่างในอาภรณ์สีม่วงหายลับไปกับท้องฟ้ายามราตรี ทิ้งไว้เพียงสายลมพัดเย็น เคลียไล้แก้มของไป๋หยาน
ครั้นตี้คังจากไปแล้ว ไป๋เสี่ยวเฉินก็คลานออกจากใต้เตียง เขาปัดฝุ่นที่ติดบนเสื้อผ้า ก่อนจะรีบวิ่งไปอยู่ข้างมารดาของตน
“หม่ามี้ เขาคือป๊ะป๋าของลูกใช่มั้ย ?”
เสียงเด็กน้อยของไป๋เสี่ยวเฉินทำให้ไป๋หยานได้สติ “เฉินเอ๋อ เข้าใจผิดแล้ว ชายผู้นั้นมิใช่บิดาของเจ้า”
“หม่ามี้โกหก !” ไป๋เสี่ยวเฉินทำแก้มป่องราวกับซาลาเปา “เห็นได้ชัดว่าเขาคือป๊ะป๋าของลูก ! แต่ลูกไม่ชอบเขา … ”
ขณะที่กล่าวประโยคสุดท้าย น้ำเสียงของไป๋เสี่ยวเฉินฟังดูผิดหวังเล็กน้อย
กว่าจะรู้ว่าบิดาของเขาเป็นผู้ใดมิใช่เรื่องง่าย หากแต่เขากลับไม่ชอบชายผู้นั้นเลย
“ทำไมล่ะ ?” ไป๋หยานเอ่ยถาม
“เขาดุร้ายเกินไป“
ไป๋เสี่ยวเฉินเบ้ปากอย่างไม่มีความสุข ในความคิดของเจ้าตัวน้อย ภาพลักษณ์ของป๊ะป๋านั้นจะต้องดูเหมือนพ่อบุญธรรมของเขา ฉู่อี้เฟิง ที่พร้อมให้ความอบอุ่นกับเขาและแม่
“หม่ามี้ ท่านเป็นภรรยาของพ่อบุญธรรมจะได้หรือไม่ ?” ไป๋เสียวเฉินโอบรอบคอมารดา พร้อมกับใช้สายตาวิงวอน “พ่อบุญธรรมใจดี และอ่อนโยนมาก อีกทั้งยังรวยมากด้วย ต้องดีกว่าชายดุร้ายผู้นั้นเป็นแน่“
หากชายผู้นั้นมิใช่บิดาของเขา เขาคงจะรีบออกมาทุบหัวชายผู้นั้นทันทีที่เห็นชายผู้นั้นรังแกหม่ามี้แล้ว
ครั้นหวนคิดถึงจูบนั้นอีกครั้ง ไป๋หยานก็รู้สึกละอายเล็กน้อย “เขาเอ่อ … เขาไม่ได้รังแกแม่“
ก็นางเป็นฝ่ายจูบเขาก่อน
“ลูกเห็นทุกอย่าง !” แก้มของเด็กชายแดงจัด ขณะกล่าวอย่างโกรธ ๆ “จอมวายร้ายนั่นกัดหม่ามี้ ทั้งยังทำให้หม่ามี้เลือดออกด้วย เฉินเอ๋อไม่อยากให้เขาเป็นป๊ะป๋าของเฉินเอ๋อ“
ไป๋เสี่ยวเฉินยังเด็ก เขาย่อมไม่เข้าใจในสิ่งที่ตี้คังทำกับมารดาของตน เขารู้เพียงว่าชายผู้นั้นกัดปากมารดาของเขากระทั่งเลือดออก
เช่นนั้น ความประทับใจแรกของเขาที่มีต่อตี้คังจึงแย่มาก
“หม่ามี้ เฉินเอ๋อรู้ว่าจอมวายร้ายนั่นแข็งแกร่งมาก หม่ามี้กลัวว่าเขาจะพรากลูกไป เช่นนั้นจึงไม่ให้ลูกแสดงตัว” ไป๋เสี่ยวเฉินแนบแก้มของเขากับแก้มของไป๋หยาน “แต่หม่ามี้ไม่ต้องกลัว อีกไม่ช้าเฉินเอ๋อก็จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หากจอมวายร้ายนั่นกล้ามารังแกหม่ามี้อีก เฉินเอ๋อจะกัดเขาให้ตายเลย ! “
หัวใจของไป๋หยานพลันอบอุ่น นางรู้สึกราวกับว่าทุกสิ่งที่นางสู้อดทนมาจนถึงตอนนี้นั้นคุ้มค่า
“เฉินเอ๋อ ช่วงนี้ แม่จะยังไม่กลับไปที่บ้านของเรา แต่แม่จะให้ป้าฮัวหลัวดูแลเจ้าแทน เมื่อใดที่เราทำภารกิจสำเร็จ แม่ก็จะพาเจ้าไปจากที่นี่ทันที ไม่ปล่อยให้จอมวายร้ายนั่นมาวุ่นวายกับเราได้อีก“
นัยน์ตาของไป๋เสี่ยวเฉินเศร้า เขารู้สึกขัดใจที่มารดาของเขาจะไม่ได้อยู่ด้วย หากแต่เขาก็พยักหน้า “ไม่ต้องห่วงหม่ามี้ ลูกจะทำตัวดี ๆ ไม่สร้างปัญหา ลูกจะรอหม่ามี้จัดการเรื่องต่าง ๆ จนเสร็จ แล้วกลับมารับเฉินเอ๋อไปจากที่นี่“