“ฮึ !“
ครั้นไป๋จื่อเห็นสตรีที่นางชิงชังเดินออกมา นางก็ทำเสียง “ฮึ” พร้อมกับจ้องมองอย่างโกรธแค้น
“ท่านปู่”
หลานเสี่ยวหยุนรีบวิ่งเข้าไปยืนข้าง ๆ ปู่ของนาง จากนั้นนางก็ปรายหางตาไปมองไป๋จื่อผู้ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ขันทีน้อย “ไป๋จื่อ นางผู้หญิงต่ำตม ผู้ใดอนุญาตให้เจ้าเข้ามาในบ้านสกุลหลานของข้า ออกไปซะ !“
ไป๋จื่อก้าวไปข้างหน้าสองก้าว นางยืดอกขึ้น ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงสูง “ก็แล้วเหตุใดข้าถึงมาบ้านสกุลหลานไม่ได้เล่า ? อีกไม่นานอาณาจักรนี้ทั้งอาณาจักรก็จะเป็นของพี่สาวและพี่เขยข้า พื้นดินของบ้านสกุลหลานนี่ย่อมต้องเป็นของข้า ! หรือไม่ หากเจ้ายั่วโมโหข้าอีกครั้ง ข้าจะจับเจ้าโยนออกจากอาณาจักรนี้ ! “
หลานเสี่ยวหยุนใบหน้าแดงก่ำ นางจ้องมองไป๋จื่ออย่างโกรธจัด อยากจะบริพาษออกไปสักพันคำ ทว่าที่สุดแล้วกลับหลุดออกมาได้เพียง 3 คำ “ไร้ยางอาย !“
ไป๋หยานมองหลานเสี่ยวหยุนแล้ว นางอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
แม้ว่าหลานเสี่ยวหยุนจะมีบุคลิกคล้ายแม่มดน้อยที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หากแต่แท้จริง พวกนางก็มีความแตกต่างกันมากพอควร
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากแม่มดน้อยอยู่ที่นี่แล้วล่ะก็ ไป๋จื่อจะต้องเป็นผู้กรีดร้องอย่างบ้าคลั่งแทน
อืม …
นางชักจะคิดถึงแม่มดตัวน้อยคนนั้นแล้วสิ
ไป๋จื่อมองหลานเสี่ยวหยุนอย่างดูถูกเหยียดหยาม ทว่านางขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียง นางหันกลับไปหาขันทีน้อย “เจ้าจะรออะไรอยู่อีกรีบอ่านราชโองการสิ !“
ครั้นได้ยินเช่นนั้น ขันทีน้อยก็กระแอมล้างคอ ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าพร้อมประกาศว่า “ฮองเฮามีพระบัญชา ให้ไป๋หยาน บุตรสาวบ้านสกุลไป๋ ซึ่งอ๋องคังถูกตาต้องใจ อภิเษกกับอ๋องคังในฐานะพระสนม ส่วนวันและเวลาจะกำหนดขึ้นในภายหลัง“
เมื่อขันทีน้อยประกาศเสร็จ เขาก็ยิ้มเจื่อน ๆ “ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลาน, ขอแสดงความยินดีกับแม่นางไป๋หยาน นี่นับเป็นโอกาสที่ดีจริงๆ ฮองเฮามีกระแสรับสั่งให้ข้ามามอบราชโองการให้แม่นางไป๋หยาน เช่นนี้อีกไม่ช้า ท่านก็จะได้เป็นพระสนมของอ๋องคัง นั่นหมายความว่า คุณหนูสามไป๋จื่อแห่งบ้านสกุลไป๋ก็จะเป็นนายหญิงของท่าน ท่านต้องให้ความเคารพนาง อีกทั้งไม่ควรล่วงเกินนาง นอกจากนี้เพื่อสุขภาพที่ดีของอ๋องคังสวามีของท่าน ท่านไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ร่วมราตรีกับอ๋องคัง ทั้งท่านควรต้องแนะนำอ๋องคังให้ไปนอนที่ห้องคุณหนูไป๋จื่อแทน “
ขันทีน้อยผู้น่าสงสารยังคงทำหน้าที่ส่งผ่านพระบัญชาของฮองเฮา หากแต่เขาไม่รู้เลยว่านายหญิงของเขาโดนส่งตัวไปอยู่ตำหนักเย็นเสียแล้ว !
“หุบปาก !”
ทันใดนั้นเองเสียงโกรธเกรี้ยวก็ดังลั่น ทำให้ขันทีน้อยหวาดกลัว เขาเงยหน้าขึ้นมองอย่างอกสั่นขวัญหาย
ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานกำหมัดแน่น กระทั่งมือสั่นระริก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาล ขณะเปล่งเสียงดังก้อง “หลานสาวของข้ามิได้ตกต่ำจนถึงกับต้องถวายตัวเป็นพระสนมของผู้ใด กลับไปกราบทูลฮองเฮาของเจ้าให้เก็บราชโองการนี้คืนไป หาไม่แล้ว ข้าจะไม่ไว้หน้าราชสำนักรวมถึงฮองเฮาด้วย ! “
ขันทีน้อยตกใจเป็นอย่างมาก ไป๋หยานสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว นี่นับเป็นเกียรติสูงส่งที่ได้เป็นพระสนมของอ๋องคัง เหตุใดท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานถึงกล้าปฏิเสธ ?
“ท่านเจ้าบ้านหลาน ท่าน … ” เห็นได้ชัดว่าขันทีน้อยต้องการจะกล่าวมากกว่านี้
หากแต่ก่อนที่เขาจะทันได้กล่าวคำใดไปมากกว่านี้ น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเดือดดาลของท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ไป, ออกไป ! หาไม่แล้วอย่าได้โทษข้าที่ไม่เกรงใจ !“
ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านปล่อยหมัดใส่ต้นไม้ที่อยู่ในลานบ้านใกล้ ๆ หนึ่งหมัด ต้นไม้สั่นไหวสองสามครั้งก่อนจะล้มครืนลงมา ขันทีน้อยหวาดกลัวกระทั่งสีหน้าซีดเผือด เขารีบเร่งออกจากห้องโถงรับรอง และด้วยความรีบเร่งนั้นเองทำให้ขันทีน้อยสะดุดหกล้มหกลุกกว่าจะผ่านพ้นประตูห้องโถงรับรองไปได้
ไม่สำคัญอีกแล้ว อย่างไรเสียเขาก็อ่านราชโองการจบแล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ เพื่อให้โดนคุกคามอีก …
“แค่ก แค่ก !” ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานกุมหน้าอกของตนแน่น พร้อมกับไอออกมาอย่างแรงสองครั้ง
“ท่านพ่อ !“
“ท่านปู่“
หลานหยู และพวกเด็ก ๆ ต่างก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยลูบอกตบหลังชายชราอย่างรีบเร่ง เพื่อบรรเทาความโกรธของชายชรา
“ท่านตา” ไป๋หยานเองก็เดินเข้าไปช่วยตบหลังเขาด้วยเช่นกัน “ท่านตา ท่านก็ชรามากแล้ว ท่านไม่ควรโมโหให้มากนัก อย่าโกรธคนพวกนั้นเลย“
ในที่สุด ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานก็สงบลง เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ทว่ายังกล่าวด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “หยานเอ๋อ ในคืนนั้น ข้าเห็นกับตาตนเองว่าความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับอ๋องคังนั้นไม่ธรรมดา ทว่าเจ้าก็เป็นคนสายเลือดตระกูลหลาน ! นั่นหมายความว่าเจ้าต้องทำตามกฎของบ้านสกุลหลานเรา ! สกุลหลานเราถือว่าเป็นฮูหยินของคนยากยังดีกว่าเป็นอนุของคนรวย ! หากเจ้ายอมเป็นพระสนมของอ๋องคัง ข้าก็จะไม่นับว่าเจ้าเป็นหลานของข้าอีกสืบไป !“
***จบบท เป็นพระสนม ? (2)***