“แงงงงงงงงงงงงง !“
หวังเสี่ยวผางร่ำไห้ ร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ร่างตุ้ยนุ้ย ของเขาดิ้นไปมาไม่หยุด “ท่านพ่อ หยุดตีข้า หยุดตีข้าเถอะ ! เสี่ยวเฉิน ให้เราสองขวด ข้าเพิ่งกินไปเพียงขวดเดียว !“
และแล้ว…
ทันทีที่คำพูดของหวังเสี่ยวผางหลุดออกจากปาก หวังตี้จวิน บิดาของเขาก็หยุดมือทันที เขาปล่อยตัวบุตรชาย และทิ้งไม้เรียวลงพื้น ขณะกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “เหตุใดเจ้าไม่พูดให้เร็วกว่านี้หา ? ทำให้ข้าต้องเสียแรงตีเจ้าจนเหนื่อย เอาล่ะ เอายานั่นมาให้ข้า ข้าจะริบมันไว้ทั้งหมด“
หวังเสี่ยวผางแทบจะร้องไห้ เขาหยิบขวดยาอีกขวดออกมา และมอบให้บิดาอย่างไม่เต็มใจนัก
“ก็แค่นั้น…“
หวังตี้จวินทำเสียงฮึดฮัดราวไม่สบอารมณ์ จากนั้นก็หยิบขวดยาหันหลังเดินจากไป โดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลังหันกลับไปมองบุตรชาย ทว่าครั้นไม่มีผู้ใดเห็น ใบหน้าเคร่งขรึมของเขาพลันเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
ยาเม็ดบำรุงพวกนี้ ล้วนทำเงินทั้งสิ้น !
นี่หากเสี่ยวผางไม่กินไปเสียเยอะ เขาก็คงจะได้เงินมากกว่านี้อีกนักหนา
*****
ในเวลาเดียวกัน
ณ บ้านสกุลหลาน
ที่สงบสุขและร่มเย็น
ร่างในอาภรณ์สีแดงนั่งอยู่บนยอดเขาจำลองที่ตั้งในลานบ้านภายใต้แสงแดด นางยิ่งงดงามหาที่เปรียบมิได้
“พี่ไป๋หยาน” หลานเสี่ยวหยุนค่อย ๆ ย่อกายลงนั่งข้าง ๆ หญิงสาวแสนงาม นัยน์ตาโต ๆ ของนางเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ข้าขอถามอะไรพี่หน่อยจะได้หรือไม่ ?”
“หืม ?” ไป๋หยานเลิกคิ้ว พร้อมกับหันไปทางน้องสาว
“ตกลงเขาคือ … คนที่พี่มีความสัมพันธ์ด้วยใช่หรือไม่ ? อ๋องคังน่ะ ?”
นางรู้ว่าเรื่องนี้น่าอับอายมากสำหรับสตรีทุกคน เช่นนั้นนางจึงชั่งใจอยู่นานกว่าจะถามออกมาได้ และเมื่อนางเอ่ยถาม นางก็ยังเกรงว่าจะไปแตะต้องบาดแผลเก่าของลูกพี่ลูกน้องของนาง
ไป๋หยานใจสั่น ทว่าสีหน้าท่าทางของนางกลับมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ขณะถามกลับ “เหตุใดเจ้าถึงถามเช่นนั้นเล่า ?”
“เอ่อ… ข้าได้ยินมาว่า ระหว่างการประชุมขุนนางในเช้าวันนี้ อ๋องคังได้กล่าวอ้างว่า พี่คือผู้หญิงของเขา ทั้งยังบอกว่าเมื่อหกปีที่แล้วเขาโดนวางยา จึงบังคับขืนใจพี่ ! หากมีผู้ใดกล้ากล่าววาจาดูหมิ่นพี่อีก เขาจะตามไล่ล่าไปจนสุดหล้า และจะไม่หยุดล่าจนกว่าจะได้ฆ่าคนผู้นั้น” ยิ่งเด็กสาวเล่า นางก็ยิ่งตื่นเต้น ในความคิดของหลานเสี่ยวหยุน หากอ๋องคังได้สมรสกับพี่สาวของนางจริง นางก็จะสามารถเหยียบย่ำบ้านสกุลไป๋ได้
ทันทีที่ได้ยินถ้อยคำของน้องสาวไป๋หยานพลันชะงักนิ้วมือที่กำลังลูบไล้เรือนผมสีดำสนิทของตน อารมณ์หลากหลายซับซ้อนไหลผ่านหัวใจของนาง
หกปีที่แล้ว นางเองต่างหากที่เป็นคนโดนยาปลุกกำหนัด ทั้งยังเป็นผู้บังคับขืนใจเขา ก็แล้วเหตุใดเขาถึงรับทุกอย่างไว้เอง
เหตุใดต้องออกรับผิดแทนนางด้วย …
หรือเพียงเพราะเขาไม่รังเกียจนาง ? หากเป็นเช่นนั้น เขาก็ทำเกินไปแล้ว
“พี่ไป๋หยาน… เกิดอะไรขึ้น ?” หลานเสี่ยวหยุนเห็นลูกพี่ลูกน้องของนางมีสีหน้าแปลก ๆ จึงเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไร … ”
ไป๋หยานขมวดคิ้วเล็กน้อย
แท้ที่จริง ทันทีที่นางแยกจากตี้คัง ในใจลึก ๆ ไป๋หยานก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ยิ่งตอนนี้นางมาได้ยินข่าวจากน้องสาวอีก นางก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น แล้วนางก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
“ไป๋เสี่ยวเฉิน…”
ทันทีที่ชื่อนี้ปรากฏขึ้นในหัวของนาง ไป๋หยานก็ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว !
“พี่ไป๋หยาน พี่จะไปที่ใด ?” หลานเสี่ยวหยุนรีบลุกตาม
แต่ครั้นหลานเสี่ยวหยุนกล่าวจบ ร่างที่สง่างามในอาภรณ์สีแดงก็หายลับไปจากสายตาแล้ว ทิ้งหญิงสาวให้ยืนงงงวยอยู่เบื้องหลัง
“พี่ไป๋หยาน ดูแปลกไป หรือเป็นได้ว่า…” เด็กสาวกัดริมฝีปาก “ข้าต้องรีบไปรายงานเรื่องนี้กับท่านปู่” จากนั้นนางก็รีบลงจากภูเขาจำลองที่อยู่ในลานบ้าน นางวิ่งตื๋อเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
*****
ขณะที่ไป๋หยานรีบรุดไปยังคฤหาสน์โบราณที่นางเตรียมไว้สำหรับบุตรชาย ตี้คังและคนของเขาก็โอบล้อมคฤหาสน์หลังนั้นไว้แล้ว
“ท่านอ๋อง โปรดมีบัญชา” องครักษ์ก้มศีรษะรอรับคำสั่งของอ๋องคัง
“พวกเจ้าทุกคนรอข้าที่นี่ ข้าจะเข้าไปข้างใน” น้ำเสียงของตี้คังเย็นชาเปี่ยมด้วยอำนาจ
หลังกล่าวจบ เขาก็ก้าวเข้าไปในคฤหาสน์โบราณแต่เพียงลำพัง …
***จบบท ตี้คังมาแล้ว !***