ณ บ้านสกุลไป๋
ไป๋เสี่ยวเฉินอุ้มเสี่ยวมี่เดินตามหลังสาวใช้เข้าไปอย่างเงียบ ๆ
ในที่สุดพวกนางก็เดินมาหยุดหน้าห้องเก็บฟืน จากนั้นสาวใช้ก็ชี้นิ้วไปที่ห้องเก็บฟืน
“คืนนี้ เจ้านอนที่นี่ !”
ห้องเก็บฟืน
เนื่องจากไม่ไว้วางใจไป๋เซียวจึงเดินตามไป๋เสี่ยวเฉินมา ครั้นไป๋เซียวเห็นสาวใช้ชี้ไปที่ห้องเก็บฟืน ใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที
“เฉินเอ๋อ ไม่ได้เป็นเพียงบุตรชายของพี่สาวข้า ทว่าเขายังเป็นหลานชายของข้าด้วย ! ” ริมฝีปากของไป๋เซียวยกโค้ง รอยยิ้มของเขาเหยียดหยัน “ผู้ใดอนุญาตให้เจ้าจัดห้องเก็บฟืนให้เขาพัก ?”
สาวใช้กัดริมฝีปากก่อนตอบคำ “ฮูหยินผู้เฒ่า เจ้าค่ะ”
“ฮูหยินผู้เฒ่างั้นหรือ ?” ไป๋เซียวหัวเราะอย่างเย็นชา “นางเป็นใครกัน ? ก็แค่คนนอกมีสิทธิ์อะไรมาออกคำสั่งในบ้านสกุลไป๋ ?”
ภายใต้กระแสกดดันจากไป๋เซียว สาวใช้ไม่กล้ากล่าวคำใดอีก เพราะแม้ฮูหยินผู้เฒ่าจะเป็นคนนอก ทว่าบ่าวรับใช้ที่นี่มีผู้ใดบ้างที่กล้าไม่เชื่อฟังนาง ?
“นายน้อย โปรดเมตตา หากนายท่านกลับมา…“
“ออกไป !” ไป๋เซียวคำราม
“กลับไปบอกนางว่า ข้าจะหาที่พักให้หลานชายของข้าเอง ข้าไม่ต้องการให้คนนอกมาจัดการเรื่องของเรา“
หลังจากสั่งความจบ ไป๋เซียวก็ไม่มองสาวใช้อีก เขาก้มลงอุ้มเจ้าซาลาเปาน้อยที่อยู่เบื้องหน้า จากนั้นก็หันกลับไปยังทางออก
“เฉินเอ๋อ คืนนี้เจ้านอนกับน้า พรุ่งนี้เช้า น้าจะส่งเจ้ากลับบ้านท่านแม่ของเจ้า“
“มีห้องข้าง ๆ ห้องท่านน้าอีกมั้ย ?” ไป๋เสี่ยวเฉินกล่าวนัยน์ตาเป็นประกาย เด็กน้อยยิ้มอย่างไร้เดียงสาขณะกล่าวต่อว่า“เฉินเอ๋อ นอนที่ห้องข้าง ๆ นั่นก็ได้ ! คืนนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามท่านน้าออกมาจากห้องเด็ดขาด ให้คิดเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น”
ไป๋เซียวนิ่งคิด เขามองลึกเข้าไปในดวงตาดำขลับราวกับนิลของเด็กน้อย พร้อมกับครุ่นคิด หัวใจของเขาสั่นไหว “ก็ได้ น้าจะทำตามที่เจ้าบอก“
เด็กน้อยคนนี้ไม่เหมือนเด็กอายุห้าขวบเลย บางครั้งเขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ยิ่งกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก
“เสี่ยวมี่ เราไปกันเถอะ”
ไป๋เสี่ยวเฉินยิ้มอย่างน่ารัก นัยน์ตาเปล่งประกายสดใส ยิ่งดูยิ่งคล้ายกับดวงตาของตี้คัง ทั้งคู่ต่างก็มีดวงตาฉลาดแกมโกงเช่นเดียวกับนัยน์ตาของสุนัขจิ้งจอก
*****
ช่วงเวลานั้นเอง ณ ห้องด้านตะวันออกของบ้านสกุลไป๋ หยูหรงสะบัดกายลุกขึ้นจากที่นั่ง “ท่านแม่ ท่านพาเด็กนั่นมาที่นี่ได้อย่างไร ?”
ไป๋หยานไม่ได้แท้ง…อีกทั้งยังให้กำเนิดเด็กเหลือขอที่ไม่รู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ต่อไปในวันหน้าเด็กคนนี้จะเป็นเช่นไร ?
“ก่อนหน้านี้ ข้าขายไป๋หยานไม่ได้ มาวันนี้ข้าจะขายบุตรชายของนางแทน !“
นัยน์ตาของหยูฮูหยินแลดูเย็นชา เมื่อนางหวนคิดถึง เรื่องราวเมื่อหกปีก่อน เป็นเพราะไป๋หยานทำให้นางต้องเสียยาเม็ดจิตวิญญาณ ยิ่งคิดหัวใจของนางก็ยิ่งเจ็บปวด
หยูหรงรู้สึกประหลาดใจกับคำกล่าวของมารดา “ท่านแม่ ที่ตอนนั้นเราสามารถขายไป๋หยานได้ ก็ด้วยเหตุที่เฉิงเซียงไม่อยู่บ้าน เพราะต่อให้สามีของข้าเข้าข้างเราเพียงใดก็ตาม เขาก็ไม่มีวันขายเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง เช่นนั้นย่อมเป็นการยากที่ท่านจะขายเด็กนั่นได้ “
แท้ที่จริง ตอนที่หลานเยี่ยยังมีชีวิตอยู่ ไป๋เฉิงเซียงก็ดีกับไป๋หยานมาก
ถึงแม้หยูหรงจะก้าวเข้ามาเป็นแม่เลี้ยงนาง ไป๋เฉิงเซียงก็ไม่เคยทำให้ไป๋หยานเจ็บปวด
น่าเศร้า…
เพียงเพื่อต้องการบีบไป๋หยาน ทั้งแม่ทั้งลูกสาวของหยูหรงต่างก็พยายามเป่าหูไป๋เฉิงเซียง พวกนางต่างช่วยกันให้ร้ายไป๋หยาน ส่วนไป๋หยานเองก็อ่อนแอ กระทั่งไม่อาจต่อต้านกลอุบายของแม่ลูกพวกนี้ได้ นั่นทำให้ไป๋เฉิงเซียงยิ่งผิดหวังในตัวบุตรสาวคนโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
ครั้นผิดหวังมากเข้า สุดท้ายก็หมดความรู้สึกกับนาง …
แต่การหมดสิ้นความรู้สึกกับบุตรสาวคนโต ก็มิได้หมายความว่า เขาจะยอมขายบุตรสาวตนเอง เพื่อแลกกับยาเม็ดจิตวิญญาณเม็ดเดียวหรอก เว้นแต่จะได้รับผลประโยชน์ที่มากเพียงพอ บางทีเขาก็อาจจะยินยอม
***จบบท เด็กเหลือขอ***