บทที่ 156 : ข้าบอกว่าข้าจะรอเจ้า (1)
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง”
องครักษ์ระงับความตกใจ ก่อนจะก้มศีรษะคํานับรับคําสั่งด้วยความนอบน้อม
ในเมื่อบ้านสกุลไปยั่วยุท่านอ๋อง จุดจบที่รออยู่ก็มีเพียงความตายเท่านั้น
ณ ลานบ้านคฤหาสน์โบราณ
ร่างในอาภรณ์สีแดงนอนเอกเขนกอย่างเกียจคร้าน กระโปรงของนางแผ่บานราวดอกกุหลาบ
เดิมที่ไปหยานเอนหลังลงกับต้นท้อก่อนจะผลอยหลับไป กระทั่งนางรับรู้ถึงน้ําหนักกดทับลง มาจากนั้นร่างนุ่ม ๆ ก็ซุกเข้ามาในอ้อมแขนของนาง
ร่างเล็ก ๆ นั้นนุ่มนิ่ม ทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมาแตะจมูกทําให้ไปหยานต้องลืมตาขึ้นมอง
“หม่ามี้” ไป๋เสี่ยวเฉินเรียก พลางยิ้มอย่างสดใส มือของเขาโอบรอบลําคอของนาง นัยน์ตากลมโตระยิบระยับด้วยความอยากรู้อยากเห็น ” หม่ามี้คิดอะไรอยู่ ?”
“แม่กําลังคิดถึงท่านอาจารย์”
ในโลกนี้ นอกเหนือจากไปเซียว และคนตระกูลหลานแล้ว อาจารย์นับเป็นคนใกล้ชิดนางที่สุด
ทั้งยังเป็นคนที่นางมีปฏิสัมพันธ์ด้วยมากที่สุด นับจากนางมาถึงโลกแห่งนี้
“แล้วหม่าไม่คิดถึงพ่อบุญธรรมบ้างเลยเหรอ ?” ไป๋เสี่ยวเฉินทําปากจู๋ ใบหน้าของเขาแลดูไม่มีความสุขอย่างมาก
เขาคิดถึงพ่อบุญธรรมมาก ทว่าเหตุใดท่านแม่ของเขาถึงไม่คิดถึงบ้างเลย ?
ไป๋หยานยิ้มพร้อมกับกอดไป๋เสี่ยวเฉินแน่น “แม่ก็คิดถึงพ่อบุญธรรมของเจ้าเช่นกัน หากแต่แม่ ติดค้างเขามากเหลือเกิน ชั่วชีวิตนี้แม่คงไม่สามารถตอบแทนเขาได้หมด …”
บุคลิกของลู่อี้เฟิงนั้นเฉยเมย ทั้งยังเป็นคนแปลก ๆ ทว่าเพื่อนางแล้ว เขากลับยอมทําทุกอย่าง
ที่น่าเศร้าก็คือไปหยานไม่เคยมีความรักฉันชู้สาวให้กับลู่อี้เฟิงเลย
ขณะที่ไป๋เสี่ยวเฉินต้องการจะกล่าวต่ออีกสักคําสองคําเกี่ยวกับอู่อี้เฟิงเสียงฝีเท้าอันรีบเร่งก็ดังมาจากด้านนอก
ทันทีที่ไปหยานเห็นฮัวหลัว ซึ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ นางก็ยกยิ้มให้ “ฮัวหลัว, อีอี้ กลับ มาแล้วหรือ ?”
“นายหญิง” ฮัวหลัวรีบเข้ามาหาไปหยาน นางยิ้มพลางกล่าว “เมื่อครู่ลูกน้องของข้าได้เห็นประกาศติดที่ประตูเมือง”
“ประกาศแจ้งเรื่องใด” ไปหยานเลิกคิ้วพร้อมกับเอ่ยถาม
“อ๋องคังออกคําสั่งว่า หากไปเฉิงเซียงต้องการช่วยชีวิตไปจ่อ เขาจะต้องคืนสินสอดทั้งหมดของหลานเยี่ยมารดาของท่าน”
ครั้นกล่าวจบ ฮัวหลัวก็ลอบมองไปหยานอย่างพินิจพิจารณา ราวกับจะจับตาดูว่านาย หญิงของนางจะมีสีหน้าเช่นไร
ทว่าใบหน้าของไปหยานยังคงนิ่งเฉยไร้ซึ่งการเปลี่ยนแปลง นัยน์ตาดําขลับของนางแลดูสงบมาก “ข้ารู้แล้ว…”
“เอ่อ…”
ฮัวหลัวมองไปหยานด้วยความประหลาดใจ อ่องคังเรียกสินสอดหลานเยี่ยคืนก็เพื่อนาง ทว่านางแค่เพียงรับรู้เท่านั้นหรือ ?
“ฮัวหลัว เจ้าออกไปก่อน หากอีอี้กลับมา เจ้าค่อยเข้ามารายงานข้า”
“รับทราบ นายหญิง”
ครั้นเห็นไปหยานไม่มีท่าทีใด ๆ ฮัวหลัวก็ไม่กล่าวคําใดอีก นางถอยจากไป
ครั้นฮัวหลัวจากไปแล้ว ไปหยานก็กุมมือเล็ก ๆ ของบุตรชายแน่น นัยน์ตาของนางแลดูซับซ้อน ” เฉินเฮ่อ เหตุใดบิดาของเจ้าถึงทําเพื่อข้ามากมายเช่นนี้ ?”
“เฉินเอ๋อ ไม่รู้…”
ไป๋เสี่ยวเฉินเอนตัวพิงร่างของมารดาพร้อมกับออดอ้อน ดวงตาเล็ก ๆ ส่องประกายแวววาวราวกับประกายดาวที่ระยิบระยับบนท้องฟ้ายามราตรี
“หม่ามี้ เฉินเฮ่อว่าจอมวายร้ายนั่นน่ารังเกียจมาก…”
ไป๋หยานยิ้มน้อย ๆ
หากตี้คังต้องการแก้แค้นเรื่องเมื่อหกปีก่อนจริง ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาคงจะลงมือจัดการนางเสียนานแล้ว
อย่างไรก็ตาม …
เหตุที่คังปฏิบัติต่อนางเป็นพิเศษนั้น เพียงเพราะเขาไม่รังเกียจนาง ทั้งนางยังให้กําเนิดบุตรของเขา
ทว่าเขาไม่ได้รักนาง
แต่เหตุใดหัวใจของนางจึงหวั่นไหวถึงเพียงนี้…?
“หม่ามี้…ไม่มีความสุขงั้นหรือ ?” ครั้นไป๋เสี่ยวเฉินรู้ว่าอารมณ์ของไปหยานเปลี่ยนไป เด็กน้อยก็เงยหน้าขึ้น พร้อมกับยื่นจมูกเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ถูแก้มของไปหยาน ” หากการมีป๊ะป๋า ทําให้หม่ามี้ไม่มีความสุข เฉินเอ๋อก็ไม่ต้องการป่ะป่าแล้ว ขอเพียงเฉินเอื้อมีหม่ามี้ก็พอ”
***จบบท ข้าบอกว่าข้าจะรอเจ้า (1)*-*-*