Chapter 4 : ตกปลาครั้งแรก
หานเฟยพยักหน้า “นั่นฉันเองแหละ”
ชายหนุ่มหัวเราะเยาะ “อ่อนแอจัง”
หานเฟยพูดไม่ออก เด็กๆที่นี่เหน็บแนมกันเก่งขนาดนี้เลยเหรอ
หลายนาทีต่อมาเรือก็ร่อนลงสู่มหาสมุทรระลอกคลื่นกระจายตามแรงที่ท้องเรือกระทบกับผืนน้ำ
ทุกคนยกเบ็ดขึ้น มันยากที่จะจินตนาการว่าเบ็ดลอยไปไกลหลายร้อยเมตรโดยไม่ต้องใช้รอกเลยแต่ใช้เพียงแค่การเหวี่ยงแบบง่ายๆ
หานเฟยเต็มไปด้วยคำถาม ทุกคนหลับตาลง มือของพวกเขาเปล่งประกายด้วยพลังวิญญาณ
สายเบ็ดของพวกเขาทั้งหมดขยับไปมาเล็กน้อย หานเฟยประหลาดใจ เหตุใดสายเบ็ดของพวกเขาจึงขยับได้ล่ะ
หานเฟยมีคำตอบ พวกเขาต้องควบคุมสายเบ็ดด้วยพลังวิญญาณแน่ๆ แต่ในขณะที่เขาจำได้มันใช้พลังวิญญาณไปมาก
หานเฟยเหวี่ยงเบ็ดด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขาเพียงเพื่อให้มันตกลงไปในระยะยี่สิบเมตรเท่านั้น
“ฮะ?”
เมื่อก่อนตอนที่เขาตกปลามักจะมีน้ำหนักที่ปลายสาย แต่ตอนนี้เขามีเพียงเส้นเอ็นและเหยื่อเท่านั้น มันค่อนข้างยากที่จะควบคุมระยะทางด้วยพลังวิญญาณ
หานเฟยรีบมองไปที่ทุกคนและพบว่าพวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นดังนั้นเขาจึงเริ่มตกปลาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขาดึงปล่อยและเขย่าคันเบ็ดอย่างชำนาญ…
“ไปทางซ้าย…”
“ไปทางขวา…”
หานเฟยพึมพำกับตัวเอง แต่ทุกคนบนเรือต่างประหลาดใจ
มีคนพูดว่า “เฮ้..นายเอ๋อไปแล้วเหรอ เหยื่อของนายหายไปแล้ว”
หานเฟยไม่รู้จะพูดอะไร
ชายวัยกลางคนกล่าวว่า “ดึงมันกลับมา แมลงสีเขียวเป็นแมลงที่มีการเคลื่อนไหวน้อยที่สุดดังนั้นปลาจะไม่แตะตะขอของนายแม้มันจะยังคงดิ้นอยู่”
การดึงสายเบ็ดเป็นความสามารถ ทุกคนต่างงงงวยที่เห็นหานเฟยใช้แรงขยับคันเบ็ดไปมา ในที่สุดก็มีคนแสดงความคิดเห็นว่า “อะไรของนายเนี่ย ใช้พลังวิญญาณสิ ไม่ใช่ใช้กล้ามเนื้อ”
ก็ฉันใช้พลังวิญญาณของฉัน แต่สายเบ็ดมันไม่ขยับนี่!
ชายวัยกลางคนกล่าวว่า “รู้สึกถึงพลังวิญญาณของนายให้ได้ จดจ่อกับสายเบ็ดแล้วดึงสายกลับมา”
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงความมีพลังความซาบซ่านความมีชีวิตชีวา หานเฟยรู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณของเขา พลังวิญญาณของเขาอยู่กับคันเบ็ดและเอ็นตกปลาเขารู้สึกประหลาดใจที่สัมผัสได้ถึงแรงดึงระหว่างพวกมัน
ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำแบบนี้ได้นะเนี่ย!
เขารู้สึกว่าได้ใช้พลังวิญญาณของเขา เบ็ดพุ่งออกจากน้ำทันที อย่างไรก็ตามมันไม่หยุดอยู่ตรงเขา แต่พุ่งเข้าไปที่ก้นของชายหนุ่มอีกคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของเรือ
“หานเฟยยย!!!”
“ขอโทษษษษไม่ได้ตั้งใจ..เอ่อ..อย่าขยับ..ฉันจะเอามันออกให้…”หานเฟยขอโทษอย่างร้อนรน
ปุ๊!!
ตะขอหลุดออกจากหลังของชายหนุ่ม ทุกคนรวมทั้งหานเฟยเองก็รีบหลบ
ผ้าชิ้นใหญ่ขาดวิ่นที่ก้นของชายหนุ่ม มีเลือดพุ่งออกมา
“ฉันเสียใจอย่างมากที่ฉันควบคุมมันได้ไม่ดี” หานเฟยกล่าว
“หานเฟยฉันจะฆ่าแก!”
คนอื่นๆก็มองไปที่หานเฟยอย่างระมัดระวังและสงสัย เมื่อวานหัวของเด็กคนนี้กระทบกระเทือนอะไรหรือเปล่า ทำไมเขาถึงลืมพื้นฐานของการตกปลาไปแล้ว
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังพุ่งเข้าใส่เขาหานเฟยจึงรีบยกเบ็ดตกปลาขึ้น ชายหนุ่มกลัวจนหยุดทันทีเขากลัวว่าหานเฟยจะเหวี่ยงเบ็ดใส่เขาอีกครั้ง
มีคนดุว่า “หานเฟยกลับไปตกปลาเถอะ แต่เราจะต้องแจ้งหัวหน้างานแล้วนะหากนายก่อปัญหาอีกครั้ง!”
หานเฟยยิ้มด้วยความลำบากใจ “โอเคค้าบ”
เหตุการณ์จบลงแล้ว ชายหนุ่มไม่ได้ทำอะไรเขาแม้จะโกรธก็ตาม
หานเฟยนั่งลงที่นั่นหลังจากโยนเบ็ดเหมือนกับที่คนอื่น ๆ ทำ
แต่วิธีการตกปลาแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีทักษะอะไรเลย! ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงทันทีที่หานเฟยตั้งใจจะขอคำแนะนำด้วยความไม่อดทนจู่ๆก็มีคนลุกขึ้นยืนและฮึดฮัด
จากนั้นชายคนนั้นก็ทำท่าทางแปลก ๆ และพลังทางจิตวิญญาณของเขาก็พุ่งออกมา คันเบ็ดและเอ็นตกปลาของเขาถูกปกคลุมไปด้วยรัศมีจางๆในทันที
“ขึ้นม๊าา!”
โห…
ตาของหานเฟยเบิกกว้าง มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ..
จากนั้นเขาก็ตระหนักว่าคนอื่น ๆ ก็อิจฉาชายคนนี้เช่นเดียวกับเขา
ชายชื่อ พี่ฮวาง ดึงมันขึ้นมามันเป็นปลาสีเหลืองขนาดใหญ่ประมาณหกสิบกิโลกรัม
ปลาสีเหลืองไม่ก้าวร้าวและอันตรายเท่าเต่าเขียวและปลาใบมีดดังนั้นพวกมันจึงเป็นหนึ่งในอาหารที่ถูกที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุดบนเกาะลอยน้ำเช่นเดียวกับหอยกาบ
เมื่อเห็นคนอื่นๆยกเบ็ดขึ้นหานเฟยก็ทำเช่นเดียวกัน เป็นเพราะปลาสีเหลืองดิ้นนานเกินไปในขณะนี้และปลาที่ระมัดระวังทั้งหมดได้หนีไปแล้ว ทำให้เหล่าเซียนประมงและชาวประมงมักจะเปลี่ยนจุดทุกครั้งที่จับปลาได้
เมื่อมาถึงสถานที่ใหม่ทุกคนก็ตัวแถวอีกครั้ง
หลังจากนั้นเพียงหนึ่งในสี่ชั่วโมงชายวัยกลางคนก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่ง เช่นเดียวกับผู้เฒ่าเฉิน ชายวัยกลางคนคำราม “มาแล้ว!!”
ตาของหานเฟยสว่างขึ้นมันเป็นเต่าสีเขียวอีกตัว เขานึกถึงปูของหวังเจ๋อเมื่อตอนที่หวังเจ๋อจัดการกับเต่าเขียวเมื่อวานนี้
เส้นเลือดบนมือของชายวัยกลางคนปูดขึ้นอย่างรวดเร็ว ชายคนนั้นจับคันเบ็ดด้วยมือทั้งสองข้างและลากเหวี่ยงด้วยไหล่ของเขาลากเต่าตัวใหญ่ขึ้นจากน้ำ
“ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!”
ก้อนหินถูกขว้าง ทุกคนซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งยกเว้นหานเฟยที่เฝ้าดูชายวัยกลางคนตบก้อนหินออกไปด้วยมือที่เร่าร้อนของเขาจนเขาทุบเต่าตัวนั้นได้ในที่สุด
เต่าสีเขียวยาว 1 เมตรตกลงบนดาดฟ้าเรือหางของมันตบไปมาแบบสุ่ม ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะจบแล้ว
คราวนี้หานเฟยมองใกล้ๆเต่าสีเขียวปกคลุมไปด้วยเกล็ดที่ดูเหมือนก้อนหินสีเขียวทั่วทั้งตัว เกล็ดเหล่านั้นสะท้อนแสงสีฟ้าสดใสภายใต้ดวงอาทิตย์
เต่าสีเขียว
ห้า
ปกติ
12 จุด
สามารถเพิ่มความแข็งแรงทางกายภาพได้เป็นเวลานานหากรับประทาน
หานเฟยตระหนักว่าพลังวิญญาณของหอยสามตัวมีค่าเท่ากับเต่าเขียว หมายความว่าสิ่งนี้ไม่ได้น่าประทับใจอย่างที่เห็น
ทุกคนอุทานด้วยความตกใจ
“โอโหตอนนี้คุณเป็นชาวประมงที่เก่งขึ้นแล้วนี่นา”
ชายวัยกลางคนแสยะยิ้มและพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า“ก็เมื่อวันก่อนฉันเป็นคนที่ตั้งใจนี่นา”
ทุกคนแสดงความยินดีกับเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เฒ่าเฉินคว้าแขนของเขาแล้วถามว่า “ฉันติดอยู่ในระดับหกมานานแล้ว คุณมีคำแนะนำให้ฉันหน่อยมั้ย”
หานเฟยกัดหูของเขา เขาไม่เคยเห็นนักตกปลาที่เก่งกาจมาก่อนและเขาค่อนข้างตกใจที่เฒ่าเฉินติดขั้นนี้อยู่เกือบครึ่งชีวิตของเขา การเลื่อนขั้นอะไรนี่มันขนาดนั้นเลยเหรอ?
คนต้องลับคมเครื่องมือของเขาก่อนถ้าเขาต้องการทำงานที่ดี ฉันจะสนใจเรื่องนี้หลังจากที่ฉันปรับปรุงความสามารถและมรดกทางจิตวิญญาณของฉันเสร็จแล้วกัน
หลังจากที่ชายวัยกลางคนนำเต่าสีเขียวตัวใหญ่ไปแล้วพวกเขาก็เปลี่ยนจุดอีกครั้ง
ครึ่งวันผ่านไปในพริบตา ผู้โดยสารแปดคนทุกคนทำงานสำเร็จยกเว้นหานเฟยและชายหนุ่มที่อายุไล่เลี่ยกับเขา
พระอาทิตย์กำลังตกดิน พวกเขาเริ่มพูดคุยกันในขณะที่เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาของพวกเขา
ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ตะโกนว่า“ ได้แล้ว! มันมาแล้ว!”
หานเฟยมองเขาอย่างหดหู่ ทุกคนทำงานสำเร็จ แต่เขาไม่ได้จับปลาแม้แต่ตัวเดียวหลังจากใช้เหยื่อเกือบหมดแล้ว
ขณะที่หานเฟยเยาะเย้ยตัวเองชาวประมงผู้ช่ำชองก็ร้องออกมา
“ไอ่หนุ่ม! ปล่อยเดี๋ยวนี้! นายไม่สามารถจับสิ่งนี้ได้!” ผู้เฒ่าเฉินตะโกนสุดเสียง