Ark The Legend – ตอนที่ 261

เล่ม 9 ตอนที่ 3 : ดาวเด่นแห่งตำนาน? (2)

“ฮยอนอูไม่ใช่เหรอน่ะ?”

ฮยอนอูพลันแตกตื่นขณะเงยหน้าขึ้น

“ครูฝึกลีมย็องลง?”

“หือ? ฮยอนอูจริงด้วย? ทำไมมาเล่นอะไรแบบนี้แถวนี้กันล่ะ?”

ชายร่างเล็ก… ลีมย็องลงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ

“ครูฝึก? ตราบนเสื้อนั่นน่าจะเป็นอาจารย์สอนเทควันโดสำนักไหนสักที่”

“เฮ้ย แกน่ะ ทำไมไม่หนีไปก่อนที่พวกเราจะทำให้หน้าแกเละไม่เป็นชิ้นล่ะ หรือคิดลองดี?”

เหล่าอันธพาลต่างเข้าคุกคามราวข่มเหงรังแกลีมย็องลงอยู่ ที่จริงหากเป็นเพียงครูฝึกเทควันโดก็ออกจะเป็นเรื่องน่าขบขันอยู่บ้างหากต้องเผชิญหน้ากับอันธพาลทั้งกลุ่ม แต่พวกเขาไม่ทราบว่าภายใต้ส่วนสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรและร่างกายที่ไม่ใหญ่นักนั่นซ่อนอะไรเอาไว้บ้าง นับว่าข่มขู่คนผิดแล้ว บุคคลตรงหน้าที่พวกเขากำลังข่มขู่กันอยู่นี้คือหัวหน้าหน่วย SWAT ที่หนึ่งและเคยเป็นตัวแทนทีมชาติเทควันโด แม้กระทั่งมีมีดคมกริบคุกคามใต้จมูก ชายหัวใจเหล็กคนนี้ยังไม่กระพริบตาเลยด้วยซ้ำ หัวหน้ากลุ่มอันธพาลพลันโกรธขึ้นขณะเหวี่ยงหมัดเข้าใส่ลีมย็องลง

ตุบ!

เสียงปะทะดังขึ้น แรงปะทะเป็นผลให้ศีรษะของลีมย็องลงหันแทบจะเก้าสิบองศา ลีมย็องลงถอนหายใจขณะเช็ดคราบเลือดจากมุมปาก

“นานแล้วนะเนี่ยที่ไม่ได้โดนต่อย ไง พอใจหรือยัง? งั้นก็พอได้แล้วมั้ง?”

“อะไรวะ?”

เป็นอีกครั้งที่เสียงปะทะดังขึ้น ลีมย็องลงโดนเตะเข้าใส่ท้องอย่างรุนแรง เพราะอีกฝ่ายร่างสูงใหญ่กว่าหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรพร้อมทั้งน้ำหนักที่มาก เป็นผลให้ลีมย็องลงต้องล้มจากการโจมตีครั้งนี้

“คะ-ครูฝึก!”

ฮยอนอูมองลีมย็องลงอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แม้เขาจะตกใจ แต่อันธพาลพวกนี้ก็เป็นฮยอนอูเคยจัดการได้เมื่อก่อนหน้านี้ แต่แล้วทำไมลีมย็องลงที่ฝึกฝนอยู่ยิมสำนักงานตำรวจทุกวันถึงปล่อยให้การโจมตีเข้าถึงตัวล่ะ? ทำไม?

“เหอะ ไอ้หนู ดูเหมือนครูฝึกแกก็จะไม่เท่าไหร่นี่”

“ดูมันสิ น่าสมเพชชะมัด”

“เสียเวลาไปหน่อย มาต่อกันได้แล้ว”

หัวหน้ากลุ่มอันธพาลหัวเราะคิกคักออกมาขณะเดินเข้าหาฮยอนอูอีกครั้ง จากนั้นเขาจึงยกก้อนอิฐขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ทว่า ลีมย็องลงที่ล้มไปก่อนหน้านี้กลับลุกขึ้นมาราวไม่ได้เกิดอะไรขึ้นแม้สักนิด

“ทำฉันอับอายต่อหน้าลูกศิษย์ได้นะ…”

“ว่าอะไรนะ?”

“ไหน มาดูกันหน่อย ปากมีเลือดไหล… ท้องมีรอยช้ำ กรณีนี้น่าจะโดนโทษสี่สัปดาห์ได้ แต่ถ้าอ้างว่าเป็นการป้องกันตัว ต่อให้ล้มพวกแกจนเหมือนหมาตายข้างถนนก็ไม่น่าจะโดนโทษอะไร พวกแกรู้ไหมว่านั่นหมายถึงอะไร?”

ลีมย็องลงหัวเราะออกขณะเผยความโหดเหี้ยมผ่านใบหน้า

“พวกแกจบเห่แล้ว”

“พูดบ้าอะไรของมันวะ?”

“จัดการมัน!”

พวกอันธพาลต่างพุ่งเข้าใส่ตามคำสั่งของหัวหน้า หนึ่งในพวกนั้นถึงกับหยิบขอนไม้ขึ้นหมายฟาดฟันด้วยรังสีฆ่าฟัน ทว่าลีมย็องลงเพียงมองมาทางฮยอนอูอย่างไม่ยินดียินร้าย

“ฮยอนอู นี่ถือเป็นบทเรียนนอกสถานที่แล้วกัน!”

“ครูฝึก อันตรายครับ!”

“ว่าอะไรนะ?”

ลีมย็องลงหลบเลี่ยงขอนไม้ขณะยืดแขนออก

ตุบ!

คางของอันธพาลพลันโดนเข้าปะทะอย่างรุนแรงก่อนจะล้มลง ลีมย็องลงเดินตัวเบาออกมาหลังใช้หมัดจัดการอันธพาลคนนั้นเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากเขาโดนกระชาก เขาจะใช้ข้อศอกให้หลุดพ้นจากสถานการณ์ ดังคาด พวกอันธพาลต่างแตกตื่นจนไม่กล้าขยับ เรื่องราวเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับคนที่เหลือเช่นเดียวกัน ลีมย็องลงเริ่มก้าวเท้าเข้าหาคนที่นอนล้มอยู่ขณะใช้ส้นเท้ากดที่ขมับของอีกฝ่ายจนต้องกรีดร้องออกมา

“ปลิงเดนตายพวกนี้ โดนแค่ทีเดียวไม่ยอมหยุดสินะ”

“ทำบ้าอะไรอยู่วะ? ไอ้พวกโง่เง่า! ลากมันลุกขึ้นมา!”

ทว่า อันธพาลคนที่นอนล้มอยู่กับพื้นทำได้เพียงหลั่งเหงื่อ กระทั่งลมหายใจยังไม่อาจเป็นไปได้อย่างสะดวก หลังจากนั้น ตัวหัวหน้ากลุ่มจึงตัดสินใจพุ่งเข้าใส่ลีมย็องลง

“รับหมัด!”

หมัดนี้แทบมองไม่เห็น แม้ว่าจะเห็นได้ไม่ชัด แต่แล้วทันทีที่เสียงปะทะดังขึ้น ใบหน้าของหัวหน้าอันธพาลที่โดนต่อยพลันหันกลับเก้าสิบองศา

“หมัดเดียวก็พอ”

“เฮือก!”

ชายคนนั้นส่องเสียงกรีดร้องออกมาขณะก้มตัวลง นับว่าเป็นภาพหายากยิ่งนัก ชายร่างเล็กเพียงแค่เดินผ่านมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าตอนที่เคลื่อนผ่านมาแล้ว ร่างใหญ่ของหัวหน้ากลุ่มอันธพาลพลันกรีดร้องขึ้น ใบหน้าของหัวหน้าอันธพาลกลับกลายเป็นเขียวคล้ำ แม้เขาจะยังไม่ล้ม แต่นั่นไม่ใช่เพราะต้องรักษาศักดิ์ศรี แต่เป็นเพราะไม่อาจล้มเหลวได้ ลีมย็องลงที่เดินอยู่นั้นพลันหันกลับขณะคว้าเส้นผมของอีกฝ่ายไว้ จากนั้นจึงจัดการอีกหนึ่งยกพร้อมเริ่มรื้อค้นกระเป๋าของอีกฝ่าย ลีมย็องลงเผยเสียงหัวเราะขณะนำเอากระเป๋าของอีกฝ่ายออกมายืนยันตัวตน

“ประธานบริษัทรอยยิ้มรื่นรมย์ วังโฮ…”

“แก… คิดเหรอว่าจะเรื่องราวเป็นแบบนี้แล้วจะอยู่รอดต่อไปได้? ฉันจะไปหายิมของแกแล้วจัดการให้สิ้นซาก!”

“โห?”

ลีมย็องลงจ้องมองวังโฮอย่างเหลือเชื่อก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ฮ่าฮ่าฮ่า เอาจริง? ฉันไม่มีปัญหาหรอกนะ จะล้างมือรอแกมาเลยแล้วกัน”

“วะ-ว่าอะไรนะ?”

“ดูเหมือนจะยังไม่รู้เรื่องราวนะ”

“หัวหน้า เกิดอะไรขึ้นครับ?”

ขณะนั้นเอง บุคคลจำนวนหนึ่งที่ร่างใหญ่พลันโผล่ขึ้นบริเวณปากซอย ฮยอนอูต่างรู้จักบุคคลเหล่านี้ดี เป็นสมาชิกหน่วย SWAT ที่เขาพบเจอบ่อยครั้งยามไปฝึกที่ยิมนั่นเอง มีทั้งอดีตนักมวย นักมวยปล้ำ และอื่น ๆ อีก ใช่แล้ว บุคคลที่เรียกฮยอนอูให้ฝ่าลมหนาวออกมาก็คือลีมย็องลงนั่นเอง เพราะนี่คือปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่าที่หน่วย SWAT ที่หนึ่งจัดขึ้น

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่จัดการอะไรให้เรียบร้อย รอสักเดี๋ยวแล้วกัน เฮ้ มาแลกเปลี่ยนกันดีกว่า”

ลีมย็องลงที่ค้นกระเป๋าเสร็จจึงโยนมันกลับให้วังโฮ วังโฮเปิดกระเป๋าด้วยดวงตามึนงงขณะแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าซีดเผือด ภายในกระเป๋าคือหลักฐานยืนยันตัวตนของหัวหน้าหน่วย SWAT ที่หนึ่ง

“ฉันเป็นครูฝึกอยู่ยิมไม่ไกลจากที่นี่นักหรอกนะ”

“หน่วย SWAT ที่หนึ่ง… อย่าบอกนะว่า… ปีศาจร้ายแห่งสำนักงานตำรวจ…”

“จะเรียกแบบนั้นก็ได้ และหมอนี่ก็เป็นลูกศิษย์รักฉันเอง เอาล่ะ พอเข้าใจเรื่องราวขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหม?”

ลีมย็องลงตบเข้าใส่ใบหน้าที่เย็นเยียบของวังโฮและกล่าวขึ้น

“เอ้า มาจัดการให้เรียบร้อยกันก่อน ดูจากสถานการณ์แล้ว แกไม่น่าโจมตีโดยไม่มีเหตุผลนะ… ไหนบอกฉันมาหน่อยสิ เพราะอะไรแกถึงลากคนไม่รู้เรื่องราวมาเจอเรื่องแบบนี้? หรืออยากให้เรื่องมันใหญ่โตกว่านี้? แบบนั้นฉันก็ไม่เกี่ยงนะ ถ้าไม่ให้ความร่วมมือฉันก็พร้อมจะสอบปากคำด้วยวิธีการที่รุนแรงขึ้นสักพักใหญ่เลยแหละ ตำรวจน่ะดูแลเรื่องอาชญากรรมอย่างจริงจังนะฉันขอบอก”

วังโฮถึงกับเริ่มหลั่งเหงื่อขณะมองออกไป ลีมย็องลงรอคอยอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะลุกขึ้นยืน

“ให้เดานะ อยากทดสอบความอดทนใช่ไหม?”

“ระ-รอเดี๋ยว ที่จริง… พวกเราโดนจ้างวานมา”

“จ้างวาน?”

“ใช่ ลูกชายของลูกค้าขอให้หักแขนเขาแล้วถ่ายรูปส่งไปให้… ที่พูดนี่เรื่องจริงนะ ถ้าไม่มีเงินมาข้องเกี่ยวฉันก็ไม่คิดทำร้ายคนอื่นโดยไม่มีเหตุผลหรอก”

“โอ้ มีคนจ้างให้แกมาหักแขนเป้าหมายงั้นสิ? งานอดิเรกคนรวยสินะ ชื่อของมันล่ะ?”

“อีมย็องบัน…”

ลีมย็องลงหันมองไปทางฮยอนอู คล้ายเป็นการถามว่าฮยอนอูรู้จักชื่อนี้หรือไม่ ฮยอนอูส่ายศีรษะขณะลีมย็องลงจ้องมองวังโฮตาเขม็ง

“อยากตายใช่ไหม?”

“จะ-จริงนะ ฉันไม่รู้เรื่องราวมากนักหรอก แต่เหมือนจะมีเรื่องกันจากในเกม เกมที่เรียกว่านิวเวิลด์ คนที่จ้างฉันมาชื่อในเกมว่าอันเดล”

“อันเดล!”

ฮยอนอูกระโดดผุดลุกขึ้น ลีมย็องลงเห็นเช่นนั้นจึงเข้าใจเรื่องราวและพยักหน้าให้

“ก็ดีที่ไม่โกหก ไหน มีที่อยู่ของหมอนั่นหรือเปล่า?”

ลีมย็องลงบีบบังคับให้วังโฮเขียนที่อยู่มาให้

“จะโยนแมลงหวี่อย่างแกเข้าคุกก็มากเรื่องเกินไป แถมยังต้องเขียนรายงานอีก คนอย่างพวกแกนี่น่ารำคาญชะมัด จำไว้ ถ้าฮยอนอูเห็นพวกแกอีก… คงเข้าใจนะ?”

วังโฮพยักหน้ารับอย่างรัวเร็วด้วยใบหน้าซีดเผือด ลีมย็องลงตบแก้มอีกฝ่ายครั้งหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืน

“ไปกันเถอะฮยอนอู”

สมแล้วที่เป็นหัวหน้าหน่วย SWAT ลีมย็องลงไม่ลังเลที่จะลงมือจัดการเรื่องราวให้เรียบร้อยโดยทันที เมื่อออกจากซอยเมื่อครู่ เขาก็มุ่งไปยังที่อยู่ซึ่งได้รับมาโดยทันที มันเป็นคฤหาสน์อาณาเขตประมาณหนึ่งร้อยตารางเมตรในเขตกังนัม ซึ่งคนทั่วไปคงไม่มีทางเข้าไปได้แน่ แต่แล้วเมื่อเผยเอกสารยืนยันว่าเป็นตำรวจต่อยามที่เฝ้าอยู่ พวกเขาก็สามารถผ่านเข้าไปได้อย่างรวดเร็ว

“ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้นะครับ”

เมื่อสถานการณ์ใหญ่กว่าที่คิดไว้ฮยอนอูจึงกล่าวขึ้นด้วยความหวั่นเกรง ทว่า ลีมย็องลงกลับไม่สนใจขณะยื่นมือไปกดกริ่งที่ประตู จากนั้นเขาจึงเห็นป้ายชื่อ อีคยองโฮ สลักเอาไว้ถัดจากกริ่งประตู

“บ้าจริง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่อยู่มันดูคุ้นจัง…”

“มีอะไรเหรอครับ?”

“ไม่มีอะไร ฉันเคยมาที่นี่ แต่ตอนนั้นคิดว่าไม่น่าจะมีเรื่องอะไรให้ต้องมาอีก”

“ใครครับ?”

เสียงหนึ่งดังขึ้นผ่านลำโพงอินเตอร์โฟน

“ลีมย็องลงจากหน่วย SWAT ที่หนึ่ง”

“โอ้ เข้าใจแล้วครับ ต้องการพูดคุยกับหัวหน้า?”

“บอกเขาหน่อยว่าฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย”

“ได้ครับ”

ประตูเปิดขึ้นขณะชายวัยห้าสิบเดินออกมาทักทาย ห้องรับแขกนี้กว้างใหญ่ราวสนามฟุตบอลก็ไม่ปาน แถมยังมีบันไดขึ้นไปยังชั้นลอยด้านบน ฮยอนอูรู้สึกตัวหดเล็ก ทำไมบุคคลคนนี้ถึงอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หนึ่งร้อยตารางเมตร ขณะที่เขาอาศัยอยู่ในรูหนูที่ผนัง? ฮยอนอูเริ่มรู้สึกหวาดกลัวที่ต้องมีปัญหากับคนรวยเช่นนี้ เขาไม่คิดเลยว่าจะรับมือกับคนที่มีเงินมากมายมหาศาลเช่นนี้อย่างไร นอกจากนี้ ลีมย็องลงยังดูเหมือนไม่ค่อยสบายใจนัก… จนเริ่มเดินไปเดินมาระหว่างรอ

“ครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

“เรื่องลูกชายของคุณ”

“ลูกชายของผม?”

ชายวัยกลางคน… อีคยองโฮมองด้วยความสับสน ลีมย็องลงถอนหายใจขณะอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากนั้น กล้ามเนื้อที่ใบหน้าของอีคยองโฮพลันบิดเบี้ยวจนเผยออกซึ่งความน่าเกลียด ทว่าก็ฌพียงแค่ชั่วครู่ รอยยิ้มเริ่มเผยออกขณะอีกฝ่ายนำเอาบุหรี่ออกมาสูบก่อนจะพูดกล่าว

“ผมก็ยังไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติตรงไหน อย่าบอกนะว่าคุณเชื่อคำพูดของอันธพาลพวกนั้น? ไม่มีทางที่ลูกชายผมจะทำเรื่องแบบนั้น มันจะไม่ยุติธรรมเกินไปหรือหากกล่าวหาเขาโดยไม่มีหลักฐาน? หรือคุณคิดมาที่นี่เพื่อเรียกร้อง”

“…อืม นั่นก็ไม่ผิด ขอเจอตัวลูกชายคุณได้ไหม?”

“ผมไม่ทราบว่าคุณพูดถึงเรื่องอะไรอยู่นะ”

อีคยองโฮขมวดคิ้วขณะมองลีมย็องลง จากนั้นจึงนำเอาเช็คเงินสดจำนวนหนึ่งล้านวอนออกมาวางบนโต๊ะ

Ark The Legend

Ark The Legend

Ark The Legend
Status: Ongoing
บทนำ คิมฮยอนอู เด็กหนุ่มที่ชีวิตเกิดความผลิกผันตั้งแต่ยังวัยรุ่น ชีวิตของเขาประสบความยากลำบากต้องหาเงินเพื่อจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลสุดแพงของแม่ ขณะที่เขากำลังกัดฟันสู้ชีวิตอยู่ เขาได้รับข้อเสนองานหนึ่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่แล้วเมื่อไปสัมภาษณ์ เขากลับพบว่ามันคือการทดสอบคัดเลือกพนักงานโดยการเล่นเกม แม้จะแปลกไปบ้างแต่เงินก็ดีไม่น้อยเขาจึงตกลงรับมา เมื่อเข้าเกม อาร์คคือตัวละครที่เขาเลือกสร้าง แรกเริ่มผจญภัยก็ต้องประสบพบเจอความยากลำบากไม่น้อย ผู้เล่นอื่นก็แทบไม่อาจเชื่อใจได้ เขาต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง ยิ่งเล่นเกมไปเขาจึงได้พบว่า เกมแห่งนี้หาได้มีอะไรที่เหมือนเกมไม่ ทั้งเอ็นพีซีในเกมที่แทบจะเหมือนมนุษย์จริง ภารกิจที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตามอีกทั้งยังยากลำบาก รวมถึงเนื้อเรื่องหลักภายในเกมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งเกมก็คล้ายมีความลับอยู่ไม่น้อย และด้วยความที่แทบไม่เชื่อใจผู้อื่นในเกม เขาต้องพยายามฟันฝ่ามันให้ได้ด้วยสองมือของตัวเอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset