ตอนที่ 335 : เกือบพลาด! (3)
“หัวหน้า ใจเย็นลงหน่อยนะครับ…”
ลีมย็องลงดื่มกาแฟร่วมกับสมาชิกทีม SWAT ภายในห้องพักผ่อนของสำนักงานตำรวจ
“ว่าอะไรนะ?”
“ชายคนนั้น… มาอีกแล้ว”
สมาชิกทีม SWAT เอ่ยเสียงเบา
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับปาร์ตี้วันสิ้นปี ตอนที่ฮยอนอูโดนอันธพาลพวกนั้นเล่นงาน”
“แล้ว?”
“มีคนถ่ายวิดีโอของฮยอนอูเอาไว้ โชคดีที่ใบหน้าค่อนข้างเบลอจึงไม่อาจยืนยัน และชายคนนั้นก็เอาภาพพวกนั้นมาถามพวกเราว่ารู้จักคนในภาพไหม เจ้าของผับที่พวกเราไปดื่มน่าจะเป็นคนบอกว่าพวกเราไปดื่มฉลองวันสิ้นปี…”
“ชายคนนั้นคือ? นายตำรวจแผนกอื่น?”
“ไม่เหมือนตำรวจนะครับ ดูจากพื้นฐานการพูดคุย เหมือนกำลังหาตัวคนมากกว่า คล้ายว่าจะเป็นคนในเกมอะไรทำนองนี้ เขาพยายามถามผมเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรไป”
“มาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่ยังกล้าถามกันโต้ง ๆ เนี่ยนะ?”
“เหมือนไม่ค่อยรู้ความเท่าไหร่จริง ๆ ครับ”
สมาชิกทีม SWAT หัวเราะเสียงเบากันออกมาก่อนจะไหวไหล่ให้
“อะไรก็ดี ถ้ามันเกี่ยวข้องกับฮยอนอูผมก็เลยอยากบอกเอาไว้น่ะครับ”
ลีมย็องลงยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มขณะครุ่นคิด มีคนใช้โทรศัพท์ถ่ายวิดีโอของฮยอนอูเอาไว้ แต่อีกฝ่ายไม่ทราบว่าฮยอนอูเป็นใคร ไม่เท่านั้น ยังมีคนตามมาถึงสำนักงานตำรวจเพื่อหาตัวอีก คำตอบช่างชัดเจนยิ่งนัก บุคคลดังกล่าวย่อมต้องมีจุดประสงค์ถึงมาหาฮยอนอู และอีกฝ่ายย่อมต้องใช้เงินไม่น้อยด้วย หรือก็คือ จุดประสงค์ย่อมไม่ใช่เรื่องดี แต่ว่าเพื่ออะไรกันล่ะ? คำตอบก็พอคาดเดาได้อยู่ ถ้าหากหาใครสักคนในเกม บางทีก็อาจเพราะมีความบาดหมางกับฮยอนอูในนิวเวิลด์ อาจจะเหมือนอันเดล อีกฝ่ายน่าจะมาทวงหนี้แค้นฮยอนอู
“ฮยอนอู แค่เล่นเกมถึงกับสร้างศัตรูเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”
ลีมย็องลงเกาหัวขณะพูดกับตัวเอง ขณะนั้น สมาชิกทีม SWAT พลันเบิกตากว้างและเอ่ยถาม
“เกม? ไม่ใช่ว่าเรื่องก่อนหน้านี้ก็เกิดขึ้นเพราะเกมเหรอครับ?”
“แล้วยังไง?”
“อา ผมไม่ค่อยเข้าใจนักหรอกนะครับ แต่ถึงกับมาหาคนเพราะเกมนี่มันก็…”
“ช่างเรื่องเกมเถอะน่า!”
ลีมย็องลงพ่นลมออกจมูก อันที่จริงลีมย็องลงยังไม่ค่อยเข้าใจว่าระหว่างอันเดลกับฮยอนอูเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่มันก็แค่เกม เอาความขัดแย้งมาสู่โลกความเป็นจริงนี่ค่อนข้างเกินไปแล้ว นั่นคือความคิดเก่าก่อน แต่พอได้เล่นเกมจริงสัมผัสด้วยตัวเอง ได้ฟูมฟักตัวละครผ่านความเจ็บปวดจนแขนขาแทบแตกหักจริง… ลีมย็องลงจึงได้ทราบเรื่องราวหลายอย่างผ่านอิสยูรัม ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรกับอิสยูรัม เขาก็คงไม่คิดนั่งเฉยเหมือนกัน ลีมย็องลงพลันคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาก่อนที่จะโกรธขึ้ง
‘ไอ้เด็กนั่นสมควรตาย’
ไม่นานมานี้ ลีมย็องลงได้ช่วยเหลือพ่อค้าคนหนึ่งนามว่าซิด
และอีกฝ่ายยังเป็นผู้เล่นคนแรกที่สนิทสนมด้วย อิสยูรัมจึงมอบเขายูนิคอร์นที่มูลค่า 1,000 เหรียญทองไป แต่แล้วไอ้เด็กนั่นกลับเอาไปขายในราคาแค่ 851 เหรียญทอง เรื่องนี้กว่าลีมย็องลงจะตระหนักได้ก็ผ่านไปแล้วหลายวัน พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เขาแทบอยากจ้างวานนักทวงหนี้ไปสะสางแค้นครั้งนี้เหมือนกัน แต่ลีมย็องลงอย่างไรแล้วก็เป็นคนของแผนกรับมืออาชญากรรมพิเศษ เรื่องที่เขาเล่นเกมต้องเป็นความลับ ดังนั้นแล้วเขาไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องนี้กับสมาชิกทีม SWAT ของตนได้ ด้วยเหตุนี้ลีมย็องลงจึงต้องปล่อยผ่านไป
เรื่องนี้ทำเอาเขาเข้าใจความรู้สึกภายในเกมที่ส่งผลต่อโลกจริง หรือเขาควรไปวางเงินค่าหัวอีกฝ่ายดี? แต่นั่นไม่ใช่การป่าวประกาศหรอกหรือว่าตนโง่เง่าขนาดปล่อยให้เด็กหลอกเอาเงินไปได้? และเขาก็อดคิดไม่ได้ ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนอย่างอันเดลเรื่องราวจะจบลงยังไง
“ว่าแต่ นายคนนั้นอยู่ไหนกันล่ะ?”
“เห็นเขาเพิ่งออกจากห้องรับรองใกล้ยิมไปครับ”
“ที่ยิม?”
ลีมย็องลงเผยยิ้มขณะเอ่ยขึ้น
“ดี งั้นฉันไปที่ยิมสักหน่อย เผื่อจะมีอะไรให้ทำ”
* * *
“ให้ไปข้างนอกเหรอครับ?”
ชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีเอ่ยถาม ชายคนนี้สวมใส่ชุดสูทที่แสดงถึงสถานะพนักงานของโกลบอลเอ็กซอร์ทอย่างชัดเจน โฮมย็องฮวัน เป็นเขาที่ไปทำธุระที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่นานมานี้ฮามย็องอูได้รับชมวิดีโอหนึ่งจนพบว่ามีท่าทีคล้ายผู้เล่นที่สู้กับบอสอย่างวาลเดอลาสในภารกิจอีเวนท์ เพราะงั้นจึงออกคำสั่งให้โฮมย็องฮวันไปค้นหาตัวคนถ่ายภาพมา แต่แล้วมันกลับไม่ใช่งานง่ายเหมือนอย่างที่คิด ใบหน้าของอีกฝ่ายไม่ชัดเจน แต่เขาก็ยังหวังว่าจะมีคนแจ้งเรื่องการใช้ความรุนแรงนี้ไปที่สถานีตำรวจ แต่แล้วเขากลับได้รับข้อมูลว่าวันนั้นเป็นวันที่ทีม SWAT มาฉลองวันสิ้นปีที่ผับใกล้เคียงกันพอดี
‘ทีม SWAT… ใช่แล้ว ทำไมไม่คิดมาก่อนเลยนะ? นายคนนั้นในวิดีโอค่อนข้างมีฝีมือการต่อสู้ประชิดตัวสูง บางทีอาจเรียนวิชาการต่อสู้มานานแล้ว และอาจจะเป็นคนของทีม SWAT ก็ได้ ไม่แปลกเลยที่คนของทีม SWAT จะสามารถอัดนักเลงพวกนั้นได้อยู่หมัด’
นั่นจึงทำให้โฮมย็องฮวันตามมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่พอเขาเอ่ยถามกับสมาชิกทีม SWAT อีกฝ่ายบอกให้เขารออยู่ที่นี่และหายตัวไปไหนก็ไม่รู้
‘เรามาถูกที่แล้ว สีหน้าแบบนั้นแสดงว่าต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ หึหึหึ ใครจะรู้บ้างว่าเราสามารถตามมาได้เพราะแค่วิดีโอที่ถ่ายแย่ ๆ นั่น? บางทีเราอาจจะเหมาะเป็นนักสืบก็ได้นะเนี่ย?’
ระหว่างที่โฮมย็องฮวันภาคภูมิใจกับตัวเองอยู่นั้น สมาชิกทีม SWAT ก็กลับมา
“มีคนรู้จักคนคนนั้น แต่คนในวิดีโอไม่ได้อยู่ที่นี่… แต่นี่ก็น่าจะใกล้ได้เวลาที่เขาจะมาออกกำลังกายแล้ว ช่วงที่รอสนใจไปเดินเล่นก่อนหรือเปล่าครับ?”
‘อืม เจ้าหน้าที่มีท่าทีตอบรับไม่เลวเลย’
“เอาแบบนั้นแล้วกันครับ”
“งั้นตามมาได้เลยครับ”
โฮมย็องฮวันพยักหน้ารับ สมาชิกทีม SWAT จึงพาเดินชมภายในยิม เมื่อเข้ามาเขาจึงพบว่าอุปกรณ์ทุกอย่างภายในยิมล้วนสะอาดและค่อนข้างทันสมัย เขาถึงกับร้องออกเสียงดังตั้งแต่มองรอบยิมครั้งแรกเลยทีเดียว สภาพอากาศภายในค่อนข้างอบอุ่นทั้งที่เป็นฤดูหนาว โฮมย็องฮวันอดไม่ได้ที่จะร้องอุทานออกมาจริง ๆ
‘นี่สินะคือสถานที่ฝึกร่างกายของตำรวจที่รับหน้าที่ปกป้องประชาชน!’
โฮมย็องฮวันรู้สึกภูมิใจขึ้นมาที่ได้เป็นประชาชนของเกาหลีใต้ โฮมย็องฮวันเดินดูตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง เขาพบว่ามีการประมือเล็กน้อยของผู้เรียนวิชาต่อสู้ พอผ่านไปเพียงพักหนึ่ง เขาก็เริ่มเบื่อ และสมาชิกทีม SWAT คนนั้นก็กลับมาแล้ว
“เบื่อแล้วเหรอครับ?”
“เอ่อ… ก็ไม่…”
“ถ้าเบื่ออยากลองซ้อมมือดูไหมครับ?” อ่านโดจิน doujinza.com
“ซ้อมมือ?”
“ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร ก็แค่ซ้อมมือเล็กน้อย อันที่จริงบางครั้งสำนักงานตำรวจก็จะช่วยสอนการป้องกันตัวให้ประชาชนเหมือนกัน แต่ละคนมีขนาดตัวไม่เท่ากันจึงมีวิธีที่แตกต่าง คิดซะว่าเป็นการเรียกเหงื่อแล้วกัน”
โฮมย็องฮวันพลันตัวสั่นสู้ขึ้นมาเมื่อสมาชิกทีม SWAT เอ่ยคำจบ โฮมย็องฮวันก็เป็นนักเทควันโดสายแดง เพราะงั้นจึงค่อนข้างภูมิอกภูมิใจในฝีมือตัวเองไม่น้อย เขายังเคยดูรายการแข่งศิลปะการต่อสู้ทุกสัปดาห์ด้วยซ้ำ แถมยังมีการซ้อมมือด้วยการต่อยหมอน
“…ผมลองได้เหรอ?”
“แน่นอน ลงชื่อตรงนี้เลย”
สมาชิกทีม SWAT ยื่นเอกสารมาให้ เอกสารนั้นมีเพื่อยืนยันว่าจะไม่เอาความหากบาดเจ็บระหว่างฝึกซ้อม และยังกำกับหัวเอกสารด้วยว่า ‘สมัครประสบการณ์ซ้อมมือ’ ซึ่งดูเหมือนค่อนข้างจะเร่งร้อนเขียนขึ้นมา โฮมย็องฮวันสงสัยอยู่บ้างแต่ก็เชื่อใจตำรวจ 100% อยู่แล้วจึงลงชื่อไป
“ทางนี้ เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนขึ้นซ้อมด้วยนะครับ”
สมาชิกทีม SWAT รับเอกสารยืนยันพร้อมรอยยิ้มฉายชัด หลังโฮมย็องฮวันเปลี่ยนชุดเรียบร้อย สมาชิกทีมจึงพาเขาไปหาคู่ต่อสู้ที่รออยู่ อีกฝ่ายเป็นชายสูงเพียงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร อีกทางหนึ่ง โฮมย็องฮวันเป็นชายร่างสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร อีกทั้งยังมีกล้ามเนื้อบ้างเพราะฝึกซ้อมเป็นบางครั้ง แม้อีกฝ่ายจะเป็นสมาชิกทีม SWAT แต่นี่มันก็เกินไปที่จะให้เขาสู้กับคนที่มีกายภาพต่างกันค่อนข้างมากขนาดนี้
“นั่น… ไม่ใช่ว่าผมควรซ้อมมือกับคนที่รุ่นน้ำหนักเดียวกันเหรอ?”
โฮมย็องฮวันเกาศีรษะเอ่ยถาม
“แล้วนายหนักเท่าไหร่ล่ะ?”
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน น่าจะประมาณเก้าสิบกิโลนะครับ ถ้าให้แบ่งรุ่นคงเป็นเฮฟวี่เวท”
“งั้นก็เหมือนกัน เฮฟวี่เวท”
ชายหนุ่มยิ้มพร้อมตอบกลับ โฮมย็องฮวันจึงได้ตระหนักว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ล้อเล่น
“เอ้า งั้นเริ่มเลยนะ”
ร่างนั้นพลันวูบหายจากสายตา แถม… โฮมย็องฮวันยังไม่ทันขยับตัวด้วยซ้ำ อย่างกะทันหัน เขารู้สึกถึงแรงปะทะคล้ายค้อนทุบเข้าใส่ช่องท้องอย่างรุนแรง แม้ว่าจะไม่ทราบว่าเป็นลูกเตะหรือว่าหมัด แต่ชัดเจนว่าพละกำลังนี้สมควรเป็นรุ่นเฮฟวี่เวทแล้ว
…และนี่ก็แค่การฝึกซ้อมทั่วไปของสำนักงานตำรวจ…
เขาแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งหมดที่นึกออกก็เพียงแค่ร่างกายโดนหมัดหรือลูกเตะอย่างหนักหน่วงปะทะเข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ลมหายใจเริ่มติดขัด ทว่าโฮมย็องฮวันกลับไม่คิดบอกให้หยุดการโจมตี ไม่สิ เขาอยากร้องตะโกนบอก แต่ชายคนนั้นคล้ายตระหนักได้ว่าเขาคิดจะพูดตอนไหน ก็เตะหรือต่อยเข้ามาตอนนั้น… ทำให้เขาไม่อาจพูดอะไรออกไปได้
‘ระ-เราตายแน่ หมอนี่คิดฆ่าเราแหง!’
โฮมย็องฮวันคล้ายเห็นภาพหลอน ภาพฉากย่าทวดเข้ามาเรียกตัวเขาคล้ายปรากฏขึ้นพร้อมทุ่งดอกไม้ก็ไม่ปาน…
“เฮือก!”
โฮมย็องฮวันสะดุ้งขณะร่างกายลุกขึ้นเอง อีกทั้งยังตั้งท่าป้องกันขณะลุกขึ้นคล้ายสัญชาตญาณสั่งมา ทว่า ลูกเตะที่น่าหวาดกลัวนั้นหาได้เข้ามาไม่ สถานที่ที่โฮมย็องฮวันอยู่ตอนนี้คือห้องเปลี่ยนชุด หลังโดนอัดจนสลบ เขาก็ถูกพาตัวมายังห้องเปลี่ยนชุดแห่งนี้ โฮมย็องฮวันมองรอบห้องเปลี่ยนชุดอย่างโง่งมไม่รู้ทำอะไรดี ฉับพลันประตูซุ้มอาบน้ำพลันเปิดออกพร้อมชายคนหนึ่งที่ก้าวเดินออกมา หัวใจของโฮมย็องฮวันเต้นถี่รัวเหงื่อหลั่งเต็มใบหน้าด้วยความหวาดระแวง เป็นชายคนที่คิดพยายามฆ่าโฮมย็องฮวันเมื่อครู่นี้
“ว่าไง ตื่นแล้ว?”
ชายตรงหน้าหัวเราะขณะเดินเข้าหาโฮมย็องฮวัน มันช่างเปรียบเสมือนปีศาจที่กำลังเดินเข้ามาใกล้คิดพรากชีวิตเขาไป ชายคนนั้นยิ้มให้กับท่าทีตอบสนองของโฮมย็องฮวัน
“ดูเหมือนการฝึกจะส่งผลได้ดีไม่น้อยนะ”
“วะ-ว่าอะไรนะ…?”
ใบหน้าของชายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพลันแข็งกระด้างและกระซิบเข้าที่หูของโฮมย็องฮวัน
“ฟังให้ดี ฉันจะพูดแค่ครั้งเดียว ฉันถ่ายสำเนาบัตรประชาชนนายเอาไว้แล้ว ถ้าหากยังหาตัวเด็กหนุ่มนั่นอีก ครั้งต่อไปเรื่องไม่จบแค่นี้แน่ เข้าใจไหม? ถ้าอยากต่อว่าอะไรก็มาที่แผนกรับมืออาชญากรรมพิเศษได้ทุกเมื่อ แต่นายก็ลงนามสัญญาว่าถ้าตายจะไม่เรียกร้องอะไรไว้แล้วนี่นะ”
กล่าวถึงตรงนี้ โฮมย็องฮวันจึงทราบว่าตนทำผิดพลาดเรื่องใดไป เอกสารที่เซ็นไปนั้น… ชายคนนี้… ลีมย็องลงตบเข้าที่ไหล่โฮมย็องฮวันก่อนออกไป โฮมย็องฮวันเหม่อมองไล่หลังลีมย็องลงไปพักหนึ่ง เรียกร้อง? ช่างเป็นถ้อยคำเกินคาดคิด เอกสารนั่นไม่สำคัญอีกต่อไป กล่าวตามตรงแล้วเขาเพิ่งขอบคุณที่รอดชีวิตจากการประมือเมื่อครู่มาได้ หลังลีมย็องลงออกไปแล้ว โฮมย็องฮวันจึงเร่งร้อนเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกจากสำนักงานตำรวจ เมื่อนั่งแท็กซี่ออกห่างมาได้หลายกิโลเมตร เขาค่อยถอนหายใจได้อย่างโล่งอก พอสภาพจิตใจผ่อนคลาย ความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อในร่างจึงปรากฏเด่นชัด
‘อึก ปวดไปหมดทั้งตัวเลย… เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย? หนังแอคชั่นหรือไง? ทำไมทางตำรวจต้องซ่อนคนคนนั้นเอาไว้ด้วย? ยะ-อย่าบอกนะว่าเราไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ควรรู้? เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นคนของ FIB? CIA? หรืออะไรทำนองนั้นหรือไงกัน?’
ชัดเจนว่าอาการนี้เกิดขึ้นเพราะดูภาพยนตร์มากเกินไป
อย่างไรแล้วโฮมย็องฮวันก็ไม่คิดกล้าสืบสาวเรื่องตัวตนของเด็กหนุ่มคนนั้นอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ความเป็นไปได้ที่โกลบอลเอ็กซอร์ทจะเจอตัวฮยอนอูจึงหลุดลอยหายลับเข้าสู่วงกตอันลึกลับซับซ้อนอีกครั้งหนึ่ง…