ตอนที่ 342 : สัตว์เลี้ยงที่ดีจะเติบโตด้วยอาหารและความรัก? (1)
“หือ? นี่มันอะไรกัน?”
เสียงเอ่ยถามด้วยความสงสัยดังขึ้นจากถ้ำมืดมิด
“น่าจะเป็นที่นี่ไม่ใช่เหรอ…”
อาร์คสำรวจสภาพโดยรอบอย่างงุนงง เขาตรวจสอบสถานที่จริงก็แล้ว ดูแผนที่ก็แล้ว นึกย้อนในความทรงจำก็แล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาผิดถ้ำ แต่เขาไม่อาจพบเจอเส้นทางที่ต้องการไม่ว่าจะมองหาเท่าไหร่ก็ตาม มันคล้ายมีหินเข้ามาขวางเส้นทางไว้
“เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?”
อาร์คนั่งลงขณะเผยสีหน้าเหนื่อยล้าเพราะความคิดถึงทางตัน อาร์คตอนนี้อยู่แถบพื้นที่ทางใต้ของเมืองหลวงเซเลบริดแห่งอาณาจักรชอร์เดนเบิร์ก เหตุผลที่อาร์คยอมทิ้งร้านซึ่งเพิ่งเปิดในหมู่บ้านแลนเซลเดินทางมาที่นี่ก็เพราะต้องการพบเจอกับองค์กรนักฆ่าซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน สมาคมแห่งความมืด แต่แล้วเขากลับต้องพบความยากลำบากเสียแทน… อาร์คคิดมาร้องขอความช่วยเหลือจากสมาคมแห่งความมืด แน่นอนว่าการรวบรวมกองกำลังภายในเกมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อไม่นานมานี้ อาร์คเป็นคนช่วยเหลือเหตุการณ์กบฏภายในของสมาคมแห่งความมืด ตอนนี้พอเขาทราบเรื่องราวความเป็นไปของโลกใต้พิภพแล้วจึงคิดจะมาเกลี้ยกล่อมขอความช่วยเหลือจากพวกเขา
‘ถ้าเปิดโต๊ะเจรจาได้ อย่างน้อยก็คิดว่าต้องสำเร็จ!’
แต่แล้วแผนการกลับโดนขัดขวาง เขามาถึงทางเข้าลับของสมาคมแห่งความมืดที่จะนำไปสู่หอคอยแห่งซาลรินที่นาเบียนเชื่อมต่อเอาไว้กับรังลับสำหรับรับงานของสมาคมแห่งความมืด ถ้ำดังกล่าวคือสถานที่ที่อาร์คนั่งแหมะอยู่ ที่นี่ไม่เหลืออะไร เส้นทางที่เคยมีกลับหายไปจนหมดสิ้น
‘ถ้าเส้นทางถูกปิดกั้นไว้ ไม่มีทางเลยที่คนอื่นจะเข้าไปในหอคอยได้… แต่แล้วทำไมเส้นทางถึงถูกปิดกั้นเอาไว้ล่ะ? หรือเกิดเรื่องอะไรขึ้น? บางทีพวกเขาอาจหนีจากอะไรบางอย่างหรือไม่ก็โดนพบเจอโดยพวกองค์กรนักล่า…’
ถ้าหากเป็นแบบนั้นเรื่องราวก็ยุ่งยากแล้ว
‘ไม่ จะยังไงก็ไม่น่าเป็นแบบนั้น’
อาร์คส่ายศีรษะกับความคิดตัวเอง สมาคมแห่งความมืดเก็บงำตัวเองในความมืดมาหลายร้อยปี หากเกิดเรื่องราวร้ายแรงอะไรขึ้น ทั้งผู้เล่นและองค์กรของเอ็นพีซีในเซเลบริดสมควรมีการเรียกระดมพลแล้ว แต่ตอนที่ไปถึงเซเลบริดก่อนหน้าที่จะมาที่นี่มันก็เงียบสงบดี
‘งั้นก็หมายความว่าสมาคมแห่งความมืดยังไม่ได้หลบหนีไปไหน พวกเขายังอยู่ เพียงแค่ปิดกั้นเส้นทางด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ถ้าหากพวกเขาปิดกั้นเส้นทาง แล้วคนหลายร้อยในสมาคมจะเดินทางไปไหนมาไหนยังไง? หรือก็คือ… มันต้องมีเส้นทางอื่น!’
รอยยิ้มฉายชัดที่มุมปากของอาร์ค
‘ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงซ่อนทางเข้าอีกครั้ง แต่เราไม่มีทางยอมถอยเพราะเรื่องแค่นี้แน่’
ถูกต้อง แม้ว่าเส้นทางจะถูกปิดกั้น แต่ฐานทัพของพวกเขายังคงอยู่แถวนี้ เป็นไปได้ว่าจะมีพวกมือสังหารคอยลอบสังเกตการณ์อยู่ในป่า แน่นอนว่าพวกนั้นย่อมต้องใช้ ‘ลอบเร้น’ เพื่อหลบเลี่ยงสายตาผู้คน แต่ไม่มีทางที่จะรอดพ้นอาร์คไปได้แม้จะใช้ ‘ลอบเร้น’ ก็ตาม
“ราดัน ค้นหาพื้นที่แถบนี้ด้วยสะกดรอย”
ซื่อ ซื่อ ซื่อ!
เมื่ออาร์คออกจากถ้ำก็ออกคำสั่งนี้โดยทันที ราดันกระโจนออกจากเอวของเขา หัวของมันชูชันขณะค้นหาพื้นที่โดยรอบพร้อมแลบลิ้นไปด้วย
=====
ราดันใช้ ‘สะกดรอย’
=====
ในช่วงหนึ่งชั่วโมง พบว่ามีรอยเท้าของสิ่งมีชีวิตมากมายได้ผ่านเส้นทางป่าแห่งนี้ไป นี่คือผลลัพธ์ที่คาดหวังเอาไว้… ไม่สิ รอยเท้ามันเยอะเกินกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก เพราะเหตุนี้สีหน้าของอาร์คจึงกลายเป็นหมดหวังยิ่งกว่าเก่า
‘จริงด้วย พื้นที่แถบนี้คือทางใต้ของเซเลบริด’
แน่นอนว่าต้องมีการเคลื่อนไหวของทั้งผู้เล่นและเอ็นพีซีผ่านเส้นทางนี้ หรือก็คือ ทักษะสะกดรอยของราดันไม่อาจเจาะจงเป้าหมาย มันทำได้แค่ค้นหาร่องรอยโดยรวมทั้งหมด จากรอยเท้านับร้อยพวกนี้ที่กระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่ง เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเจอร่องรอยของพวกมือสังหาร
“ไม่อยากจะเชื่อเลย…”
ซื่อ ซื่อ?
ทักษะทำงานได้เป็นอย่างดี ราดันจึงกระดิกหางไปมาด้วยท่าทีคล้ายต้องการคำชม ทว่าอาร์คกลับถอนหายใจจึงทำให้ราดันเผยสายตาคล้ายถามว่า ‘ป๊ะป๋าครับ ผมทำอะไรผิดไป?’ อาร์คเพียงหัวเราะขมขื่นขณะลูบหัวราดัน
“ไม่หรอก ทำได้ดีมากแล้ว ปัญหาคือรอยเท้ามันเยอะเกินไป”
‘งั้นผมก็ช่วยอะไรไม่ได้สินะ?’
“มันก็ยังดีกว่าไม่มีเบาะแสน่า”
‘ขอโทษครับป๊ะป๋า ผมมันงูไม่ได้เรื่อง’
ราดันเริ่มจะร้องไห้ออกมาขณะอาร์คยังคงลูบหัวต่อไป ถ้าหากเดดริคหรือราซาคได้เห็นภาพนี้ พวกมันย่อมต้องต่อว่าเป็นการใหญ่อย่างแน่นอน นิ้วทั้งสิบของเขาเริ่มรู้สึกเจ็บเพราะการเสียดสีเกล็ด แม้จะเจ็บแต่เขาก็ยินดีที่จะทำ เพราะราดันนั้นมีความรักให้กับอาร์คแทบหมดหัวใจ! ตอนนี้เขาสามารถเดาได้ว่าราดันคิดพูดอะไรเพียงแค่มองสายตาคู่นั้น แน่นอนว่าหากไม่ลูบหัวมันจะยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น…
‘เราจะมัวแต่นั่งจ้องมองรอยเท้าพวกนี้ไม่ได้ ต้องหาวิธีการอื่น…’
อาร์คถอนหายใจขณะเดินไปมา
“หือ?”
อาร์คพบเห็นว่ารอยเท้าส่วนหนึ่งคล้ายแปลกไปอยู่บ้าง ปกติอาร์คไม่ค่อยเกิดคำถามต่อรอยเท้าที่ราดันพบ ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่เคยเผยสีหน้าสงสัยอะไรมาก่อน ทว่า เขาตระหนักถึงบางสิ่งได้เมื่อมองรอยเท้าหลายร้อยเปรียบเทียบกัน
‘บางรอยเท้าดูแปลกออกไป!’
นี่ออกจะคล้ายเกมจับผิดภาพ ครั้งแรกอาจจะยากมองเห็นถึงความแตกต่าง แต่พอพิจารณาไปพักหนึ่งก็จะเริ่มพบเห็น อาร์คก็เช่นกัน เมื่อเขาพบว่ารอยเท้าบางส่วนมีความแตกต่าง ความแตกต่างนั้นก็เริ่มเด่นชัดขึ้นมาในสายตา
‘ใช่แล้ว นิวเวิลด์มีรองเท้าหลากหลายประเภท และพื้นเพทางกายภาพของเอ็นพีซีหรือผู้เล่นล้วนต้องสวมใส่รองเท้าที่เหมาะสมกับอาชีพ ตามปกติแล้วรอยเท้าสมควรมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายภาพและประเภทรองเท้า แบบนี้ก็หมายความว่า?’
ภาพฉากตรงนี้คล้ายเขาเคยเห็นมาก่อน ถูกต้องแล้ว มันคือการสันนิษฐานการสืบคดีของภาพยนตร์ชุด CSI ที่โด่งดังนั่นเอง! ในซีรีส์ดังกล่าว การสืบสวนอาชญากรรมจำเป็นต้องทราบถึงรูปพรรณสันฐานของคนร้าย ลักษณะนิสัยส่วนตัว สิ่งที่มักชอบทำเป็นประจำ เมื่อมีข้อมูลมากขึ้น การคาดเดาก็จะมากขึ้นตาม เขาจำได้ว่าฉากเช่นนี้คล้ายเจ้าหน้าที่จะพูดว่า ‘รอยเท้าพวกนี้มีความต่าง’
ไม่ใช่ว่าหลักการนี้ก็เป็นจริงในนิวเวิลด์ด้วยหรือไร?
‘นี่ไม่ใช่ CSI แต่เราก็พอจะสามารถแยกแยะความต่างจากข้อมูลพื้นฐาน’
อาร์คเริ่มสำรวจรอยเท้าอีกครั้ง เพราะความคิดนี้ผุดขึ้นจึงทำให้เขาเริ่มวิเคราะห์
“ไหนมาดูกันหน่อย… ความลึกของรอยเท้าที่ตื้นและลึก น่าจะหมายถึงลักษณะทางกายภาพอย่างน้ำหนัก ชัดเจนว่าอาชีพที่สวมใส่รองเท้าผ้าสมควรเป็นนักเวทหรือไม่ก็พวกพ่อค้า? อีกทางหนึ่ง รอยเท้าที่ค่อนข้างลึก พวกนี้สมควรเป็นรองเท้าโลหะที่มีน้ำหนักมาก ก็น่าจะเป็นนักรบหรือไม่ก็อัศวิน ถ้าเราคิดมองหาพวกมือสังหาร พวกเขาย่อมต้องสวมใส่รองเท้าหนัง ไม่มีอยู่แถวนี้ ราดัน ออกค้นหาต่ออีกหน่อย”
ซื่อ ซื่อ? ซื่อ ซื่อ ซื่อ!
ราดันกลายเป็นมีชีวิตชีวาขึ้นมาเพราะอาร์คออกคำสั่ง มันเริ่มเลื้อยไปมากับพื้นขณะที่หางสั่นคล้ายกำลังทำงาน ไม่ช้าก็พบรอยเท้ามากขึ้น
“ดี นี่แหละ! น่าจะใช่นะ!”
อาร์คใช้การวิเคราะห์เปรียบเทียบกับพวกรอยเท้าก่อนหน้าเพื่อแยกรอยเท้าที่ไม่ใช่ออกไปทีละหนึ่ง เขากำลังมองหารอยเท้าที่น่าจะเกิดจากรองเท้าหนัง แต่รองเท้าหนังส่วนใหญ่เอ็นพีซีและพวกผู้เล่นก็มักสวมใส่กัน อาร์คเองก็สวมใส่รองเท้าหนัง ทว่า อาร์คกำลังมองหารอยเท้าที่มีก้าวเดินแคบเป็นพิเศษ ตามปกติแล้วไม่ว่าจะเอ็นพีซีหรือผู้เล่นจะไม่มีทางใช้ก้าวที่แคบเดินในภูเขา หากมีรอยเท้าพวกนั้นคงอยู่ล่ะก็…
“เป็นเพราะกำลังสะกดรอย พวกนั้นต้องทำให้เกิดเสียงน้อยที่สุดระหว่างใช้งาน ‘ลอบเร้น’ สมาคมแห่งความมืดเป็นเพียงพวกเดียวที่มักใช้ ‘ลอบเร้น’ ในการสะกดรอย น่าจะเริ่มค้นหาได้จากเบาะแสนี้!”
ซื่อ ซื่อ ซื่อ!
นับว่าอาร์คใช้การวิเคราะห์อันยอดเยี่ยม! ราดันที่รับชมเรื่องราวอยู่ถึงกับเผยดวงตานับถืออาร์คมากยิ่งขึ้น ไม่ช้าหน้าต่างข้อมูลพลันปรากฏขึ้นพร้อมเสียงประกอบมีชีวิตชีวา
=====
สมุนปีศาจราดันของท่านได้รับความชำนาญใหม่จากเจ้านาย
สมุนปีศาจของท่านมีความเข้าใจต่อทักษะค่อนข้างตื้นเขิน เพราะไม่อาจพัฒนาทักษะได้ผ่านการใช้งานบ่อยครั้งเหมือนผู้เล่น เพื่อเป็นการยกระดับศักยภาพของทักษะ สมุนปีศาจของท่านจำเป็นต้องให้เจ้านายสอนการใช้ทักษะอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเติบโตขึ้น ผู้เล่นอาร์คที่เริ่มเข้าใจต่อการสะกดรอยถึงระดับหนึ่งจึงเป็นผลให้ทักษะสะกดรอยของราดันเลื่อนระดับ
อย่างไรแล้ว การฝึกอย่างเหมาะสมและจริงใจจึงจะสำเร็จ เพื่อเพิ่มศักยภาพทักษะของสมุนปีศาจ ท่านจำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็นค่าสถานะความรักจำนวนหนึ่ง
ท่านต้องการให้ทักษะสะกดรอยของราดันเลื่อนขึ้นเป็นขั้นกลางหรือไม่?
=====
“ว่าอะไรนะ?”
อาร์คอ่านหน้าต่างข้อมูลอีกครั้งด้วยดวงตาตื่นตะลึง
“ความรู้ความเข้าใจของเราเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเลื่อนระดับทักษะให้สมุนปีศาจด้วยเหรอเนี่ย?”
อันที่จริง ช่วงเวลาที่ผ่านมาอาร์คก็สงสัยอยู่หลายครั้งถึงทักษะของสมุนปีศาจ สมุนปีศาจแต่ละตัวของเขามีทักษะแบ่งออกเป็นสองประเภท ยกตัวอย่าง อย่างแรกคือทักษะที่กำหนดตายตัวไว้อย่าง ‘การเปลี่ยนร่าง’ ของราดัน ทักษะเช่นนี้คือทักษะพิเศษที่ได้เรียนรู้หลังอาร์คเติมเต็มข้อกำหนดเงื่อนไขมาได้ มันจะจบลงแค่นั้นและไม่มีทางเติบโตขึ้นอีก ประเภทที่สองคือทักษะทั่วไป อย่างการสะกดรอยของราดัน โล่ปะทะของราซาค และการยั่วยุของเดดริค ทั้งหมดเป็นทักษะที่สมควรเพิ่มประสิทธิภาพได้ ในหน้าต่างข้อมูลสมุนปีศาจของเขา พวกมันก็แสดงให้เห็นว่าเป็นขั้นต้น นั่นหมายความว่าสามารถเติบโตได้อย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าจะหาทางยังไง ทักษะพวกนี้กลับไม่เคยเพิ่มขึ้นเลย
‘เรื่องนี้แปลกมาก ทักษะพวกนั้นยังคงเป็นขั้นต้นอยู่เรื่อยมาและไม่เคยเลื่อนขึ้นเป็นขั้นกลางไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน แถมเรายังไม่อาจรู้ได้ด้วยว่าทักษะมันพัฒนาไปขนาดไหนแล้วเพราะไม่มีตัวเลขแจ้งบอก นี่ย่อมหมายความว่าต้องใช้เงื่อนไขอื่น?’
นั่นคือความคิดของอาร์คเมื่อก่อนหน้าตอนที่ยังไม่เข้าใจ ตอนนี้คำถามได้รับคำตอบเรียบร้อยแล้วเมื่อเห็นหน้าต่างข้อมูลตรงหน้า สมุนปีศาจของเขาไม่มีความสามารถคิดอ่านด้วยตัวเอง เพราะงั้นพวกมันจึงจำเป็นต้องได้รับปัจจัยภายนอกเพื่อยกระดับทักษะ หากไม่มีการเรียนรู้หรือแบบอย่าง ตามปกติพวกมันย่อมไม่มีทางเรียนทักษะอะไรด้วยตัวเองได้ ความรักและการฝึกฝนคือสิ่งจำเป็น นั่นจึงเป็นเหตุให้ความรักและการดูแลเอาใจใส่จำเป็นต่อสมุนปีศาจ!