ตอนที่ 403 : ของที่ระลึก
ไม่นานนักหลังจากคาราคุลตายจาก
ตามกฎของการประลองแห่งแวมไพร์ ราคาร์คจึงได้รับสืบทอดทรัพย์สินทั้งหมดของคาราคุล นี่หมายความว่าอาณาเขตของคาราคุล ปราสาท และปีศาจเลือดที่เป็นผู้ใต้บัญชาทั้งหมดจะตกเป็นของราคาร์ด ปีศาจเลือดเหล่านั้นพลันมีท่าที่เปลี่ยนแปลงหลังการประลองเสร็จสิ้น
“โอ้ ท่านผู้นําจงเจริญ!”
“เหมือนที่คิดไว้ กับผู้ที่เบิกทางสู่อนาคตด้วยตัวเองนั้นช่างวิเศษ”
“นับเป็นเกียรติที่พวกเราได้รับใช้ท่านลอร์ด”
“พวกเราจะเริ่มต้นกันใหม่ไปด้วยกัน”
“ข้ายอมพลีชีพนี้เพื่อท่านลอร์ด!”
เหล่าปีศาจเลือดต่างคุกเข่าลงกับพื้นกล่าวคําเยินยอกันยกใหญ่ ถ้ามีหางคงกระดิกได้ไปแล้ว พวกเขาไม่คล้ายผู้ใต้บัญชาที่รับใช้คาราคุลมานับร้อยปีเลย อย่างไรก็ดี ปีศาจเลือดและคาราคุลมีความสัมพันธ์ไม่คล้ายจะมีความภักดีมอบให้ มันคล้ายกับบังคับทําสัญญาเลือดกันเสียมากกว่า
“เอิร์ล… ท่านเอิร์ลราคาร์ด…”
ราคาร์คคล้ายยังไม่เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่เพียงชั่วครู่ ใบหน้านั้นก็สุกสว่างหลังจากที่พวกปีศาจเลือดต่างยกยอกันไม่ขาดสาย
“เอิร์ล… ใช่แล้ว นับแต่นี้ข้าคือเอิร์ล ฮ่าฮ่าฮ่า ปราสาทแห่งนี้เป็นของข้า! ทุกสิ่งอย่างเป็นของข้า! ฮ่าฮ่าฮ่า เดี๋ยว? สิ่งของน่ารังเกียจพวกนี้คืออะไร? นี่หรือห้องข้า?”
ราคาร์คมองไปรอบห้องพร้อมคิ้วขมวดเมื่อเห็นวัตถุสีดํามากมายเต็มห้อง หนึ่งปีศาจเลือดพลันเร่งร้อนเข้ามาตอบรับ
“ถูกต้องขอรับ ห้องนี้คือของคาราคุลที่เป็นลอร์ดคนก่อน”
คาราคุลเป็นแวมไพร์ที่ทรงพลังอํานาจและเข้าควบคุมโลกมืดเอาไว้จํานวนหนึ่ง ทว่าด้วยคอมโบทั้งสามจากทั้งกางเขน กระเทียม และแสงสะท้อน ทั้งหมดได้ทําให้อีกฝ่ายแปรเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่าน ราคาร์ดคล้ายไม่พอใจกับคําตอบของปีศาจเลือดก่อนจะกล่าวออกมา
“มัวแต่พล่ามอะไรอยู่? ที่นี่คือห้องของข้า รีบทําความสะอาดให้เร็ว!”
“เข้าใจแล้วขอรับ พวกเราจะเร่งรีบจัดการให้โดยทันที”
เมื่อเหล่าปีศาจเลือดแปลงกายเป็นนักทําความสะอาดมืออาชีพ ไม่ช้าห้องก็กลับมาสะอาดสะอ้านอีกครั้งอย่างรวดเร็ว สิ่งของที่เสียหายถูกขนย้ายออกไป ขณะที่คราบเลือดหลายแห่งถูกเช็ดออก จากนั้น ร่างของแวมไพร์ที่แข็งแกร่งอย่างคาราคุลถูกนําไปกําจัดทิ้งไม่ต่างอะไรกับขยะเปียกด้วยสภาพที่เห็นนั้นช่างน่าเวทนายิ่งนัก
“หึหึหึ นับแต่นี้ข้าคือเอิร์ล… ต้องพูดจาให้สมเป็นเอิร์ลด้วยสินะ?”
ราคาร์คนั่งกับเก้าอี้ขณะเผยเสียงหัวเราะแบบที่คาราคุลเคยทํา จากนั้นจึงหันไปกล่าวกับอาร์คและชาววูล์แรง
“เห็นไหม? เห็นขาไหม? ตอนนี้ข้าเป็นเอิร์ลแล้ว แต่เจ้านายไม่ต้องกังวล ข้าไม่ใช่แวมไพร์ไร้สามัญสํานึก นอกจากนี้ ข้ายังนึกขอบคุณชาววูล์แรงที่ช่วยเหลือ ดังนั้นแล้วนับจากนี้สามารถใช้ชีวิตกันต่อไปได้อย่างสบายใจ ฮ่าฮ่าฮ่า”
ทว่า อาร์คไม่คล้ายจะหัวเราะออกด้วย
“ไอ้เจ้านี่..”
อาร์คถอนหายใจทั้งสีหน้าผสมปนเป แน่นอนว่าราคาร์ดวิวัฒนาการมาได้ถือว่าดีไม่น้อยสําหรับอาร์ค ค่าสถานะทั้งสิ้น 170 หน่วยถูกเสริมเข้าไปตอนราคาร์ควิวัฒนาการ มันเหมือนกับได้รับเลเวลมา 17 ระดับในคราวเดียว ทว่าสิ่งสําคัญของสมุนปีศาจไม่ใช่เลเวลแต่เป็นระดับชั้น ไม่นานมานี้ เขาได้เรียนรู้ว่าระดับชั้นที่ปรากฏในหน้าต่างข้อมูลสัตว์อัญเชิญไม่ใช่การแบ่งชนชั้นอย่างเรียบง่าย
ความสามารถทางการโจมตีของมอนสเตอร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเลเวลหรือว่าค่าสถานะ แต่ทักษะของผู้เล่นนั้นขึ้นอยู่กับระดับของทักษะ เรื่องนี้ก็เป็นเช่นเดียวกันกับมอนสเตอร์ด้วยทักษะของมอนสเตอร์ ความฉลาด ความสามารถ ทั้งหมดจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระดับชั้น นั่นหมายความถึงว่าทําไมผู้เล่นเลเวล 80 ถึงสามารถต่อสู้กับมอนสเตอร์เลเวล 100 ได้โดยไม่ยากเย็นอะไรนัก อย่างไรแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายสําหรับผู้เล่นเลยหากที่พวกเขาเผชิญหน้านั้นคือมอนสเตอร์ระดับกลางเลเวล 100 ถ้าหากมอนสเตอร์อยู่ในระดับสูงแบบนั้นแล้วพลังโดยรวมจะเพิ่มขึ้นราว 20 เลเวลโดยประมาณ เมื่อเป็นถึงขนาดนี้ หากต้องการโค่นล้มก็ต้องใช้ทั้งปาร์ตี้แล้ว นี่ก็เป็นหนึ่งเหตุผลว่าทําไมอาร์คถึงใช้งานราคาร์คต่างดาวเทียมสอดแนมในการศึก มอนสเตอร์ส่วนใหญ่ที่อาร์ครับมือมาจนถึงตอนนี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นระดับกลาง เป็นเพราะราชาควิวัฒนาการแล้ว ตอนนี้เขาจึงมีสัตว์อัญเชิญระดับกลางทั้งสิ้นสองตัวด้วยกัน
แต่เขายังไม่สุขใจเท่าไหร่นักกับการวิวัฒนาการของราคาร์คเป็นระดับกลาง หากเดดริคโจมตีมอนสเตอร์ระดับกลาง ความเสียหายนั้นอาจโดนลดทอนหรือไม่อาจกระทํา อีกทางหนึ่ง มีความเป็นไปได้ว่าอาจได้รับความเสียหายเพิ่มเติมหากตกอยู่ในอาการวิกฤต ระดับของมอนสเตอร์นั้นจะเพิ่มขึ้นตามพื้นที่เลเวลสูงเช่นเดียวกัน แบบนั้นแล้วต่อให้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังหรือเพิ่มค่าสถานะด้วยอาหารมาก เพียงใดก็ไม่อาจใช้พลังอย่างเต็มที่ ท้ายที่สุด การวิวัฒนาการสัตว์อัญเชิญของเขาคือสิ่งจําเป็นหากต้องการใช้งานพวกมันในพื้นที่เลเวลสูง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทําไมอาร์คยังหาหนทางเพื่อวิวัฒนาการพวกมันแม้สามารถเพิ่มค่าสถานะด้วยอาหารได้
“อะไรก็ดี ราคาร์คเลื่อนเป็นระดับกลางแล้ว นับจากนี้ถ้าเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ระดับกลางคงไม่มีข้อจํากัดอะไรอีก”
นี่หมายความว่าเขาสามารถใช้ราคาร์คเสริมให้การต่อสู้ดุดันขึ้นได้
“แถมยังได้ช่องทักษะดูดเลือดเพิ่มมาอีก”
จนกระทั่งถึงตอนนี้ การดูดเลือดสามารถบันทึกได้เพียงหนึ่งเพราะมีหนึ่งช่องทักษะ มันสะดวกสบายก็จริง แต่ถ้าหากเขาต้องการเก็บทักษะอะไรสักอย่างเอาไว้ในช่องดังกล่าวแบบนั้นแล้วก็จะไม่สามารถดูดเลือดได้อีก ตอนนี้มีแล้วถึงสองช่อง เขาสามารถแยกออกเป็นหนึ่งช่องเพื่อใช้งานเฉพาะหน้ากับอีกหนึ่งที่เก็บไว้คราวจําเป็น ยังมีความเป็นไปได้อีก 10% ที่จะสามารถขัดขวางทักษะอย่างสุ่มได้อีกต่างหาก อาร์คเคยประสบเหตุโดนห้ามใช้งานทักษะมาแล้วโดยคาราคุล ดังนั้นแล้วเขาจึงตระหนักดีถึงความพิเศษ แม้ว่าทักษะที่ถูกขัดขวางจะเป็นการสุ่ม แต่มันก็ดีไม่น้อยหากใช้มันกับศัตรู
“เส้นทางโลหิตก็เป็นเวทมนตร์คําสาปพื้นที่!”
การวิวัฒนาการครั้งนี้นับว่าประสบความสําเร็จครั้งใหญ่
“ดี ได้ทั้งแก้แค้นคาราคุล สมุนปีศาจก็วิวัฒนาการเป็นราคาร์ด… ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีหมด แต่ว่า…”
อาร์คถอนหายใจขณะมองไปยังราคาร์ดด้วยสายตาเหม่อลอย ไม่สิ เขามองไปยังชุดทักซิโด้สีแดงที่ราคาร์ดสวมใส่อยู่ต่างหาก เหตุผลที่อาร์คไม่พอใจนักก็เพราะชุดทักซิโด้นั่น
ทักซิโด้แดงเลือด (หายาก)
ประเภท : ชุดคอสตูมพิเศษ
ความทนทาน : 23/60
พลังป้องกัน : 30
น้ำหนัก : 15
ข้อจํากัดการใช้งาน : เฉพาะแวมไพร์
ทักซิโด้ของแวมไพร์ที่ถูกย้อมด้วยสีที่โปรดปราน สีแดงเลือด ก่อนหน้านี้คาราคุลผู้ซึ่งมีพลังอํานาจเหลือล้นได้ว่าจ้างช่างตัดเย็นชั้นเลิศจัดทําชุดอันหรูหราขึ้น มีแวมไพร์เพียงน้อยนิดเท่านั้นซึ่งจะครอบครองทักซิโด้ที่หรูหราเช่นนี้ในโลกมืด เกียรติภูมิของแวมไพร์ที่สวมใส่มันจะยิ่งมายิ่งเพิ่มขึ้น
“เป็นไอเทมหายากทั้งที แต่กลับเฉพาะแวมไพร์
แวมไพร์ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้ นอกจากนี้อาร์คยังเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่มีสัตว์อัญเชิญเป็นแวมไพร์ หรือก็คือ ไอเทมสําหรับแวมไพร์เท่านั้นไม่ต่างอะไรกับมีเพื่อราคาร์ด แน่นอนว่าอาร์คก็ยินดีที่จะมอบอุปกรณ์สวมใส่เช่นนี้ให้สัตว์อัญเชิญอยู่หรอก แต่หากขายได้มันคงดีกว่านี้
“ทําไมบอสมอนสเตอร์ถึงต้องดร็อปของหายากให้สมุนปีศาจของเราด้วย?”
สําหรับไอเทมหายาก เขาสามารถได้รับเหรียญทองหลายร้อยเหรียญในกรณีที่มันไม่ได้จํากัดเฉพาะแวมไพร์ ตอนนี้ เขาทําได้เพียงแค่ยกมันให้ราคาร์ด อาร์ครู้สึกโกรธอยู่บ้างที่เห็นราคาร์คสวมใส่ชุดทักซิโด้ดูดีราคาแพงเช่นนั้น
“ตอนแรกเราจ่ายไป 700 เหรียญทองกับพอร์ตอัญเชิญ ตอนนี้ยังต้องเสียไอเทมหายากให้สมุนปีศาจอีก? เห็นเราเป็นแจโบลหรือยังไง? เรื่องบ้าบอพวกนี้เกิดขึ้นได้ยังไงกัน? ทําไมการจะมีสมุนปีศาจสักตัวสองตัวถึงมีค่าใช้จ่ายเยอะขนาดนี้? อีกทางหนึ่ง ราคาร์คตอนนี้ได้กลายเป็นลอร์ดแล้ว…”
*แจโบล คือ กลุ่มธุรกิจที่รวมตัวกันขนาดใหญ่และมีอิทธิพลอย่างมากในเกาหลีใต้ ยกตัวอย่างเช่น Samsung, LG, Hyundai*
ในสถานการณ์เช่นนี้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่อาร์คจะไม่นึกถึงผลกําไร อาร์คกัดริมฝีปากก่อนไอเดียสุดบรรเจิดจะปรากฏขึ้นในหัว
“ที่นี่เป็นปราสาทนี่นา? เหอะเหอะ”
ดวงตาของอาร์คลุกโชนทอประกายขณะมองไปรอบห้องคาราคุลค่อนข้างเป็นแวมไพร์รสนิยมดีไม่น้อยในโลกมืดแห่งนี้ ก็เหมือนกับแวมไพร์ส่วนใหญ่ ไอเทมมากมายได้ถูกรวบรวมเอาไว้เพื่อจัดแต่งอย่างมีระดับ มีทั้งรูปภาพและรูปปั้นที่ดูไม่ค่อยจําเป็นมากมายในปราสาทแห่งนี้ อีกทั้งเจ้าของตอนนี้ยังเป็นราคาร์ด! อาร์คที่เกิดความคิดบรรเจิดจึงเผยรอยยิ้มชั่วร้ายให้ราคาร์ด พร้อมกันนั้น ราคาร์ดที่มีความฮึกเหิมก็ยิ่งเหิมเกริมมากขึ้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า ต้องแบบนั้น ข้านี่แหละคือเอิร์ล! เดดริคเคยใช้ชีวิตในรังหนูอันเล็กกระจ้อย ตอนนี้ข้าคือเอิร์ลแล้ว! เอ้า จงชื่นชมข้าเสียสิ!”
เดดริคที่ได้รับการยกระดับขึ้นมากระทําตัวไม่ต่างกับผู้ค้นพบทวีปแห่งใหม่โดยพยายามแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอย่างรุนแรง มันน่าหงุดหงิดไปบ้างแต่เขาก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้
“โอ้ ท่านเอิร์ลราคาร์ดจงเจริญ!”
“พวกเราขอน้อมภักดีต่อท่านลอร์ด!”
“แม้พวกเราไม่เคยพูด แต่พวกเราเกลียดชังคาราคุลยิ่งนัก”
ยิ่งมีปีศาจเลือดกล่าวหนุนเสริมไม่หยุดหย่อนเช่นนี้ ราคาร์ดก็ยิ่งได้ใจมากขึ้น
“หึหึหึ ก้มหัวให้ข้าเสียสิ!”
“นี่ราคาร์ด”
อาร์คเดินเข้าไปใกล้
“ว่าอะไร? ไอ้บัดซบตัวไหนมันกล้าเรียกชื่อข้า…. เหวอ จะ-เจ้านาย!”
“โห เดี๋ยวนี้เหิมเกริมถึงขนาดนี้? ตอนนี้เป็นใหญ่เป็นโตแล้วฉันเลยเรียกชื่อไม่ได้แล้วงั้นสิ?”
“ไม่ คือว่า มันไม่ใช่แบบนั้นขอรับ…”
แม้จะได้เป็นเอิร์ล แต่ราคาร์ดอย่างไรก็เป็นสมุนปีศาจของอาร์ค ความเจ็บปวดที่ราคาร์ดเคยได้รับตอนวิวัฒนาการเป็นเดดริคนั้นยังคงฝังลึกแน่นภายในไขกระดูก ราคาร์ดคิดว่าอาร์คกําลังจะเข้ามาตบตีอีกครั้งจึงเร่งร้อนปิดปากพร้อมอาการสั่นกลัว
“ข้าไม่ทราบว่าเป็นเจ้านาย จริงนะขอรับ”
“อืม ยังดีที่การกวดขันวินัยก่อนหน้านี้ยังได้ผลอยู่”
อาร์คค่อนข้างชอบสีหน้าคล้ายโดนรังแกนี้ไม่น้อย
“ตอนแรกก็นึกว่าหลังวิวัฒนาการจะกลับไปเกเรเหมือนก่อน แต่ตอนนี้ไม่เป็นแบบนั้นงั้นสินะ”
“เอาเถอะ ครั้งนี้ลําบากนายหลายเรื่องจริง เพราะงั้นฉันไม่ถือสากับเรื่องแค่นั้นหรอก”
ราคาร์ดถอนหายใจโล่งอกเมื่ออาร์คกล่าวจบคํา แต่แล้วคําพูดถัดมานั้น…
“ว่าแต่ ที่นายได้เลื่อนตําแหน่งขึ้นมาแบบนี้ก็น่ายินดีนะ ความดีความชอบเรื่องนี้ควรขอบคุณใคร?”
“ขอรับ? ระ-เรื่องนั้น…. ขอขอบพระคุณยิ่งนักขอรับ”
“เป็นแบบนั้น? นายซาบซึ้งใจใช่ไหม?”
อาร์คยิ้มก่อนจะตบเข้าที่ไหล่ของราคาร์ด
“งั้นฉันก็ขอพูดอะไรตรงไปตรงมาหน่อยนะ”
“ขอรับ? เจ้านายคิดอยากพูดอะไรกัน?”
“พอมาคิดดูแล้ว นายก็รู้สึกขอบคุณฉัน ตอนนี้นายก็มีลูกน้องหลายร้อย แถมได้รับปราสาทดีเยี่ยมเช่นนี้ก็เพราะฉัน แต่แล้วความยากลําบากที่ฉันลงทุนลงแรงไปก่อนหน้านี้ล่ะ? ฉันไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลยนะ ไม่คิดว่านี่มันโหดร้ายเกินไปหรือยังไง? ลงทุนลงแรงไปมากขนาดนั้นแต่กลับไม่ได้รับอะไรคืนมาเลย”
“เอ? ตะ-แต่ว่า…”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ต้องการเงินหรอกน่า”
อาร์คมองไปรอบก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแสร้งเขินอาย
“ขอของที่ระลึกจากปราสาทของนายสักหน่อยก็แล้วกัน ”
“ขะ-ของที่ระลึก?”