Ark The Legend – ตอนที่ 446 : ศาลแห่งมานา

ตอนที่ 446 : ศาลแห่งมานา

 

[ขาคือนักเวทแห่งโอเบเรียม]

 

วิญญาณนักเวทที่หลุดออกจากร่างของคารัตเผยเสียงถอนหายใจเป็นการตอบรับ ก็เหมือนกับพวกวิญญาณในโอเบเรียม อาร์คมี ค่าความสัมพันธ์กับคารัตถึง 100% เพราะทำการปลดปล่อยอีกฝ่าย ดังนั้นแล้วอาร์คจึงได้รับคําตอบของหลายคําถามจาก วิญญาณนักเวทตรงหน้านี้ และก็เป็นเหมือนที่อาร์คคิดไว้ เดิมที่สถานที่แห่งนี้คือเหมืองแร่ถ่านหิน แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดสิ่งหนึ่งที่ประหลาดแพร่กระจายไปทั่วทั้งเหมืองแห่งนี้ ลอร์ดแห่งพื้นที่จึงทําการส่งคนเข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ก่อนจะโรยราไปเพราะคําสาป สถานที่แห่งนี้ขึ้นตรงกับลอร์ดแห่งโอเบเรียม และนักเวทคนนี้คือผู้ที่เข้ามาทําการตรวจสอบเรื่องราว

 

[หลังจากลงมาที่นี่ ข้าเตรียมทําการปลดปล่อยศาลแห่งมานาในตํานาน]

 

“ศาลแห่งมานางั้นเหรอครับ?”

 

[ใช่ ศาลแห่งมานาคือสถานที่ซึ่งสามารถใช้กักเก็บพลังมานาเอาไว้ และศาลแห่งมานาก็มีสองประเภทหนึ่งคือจะปลดปล่อยพลัง มานาไร้สิ้นสุดออกมาอีกหนึ่งคือจะดูดซับพลังมานาจากพื้นที่รอบด้านเข้ามา และศาลแห่งมานาที่คงอยู่ลึกในสถานที่แห่งนี้ก็เป็นแบบหลัง ในบางกรณีซึ่งหาได้ยากยิ่ง พลังของศาลแห่งมานาจะหลุดออกไปภายนอก แต่ศาลแห่งมานาที่นี่กลับดิ่งลงลึกสู่ใต้ดินเป็นเวลานาน]

 

นักเวทตรงหน้าได้กลับไปรายงานผลการสืบสวนต่อลอร์ดแห่ง พื้นที่ในตอนนี้ กองกําลังแห่งโอเบเรียมกําลังเตรียมออกไปต่อสู้กับกองทัพแห่งความมืด หลังจากลอร์ดได้รับรายงานข่าว เขาจึงสั่งให้นักเวทเข้าทําการประคองพลังของศาลแห่งมานาเอาไว้ หาก ามารถควบคุมการดูดพลังมานาได้ แบบนั้นจะมีอีกหนึ่งวิธีเพื่อใช้ต้านทานกองทัพแห่งความมืด นักเวทที่ได้รับคําสั่งจึงเข้ามาทํางานใกล้ชิดกับเหมืองและเริ่มศึกษามัน

 

“แล้วหาวิธีพบไหมครับ?”

 

อาร์คเอ่ยถามด้วยความสงสัย ทว่านักเวทสายศีรษะเป็นการตอบรับ

 

[ด้วยภูมิความรู้ของข้า เป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบเจอวิธีการรับมือกับพลังอํานาจของธรรมชาติผู้ยิ่งใหญ่ กระทั่งคนงานที่ขุดเหมืองยังต้องสูญเสียพลัง]

 

ดูเหมือนว่าพลังนี่จะเป็นอะไรที่ยากนําไปใช้งานไม่น้อย

 

[แต่แล้ว ข้าก็ได้พบเรื่องเกินคาดคิด ข้าได้ค้นพบหินที่สามารถดูดซับพลังเวทได้รูปลักษณ์มันก็เหมือนก้อนหินทั่วไป หลังทําการตรวจสอบหินดังกล่าว ก็พบว่ามันสามารถดูดซับพลังเวทจากพื้นดิน ข้าจึงพบว่ามันคือแก่นหิน]

 

‘แก่นหิน!’

 

ดวงตาของอาร์คลุกโชน เขาได้รับไอเทมที่มีช่องมาจากสมาคมเวทมนตร์ อาร์คพบเจอแก่นหินจํานวนหนึ่งในพื้นที่ของลอร์ดแห่งแวมไพร์ แต่เขายังไม่เจอก้อนอื่นที่น่าจะมีประโยชน์ เขาก็มองหา แก่นหินเพื่อนํามาใช้งานเช่นเดียวกัน เมื่อได้ยินเรื่องราวจึงทําให้ดวงตาของอาร์คเป็นประกาย แต่ก่อนที่อาร์คจะถามข้อมูลเจาะลึกลงไป นักเวทตรงหน้าก็ถอนหายใจแล้วส่ายศีรษะ

 

[ทว่า…]

 

ในช่วงที่นักเวทกําลังจะสัมผัสกับแก่นหินนั้นเอง เวทมนตร์คําสา ปก็ทํางานที่โอเบเรียมไปแล้ว ด้วยพลังอันไพศาลของมหาเวทคําสาป มันได้แปรเปลี่ยนให้ถึงที่เคยงดงามกลายเป็นเน่าเหม็น ทุกชีวิตถูกทําให้ติดอยู่ภายใต้คําสาป ความตายกระจายไปทั่วผืนแผ่นดิน อาร์คพลันเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาได้ขณะรับฟังเรื่องราวจึงเอ่ยถามออกไป

 

“อันเดตที่อยู่ในบึงทั้งหมดนั่นเป็นประชากรของโอเบเรียมเหรอครับ?”

 

แบบนั้นแล้วทําไมทักษะผนึกปีศาจถึงไม่ทํางานตอนที่เขาสังหารซอมบี้เชื้อราในเมื่อพวกเขาต่างเป็นคนของโอเบเรียม? ทว่านักเวทก็ตอบคําถามของอาร์คอย่างรวดเร็ว

 

[ไม่เหมือนกัน อันเดตในพื้นที่แถบนี้เกิดขึ้นหลังจากคําสาปแพร่กระจาย]

 

อย่างไรก็ตามแต่ นักเวทซึ่งอยู่ที่นี่ก็ประสบพบเจอกับมหาเวทคําสาปเช่นเดียวกัน แต่เขาไม่ได้ตายเหมือนอย่างประชากรคนอื่น มันถูกหยุดยั้งไปเพราะศาลแห่งมานาดูดซับพลังมานาของมหาเวทคําสาปไปงั้นหรือ? หรือบางทีอาจเป็นเพราะอยู่ลึกใต้ดิน? เวทมนตร์คําสาปส่งผลให้นักเวทเกิดอาการปนเปื้อนไม่สมบูรณ์ ทว่า ด้วยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแล้วยังไงมันก็ยังเป็นคําสาปที่น่าสะพรึงไม่น้อยอยู่ดี ทั้งไม่ตายและไม่มีชีวิต… นักเวทคนนี้ต้องอดทนต่อความเจ็บปวดขณะร่างกายยังกิ่งมีชีวิต

 

[กระทั่งว่าฆ่าตัวตายก็ยังไม่อาจพ้นจากคําสาปของดาร์คลอร์ด เพราะร่างกายที่เน่าเปื่อย ข้าเริ่มค้นหาวิธีเอาชนะคําสาป ท้ายที่สุดข้าจึงพบวิธีการใช้พลังจากศาลแห่งมานาที่อยู่ภายในแก่นหิน]

 

พบแก่นหินภายในศาลแห่งมานา! ศาลแห่งมานาได้หยุดยั้งคําสาปเพราะดูดซับพลังมานาเข้าไป แบบนั้นแล้วไม่ใช่ว่าพลังอํานาจของแก่นหินจะสามารถใช้ดูดซับเอาคําสาปที่อยู่ในร่างกายออกไปได้? แต่ก็ไม่เหมือนที่คาดคิด พลังเวทจากแก่นหินไม่สามารถควบคุมหลังทําการดูดซับคําสาปออกไป ท้ายที่สุดเหตุการณ์ได้จบลงที่นัก เวทได้กลายเป็นลิซ เพราะเหตุนั้นคารัตจึงมีภูมิต้านทานอํานาจของศาลแห่งมานาเพราะดูดซับเวทมนตร์จากแก่นหินเข้าไปบางส่วน

 

[ตอนนี้ในที่สุดข้าก็ได้เป็นอิสระจากความเจ็บปวดแล้ว]

 

นักเวทกล่าวทั้งยังชี้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ฉับพลันแสงเริ่มปกคลุมร่างกายนักเวททีละน้อยนักเวทได้กล่าวด้วยน้ําเสียงทราบซึ้งก่อน ร่างจะเริ่มเลือนหาย

[เวลาของข้าได้ผ่านพ้นไปแล้ว ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งเจ้ามา]

 

นักเวทกล่าวถ้อยคําสุดท้ายออกมาก่อนจะหายไปอย่างสมบูรณ์ ไม่เหมือนกับประชากรแห่งโอเบเรียม มันมีเหตุผลอยู่พลังปีศาจของนักเวทคนนี้ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก มันค่อนข้างอ่อนแอเพราะเวทมนตร์คําสาปต้องปะทะกับพลังของแก่นหินมานานยิ่ง นักเวทคนนี้ใช้เวลาไม่นานก่อนจากไปหลังพลังเวทปีศาจถูกแยกออกมา ในเมื่อออร่าปีศาจอ่อนแอ ไอเทมที่ใช้ทําการผนึกปีศาจจึงไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงมากเท่ากับไอเทมที่ได้รับจากโอเบเรียม แต่อย่างน้อยก็ยังนับเป็นรางวัลสําหรับการปลดปล่อยนักเวทคนนี้ หลังร่างวิญญาณหายไป เขาก็ได้รับค่าประสบการณ์จำนวนไม่น้อย

 

ท่านได้รับค่าประสบการณ์เพิ่ม 30% จากการใช้ผนึกปีศาจ

 

เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น

 

เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น

 

เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น

 

ทุกครั้งที่ใช้ทักษะผนึกปีศาจสําเร็จ เขาจะได้รับค่าประสบการณ์พิเศษ 30% ด้วยเหตุนี้อาร์คจึงเพิ่มเลเวลมา 7 ระดับในคราวเดียว

 

‘แบบนี้ดีแล้วใช่ไหมนะ?’

 

อาร์คหัวเราะในลําคอขณะเดินเข้าหาศพของคารัต

 

ผ้าคลุมที่มีพลังแปลกประหลาด (หายาก)

 

ประเภท : ผ้าคลุม

 

ความทนทาน : 25/60

 

พลังป้องกัน : 25

 

น้ําหนัก : 20

 

ข้อจํากัดการใช้งาน : เลเวล 250 ขึ้นไป

 

ผ้าคลุมชั้นสูงที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อนักเวทระดับสูงแห่งโอเบเรียม ผ้าคลุมนี้ถูกสร้างขึ้นจากขนของราคริสะแห่งตํานาน มันสามารถส่งผลให้เกิดการเพิ่มพูนพลังจิตและพลังกายได้

 

ทว่าผ้าคลุมนี้ได้ดูดซับพลังประหลาดจากลิซและเกิดขึ้น เป็นผลลัพธ์พิเศษที่สามารถฟื้นฟูพลังกาย คารัตที่ไม่สามารถได้รับ แก่นหินซึ่งมีพลังอํานาจในการดูดซับมานาอันไร้ขีดจํากัด แต่กลับได้รับความสามารถความเป็นอมตะจากผ้าคลุมนี้แทน

 

ในนิวเวิลด์ มีหินหายากมากมายที่ดูดซับพลังเวทจากพื้นที่โดยรอบ สิ่งเหล่านั้นคือแก่นหิน ตามธรรมชาติแล้วหินพวกนี้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานที่ซึ่งถูกฝังเอาไว้ และหินพวกนี้ต่างก็มีพลังอํานาจของศาลแห่งมานาโดยการดูดซับพลังมานาโดยรอบเข้ามา ยามที่พบเจอกับพลังอํานาจของเวทมนตร์คําสาป การตอบสนองของมันคือการระเบิดออก และแก่นหินก็ได้สูญเสียพลังและกลายเป็นหินธรรมดาไป

 

“ผ้าคลุมหายาก!”

 

ดวงตาของอาร์คลุกโชน แต่เมื่ออ่านหน้าต่างข้อมูล ไอเทมนี้ก็ไม่ได้ดีเยี่ยมอะไรสักเท่าไหร่ แม้จะช่วยเสริมพลังมานา 200 หน่วย และพลังชีวิต แต่ออพชั่นพิเศษออกจะเล็กน้อยเกินไปสําหรับไอเทมหายาก ใช้พลังมานา 2,000 หน่วยเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิต 1,000 หน่วย? มันจะดีก็ต่อเมื่อคารัตใช้งานเพราะสามารถเรียกใช้พลังมานา เท่าไหร่ก็ได้ แต่ตอนนี้ล่ะใครจะสนใจใช้งานมัน?

 

“แก่นหินนี่ก็น่าเสียดาย”

 

อาร์คมองด้วยความเสียดายไปยัง ‘แก่นหินที่สูญเสียพลัง’ มันคือแก่นหินที่มีความสามารถในการดูดซับพลังมานาในฐานะศาลแห่งมานา เพราะแก่นหินนี้ คารัตจึงสามารถมีพลังมานาไร้ขีดจํากัด ให้ใช้งานความสามารถนี้ใช้ได้กับมอนสเตอร์ แต่ก็ยังไม่มีอะไร ยืนยันได้ว่าจะใช้กับผู้เล่นได้เช่นเดียวกัน ขณะที่คารัตเคยใช้งานผ้าคลุมนี้ มันสามารถได้รับพลังอํานาจการฟื้นฟูอย่างมหาศาล แต่หลังไอเทมนี้ดร็อปออกมามันก็ถูกลดทอนความสามารถลง แต่กระทั่ง ว่าประสิทธิภาพไม่ลดน้อยลง แต่ความสามารถในการดูดซับพลังมานาก็ยังถือว่าหาได้ยากยิ่ง ขณะที่นิวเวิลด์มีโพชั่นเอาไว้ฟื้นฟูพลังมานาก็ใช่ แต่โพชั่นเหล่านั้นจะแพงยิ่งกว่าโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตหลายสิบเท่าอีกทางหนึ่ง จํานวนพลังมานาที่ทักษะเรียกใช้งานยิ่ง นานไปยิ่งเพิ่มขึ้นจากทักษะใหม่ที่ได้รับเมื่อเลเวลเพิ่มขึ้น ทําให้เหตุการณ์ขาดแคลนพลังมานาเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ไม่ว่าผู้เล่นใดต่างก็ต้องน้ําลายไหลหากพบเจอแก่นหินที่สามารถมอบพลังมานาให้ได้

 

“ถ้าหากพลังมานาของเราสามารถเติมเต็มใหม่ได้อย่างรวดเร็ว บางทีเราอาจใช้ความสามารถแท้จริงของผ้าคลุมนี้ได้…”

 

แต่นั่นนับเป็นเรื่องน่าเสียดาย

 

“นักเวทที่ดูดซับพลังจากศาลแห่งมานาจะสามารถสร้างแก่นหิน ขึ้นมาเองได้ ระทั่งว่าผลพิเศษของศาลแห่งมานาในเหมืองได้หยุดลง พลังก็ยังคงอยู่ หรือก็คือหากฝังแก่นหินเอาไว้อีกครั้ง ก็หมายความว่ามันสามารถดูดซึมพลังของศาลแห่งมานาอีกครั้งได้?”

 

แต่ตอนที่เขาทํางานเป็นทาสแวมไพร์ เขาก็พบว่ามันต้องใช้เวลาหลายร้อยปีกว่าแก่นหินจะดูดซับพลังเวทโดยรอบมาได้กระทั่งว่าฝังเอาไว้อีกครั้ง กว่ามันจะกลายเป็นแก่นหินก็ต้องอีกหลายร้อยปีหลังจากนี้ ไม่มีใครคิดฝังมันเอาไว้แน่ นอกเสียจากว่าจะสามารถรอดชีวิตจากกาลเวลาหลายร้อยปีจนมันเป็นแก่นหิน

 

“ช่วยไม่ได้นะ”

 

อาร์คหันร่างกลับอย่างเสียอกเสียใจ จากนั้น คล้ายอะไรบางสิ่งมันกระตุ้นให้เขานึกขึ้นมาได้

 

“หลายร้อยปีอย่างนั้นเหรอ?”

 

เวลา…อาร์คมีไอเทมที่เกี่ยวข้องกับกาลเวลา หลังจัดการคาร์ม่าได้ อาร์คก็ได้รับสิ่งประดิษฐ์ลึกลับอย่างนาฬิกาทรายปีศาจ มันสามารถทําให้เขาควบคุมกาลเวลาได้ มันจะทําให้เขาสามารถเปลี่ยนไอเทมไร้ค่าให้กลายเป็นไอเทมเดิมอย่างที่มันเคยเป็นได้ แต่จํานวน สําหรับการใช้งานมีจํากัด เพราะงั้นมันจึงเป็นสิ่งของล้ําค่าที่หากคิดใช้ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน

 

“แทนที่จะฝังแก่นหินนี่เอาไว้ สู้ใช้เร่งเวลาไม่ดีกว่าหรือไง?”

 

แบบนั้นแล้วจะสามารถสร้างแก่นหินขึ้นมาใหม่ได้? จะอะไรก็ดี อาร์คเริ่มทําการขุดหลุมแล้วฝังแก่นหินเอาไว้ จากนั้น เขานําเอานาฬิกาทรายปีศาจออกมาชูเหนือหลุมที่เพิ่งกลบฝัง หน้าต่างข้อความก็ปรากฏ

 

ท่านได้ใช้นาฬิกาทรายปีศาจ

 

“เร่งเวลา!”

 

จากนั้น ทรายจากนาฬิกาทรายส่วนบนเริ่มไหลลงไปด้านล่างด้วยความเร็วสูงยิ่ง เมื่อทรายทั้งหมดร่วงหล่นลงมาแล้ว หน้าต่างข้อความอีกหนึ่งก็ปรากฏขึ้น

 

ผลกระทบพิเศษของดันเจี้ยนหายไป

 

“ผลกระทบพิเศษหายไปแล้ว!”

 

พื้นที่กลับมามีสภาพดังเดิมแล้ว แบบนั้นก็หมายความว่าแก่นหิน จะต้องกลับมามีอํานาจดูดซับเวทมนตร์อีกแน่ อาร์คนําเอาแก่นหินออกมาทั้งเผยสีหน้าที่แทบจะตื้นตัน

 

หินดูดซับมานา (แก่นหินระดับยูนีค)

 

แก่นหินนี้ได้ดูดซับพลังเวทมนตร์จากศาลแห่งมานาเป็นเวลาหลายร้อยปี แม้ว่าพลังที่ควบคุมสมดุลของพลังมานาจะทอดยาวออกไปหลายพันเมตร แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบออกไปสู่ภายนอก ในบางกรณีมันจะส่งผลต่อพื้นแผ่นดินจนทําให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกับผืนดิน แก่นหินนี้ได้ดูดซับพลังจากศาลแห่งมานาและได้รับความสามารถที่คล้ายคลึงกัน แน่นอนว่าแก่นหินนี้สามารถใช้งานในฐานะวัตถุดิบวิเศษระดับสูงหรือใช้เพื่อใส่ไอเทมที่มีช่องได้

 

เมื่อนําไปใส่ในช่อง (อาวุธพิเศษ) : เมื่อโจมตีศัตรู มีโอกาส 10% ที่จะดูดซับพลังมานาของศัตรู 1~5%

 

แก่นหินนี้มอบโอกาส 10% ที่จะทําให้เขาดูดซับพลังมานาได้ หากนําไปใส่ในช่องอาวุธ!

 

…ไม่ต่างอะไรกับถูกรางวัลใหญ่เลยทีเดียว…

 

Ark The Legend

Ark The Legend

Ark The Legend
Status: Ongoing
บทนำ คิมฮยอนอู เด็กหนุ่มที่ชีวิตเกิดความผลิกผันตั้งแต่ยังวัยรุ่น ชีวิตของเขาประสบความยากลำบากต้องหาเงินเพื่อจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลสุดแพงของแม่ ขณะที่เขากำลังกัดฟันสู้ชีวิตอยู่ เขาได้รับข้อเสนองานหนึ่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่แล้วเมื่อไปสัมภาษณ์ เขากลับพบว่ามันคือการทดสอบคัดเลือกพนักงานโดยการเล่นเกม แม้จะแปลกไปบ้างแต่เงินก็ดีไม่น้อยเขาจึงตกลงรับมา เมื่อเข้าเกม อาร์คคือตัวละครที่เขาเลือกสร้าง แรกเริ่มผจญภัยก็ต้องประสบพบเจอความยากลำบากไม่น้อย ผู้เล่นอื่นก็แทบไม่อาจเชื่อใจได้ เขาต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง ยิ่งเล่นเกมไปเขาจึงได้พบว่า เกมแห่งนี้หาได้มีอะไรที่เหมือนเกมไม่ ทั้งเอ็นพีซีในเกมที่แทบจะเหมือนมนุษย์จริง ภารกิจที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตามอีกทั้งยังยากลำบาก รวมถึงเนื้อเรื่องหลักภายในเกมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งเกมก็คล้ายมีความลับอยู่ไม่น้อย และด้วยความที่แทบไม่เชื่อใจผู้อื่นในเกม เขาต้องพยายามฟันฝ่ามันให้ได้ด้วยสองมือของตัวเอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset