ตอนที่ 470 : ไม่เห็นเหมือนที่พูดไว้
“หึหึหึ เท่านี้งานในซิเอลของเราก็เรียบร้อยแล้ว”
ตอนนี้อาร์คกําลังเดินผ่านศูนย์กลางของซิเอลไปทั้งยังหัวเราะขณะที่ช่วยรอนนี้เพราะเหตุผลอื่น เขาก็ได้รับผลตอบแทนที่น่ายินดีไม่น้อยจากเหตุการณ์เช่นกัน
นอกจากเงิน 2,000 เหรียญทองที่ได้รับจากอากาเต้แล้ว ภารกิจซ้ําซากทั้งสองวันที่ผ่านมาให้ค่าชื่อเสียงกับเขา 300 หน่วย แต่การช่วยเหลือคนในสลัมเพียงแค่หนึ่งวันกลับให้ค่าชื่อเสียงแก่เขาถึง 2,100 หน่วย!นอกจากนี้เขายังทําภารกิจซ้ําซากเพื่อหาข้อมูลจนได้ ค่าชื่อเสียงมาอีก 40 หน่วยและยังไม่จบเพียงเท่านี้ เรื่องราวไม่ คาดคิดอย่างการเยียวยาปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นหลังเรื่องราวคลี่คลายทําให้เขาได้รับค่าชื่อเสียงมาอีก 400 หน่วย นั่นเท่ากับว่าทั้งสิ้นแล้วภายในหนึ่งวันที่สลัมเขาได้รับค่าชื่อเสียงมา 2,540 หน่วย!
เพราะเหตุนั้น ค่าชื่อเสียงของอาร์คตอนนี้จึงมี 8,565 หน่วย!กระทั่งว่านําไปใช้เรียนเคล็ดวิชาลับที่ราคา 7,000 หน่วยแล้วก็ยังเหลือให้เขามีติดตัวอีก 1,565 หน่วย! ทั้งการเยียวยาปาฏิหาริย์ยังช่วยเพิ่มทุกค่าสถานะอีก 4 หน่วย เขาถึงกับได้รับรางวัลชิ้นใหญ่ขนาดนี้กับเมืองเลเวลต่ําเมืองหนึ่ง! เมื่อได้รับฉายาจากการเยียวยาปาฏิหา ริย์ เขามักจะได้รับค่าสถานะโดยรวมเพิ่มขึ้น 2-5 หน่วย ครั้งนี้รวมโบนัสเข้าไปด้วยก็เท่ากับ 4 หน่วย นี่หมายความว่าฉายา “ผู้เยียวยาแห่งมวลชน”คือสิ่งยากได้รับมา
“อะไรก็ดี เราใช้เวลาสามวันที่ซิเอล เม็ดยาอมตะที่ฝากไว้กับสมาคมเวทมนตร์น่าจะเหลือเวลาอีกประมาณเจ็ดชั่วโมง ช่วงนี้ก็ไป เรียนเคล็ดวิชาลับทดสอบทักษะนั่นแล้วค่อยกลับไปเอาเม็ดยากลับคืนมาไปเรียนทักษะก่อนเลย!”
อาร์คมุ่งหน้าไปยังโรงฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยความหวังเปี่ยมล้น
“หือ? นี่มันอะไรกัน?”
อาร์คเดินผ่านถนนของซิเอลไปทั้งสีหน้าลําบากใจ บรรยากาศภายในซิเอลตอนนี้ค่อนข้างแตกต่างจากตอนที่เขาตัดการเชื่อมต่อไปเมื่อรุ่งเช้าหากไม่ได้คิดไปเองชาวเมืองกําลังมองมาทางเขาพร้ อมกระซิบกระซาบ แม้เขาจะรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้ไปบ้าง แต่ เขาก็เพียงทําเป็นไม่สนใจขณะมุ่งหน้าไปที่โรงฝึกเมื่ออาร์คเข้าไปแล้วฮอบบิทเจ้าของโรงฝึกก็เร่งวิ่งเข้ามาหาโดยทันที
“โอ้ เจ้ามาแล้ว ข้ากําลังรออยู่เลยตั้งแต่ได้ยินข่าว”
“ข่าวเหรอครับ?”
“เจ้าไม่ทราบหรือ? เจ้าเป็นคนดังในซิเอลแล้วนะ ไม่ใช่ว่าเจ้าหรือที่ช่วยประชากรยากได้ของสลัม? แม้ทุกอย่างจะถูกเก็บงําเอาไว้แต่ผู้คนต่างก็ทราบดีว่าอาการปวยนั้นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงงานเซรันแน่และเจ้าก็เป็นคนที่เข้าช่วยแก้ไขปัญหานี้”
ฮอบบิทพลันเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้นพร้อมกระซิบเสียงเบา
“ขอพูดกันตามตรง อากาเต้ที่เป็นเจ้าของโรงงานเซรันเป็นบุคคลที่กร่างเป็นอย่างยิ่ง มักอวดร่ํารวยและมองเหยียดผู้อื่น ไม่มีใครชอบหน้าเขาสักเท่าไหร่เพราะแบบนั้นข่าวที่เจ้าลงทัณฑ์อากาเต้ไปจึงกระจายอย่างรวดเร็ว”
“อ้อ งั้นที่ชาวเมือง…”
อาร์คเพิ่งทราบว่าเพราะอะไรชาวเมืองซิเอลถึงมองเขาแบบนั้นขณะที่อาร์คตัดการเชื่อมต่อไปสี่ชั่วโมง สําหรับเอ็นพีซีคือสิบสองชั่วโมงซิเอลอยู่ไม่ไกลจากสลัมสักเท่าไหร่อยู่แล้ว เพราะแบบนั้นข่าวลือจึงแพร่กระจายออกไปจนถึงหูฮอบบิทเจ้าของโรงฝึกที่ยืนตรงหน้านี้
“ดวงตาของข้าไม่เคยมองคนผิดเลย เจ้าเป็นคนดีที่ไม่ยินยอมกับความอยุติธรรมดังนั้นแล้วต้องเป็นเจ้าที่มีคุณสมบัติเรียนเคล็ดวิ ชาลับของท่านผู้ก่อตั้งในที่สุดเคล็ดวิชาลับของท่านผู้ก่อตั้งจะได้รับการสืบทอดเสียที่”
ฮอบบิทตรงหน้ากล่าวอย่างภูมิอกภูมิใจที่ได้อาร์คเป็นผู้สืบทอดเพราะได้รับคําชมอย่างไม่ทันตั้งตัวอย่างไม่ขาดสายทําเอาเขาต้องเขินไม่น้อยแม้ว่าอีกฝ่ายจะเริ่มพูดเรื่อง “ตํานาน” อาร์คแสร้งไม่ได้ยินขณะจดจ่อแต่กับการเรียนเคล็ดวิชาลับ
“ในที่สุดก็จะได้เรียนมันเสียที”
อาร์คเข้าไปใกล้รูปปั้นด้วยสีหน้าที่ยินดียิ่งก็เหมือนก่อนหน้านี้รูปปั้นหมุนตัวพร้อมปรากฏคัมภีร์ หน้าต่างข้อความก็ปรากฏขึ้นทัน ที่ขณะที่หยิบคัมภีร์ขึ้นมา
เพราะ “การแสวงหาความจริง” ท่านได้รับโอกาสเรียนทักษะระดับตํานาน
ทักษะระดับตํานานต้องการใช้ชื่อเสียง 7,000 หน่วย
ท่านต้องการเรียนทักษะนี้หรือไม่
คําถามแบบนี้จําเป็นต้องถามด้วยหรือ? กว่าเขาจะหาทางเรียนทักษะนี้ได้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคขนาดไหนกัน?
เขากดยอมรับพร้อมเสียงแสดงความยินดีของระบบที่ดังขึ้นคัมภีร์คลายตัวออกเผยให้อาร์คเห็น พร้อมกันนั้น ร่างของฮอบบิทสามมิติก็ปรากฏขึ้นเหนือคัมภีร์ขณะนั่งขัดสมาธิ อีกฝ่ายพูดพึมพําอะไรสักอย่างแต่รวดเร็วมากประหนึ่งเทปที่เร่งความเร็ว ทั้งหมดนั้นถูกบันทึกลงในตําราทักษะแสวงโชค หลังจากพิธีการเสร็จสิ้น หน้า ต่างข้อมูลทักษะก็ปรากฏให้เห็น
ท่านได้เรียนรู้ทักษะใหม่เพราะการแสวงหาความจริง
แสวงโชค (พิเศษ, เรียกใช้งาน) : นานมาแล้วปรมาจารย์ฮอบบิทที่รู้จักกันในฐานะนักกังฟูที่มีชื่อเสียงได้ใช้สิ่งนี้เพื่อทําการฝึกฝนเทคนิคเทคนิคนี้จะเป็นการนําพลังชีวิตของผู้ใช้มาแปรเปลี่ยนเป็นการระเบิดพลังออกมาครั้งใหญ่ ผลลัพธ์ของมันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทั้งสามที่ถูกกําหนดโดยความสามารถพิเศษต่าง ๆ นี่คือทักษะ ระดับตํานานที่พึ่งพาโชคเป็นหลักในช่วงเวลาวิกฤตฮอบบิทผู้ก่อตั้งได้รับผลเสียจากมันจนเสียชีวิตไป
ด้วยเหตุนั้นฮอบบิทผู้ก่อตั้งจึงทําการถ่ายทอดเคล็ดวิชานี้เพื่อชนรุ่นหลังที่จําเป็นต้องใช้
แม้ไม่สวมใส่อาวุธก็สามารถใช้งานได้
“เดี๋ยวนะ? นี่มันอะไรกันเนี่ย?”
ใบหน้าของอาร์คต้องบิดเบี้ยวไปหลังได้อ่านเนื้อหาในหน้าต่างข้อมูลอาร์คเชื่อมั่นว่าทักษะนี้จะต้องมีพลังทําลายล้างเกินจะกล่าวหลังได้ยินเรื่องเล่าฮอบบิทในตํานาน แต่เขาไม่เห็นจะเคยได้ยินเลย ว่าทักษะมันเป็นแบบนี้ ไม่เท่านั้นพลังโจมตีและความเสียหายของ ทักษะนี้ยังต้องพึ่งพาโชค? นอกจากนี้แล้วผู้ก่อตั้งที่ใช้วิชานี้ยังตายไปเพราะทักษะนี้? นี่ไม่ใช่เคล็ดวิชาลับเสี่ยงตายหรือยังไง? ไม่สิหากอ่านรายละเอียดให้ดีแล้วนี่มันแทบไม่ใช่วิชากังฟูเลยด้วยซ้ําอาร์คคิดว่ามันคือเคล็ดวิชาศิลปะการต่อสู้เพราะตอนพูดคุยกันครั้งก่อนหน้าได้ยินคําว่ากังฟูแต่คล้ายเรื่องราวไม่เป็นอย่างที่เขาคาดเดาเมื่อตอนนั้น
“นี่เราพยายามแทบตายเพื่อหาค่าชื่อเสียงมาเรียนทักษะแบบนี้เนี่ยนะ?
อาร์คพลันหันหน้าที่ซีดขาวกลับไปถามไถ่อย่างโกรธเคือง
“ไหนว่าเขาคือบุคคลในตํานานที่ใช้วิชากังฟูยังไงล่ะครับ?”
“บุคคลในตํานาน? เจ้าหมายถึงอะไรกัน?”
ฮอบบิทพลันเอียงศีรษะไปข้างหนึ่งและเอ่ยถามด้วยความงุนงง
“ก็คุณพูดนี่ครับ ไม่ใช่ว่าผู้ก่อตั้งโรงฝึกแห่งนี้เป็นปรมาจารย์กังฟูในตํานาน?แล้วเขาก็พ่ายแพ้ปีศาจร้ายไปไม่ใช่เหรอ?”
“นี่เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน? ข้าไม่เคยพูดเช่นนั้น ข้าบอกว่าผู้ก่อตั้งมีชื่อเสียงมากเพราะโชคที่ดียิ่งจึงทําให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีเรื่อยมา แต่แล้วพอเขาโชคร้ายก็เหมือนปีศาจกลั่นแกล้ง”
“ว่ายังไงนะครับ? ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่…”
อาร์คร้องตะโกนก่อนจะสะดุ้งแล้วเงียบปาก อาร์คทราบแล้วว่าตนผิดพลาดที่ตรงไหน แม้ว่าตอนนี้อาร์คจะเข้าใจภาษาบริสทา เนียเป็นอย่างดีแล้วแต่ตอนที่เขาเพิ่งพบเจอฮอบบิทเจ้าของโรงฝึก เป็นครั้งแรกเขาเข้าใจเพียงแค่บางคําเพราะแบบนั้นเขาอาจพลาดเนื้อหาหลักแล้วปะติดปะต่อเรื่องราวเองคิดเอาเองจนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
สวรรค์….”
ถูกต้อง เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะการสื่อสารผิดพลาดนับว่าย่ําแย่หากตอนนั้นเขายอมจ่ายเงินไปแต่แรกคงไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหากเขายอมที่จะเลือกซื้อพจนานุกรมที่ทําให้เข้าใจภาษาบริสทาเนีย 100% เรื่องราวแบบนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เขากลับเชื่อความเข้าใจเป็นตุเป็นตะของตัวเอง พยายามปั่นค่าชื่อ เสียงในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ท้ายที่สุดต้องมาตายที่เคล็ดวิชาลับ
“ค่าชื่อเสียง 7,000 หน่วยของเรา!”
แต่ไม่ช้าอาร์คก็สั่นศีรษะ
ไม่ได้ ยังเร็วเกินไปที่จะผิดหวัง เราจะตัดสินทักษะจากแค่ที่เห็นผ่านหน้าต่างข้อมูลไม่ได้ มันต้องใช้ค่าชื่อเสียงตั้ง 7,000 หน่วยเพื่อเรียนเลยนะทักษะนี้มันต้องมีประโยชน์เกินใครคาดคิดแน่”
อาร์คเมื่อคิดได้ดังนั้นจึงออกจากเมืองไป
เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนเป็นปา พวกโคบอลท์ก็โผล่เข้าสู่สายตาของเขาทันที พวกมันเลเวล 200 นับว่าเป็นเหยื่อที่ดีสําหรับทดสอบทักษะแสวงโชค
“ดีล่ะ เริ่มเลยแล้วกัน แสวงโชค!”
อาร์ควิ่งพุ่งเข้าหาโคบอลท์และใช้ทักษะโดยทันที ฉับพลันแสงสว่างวูบวาบพลันปรากฏพร้อมอะไรที่เหมือนกับเครื่องสล็อตแมชชีนไอคอนหลายอย่างเริ่มหมุนผ่านช่องทั้งสาม จากนั้นพวกมันเริ่มช้าลงทีละน้อยแล้วจึงหยุดลงเสียงประกอบเครื่องคล้ายดังขึ้นพร้อมหน้าต่างข้อมูลที่ปรากฏ
พลังแห่งทักษะแสวงโชคถูกใช้งาน
ผลลัพธ์ : โคุณสมบัติ] [แนวโน้ม] [สภาพแวดล้อม]
วิธีการโจมตีที่ถูกเลือกคือ “ค้อนของเล่น
ค้อนของเล่น? อะไรกันละเนี่ย?”
อาร์คมองหน้าต่างข้อมูลอย่างสับสน มันทําอะไรได้? ตัดสินจากชื่อมันไม่น่าจะใช่อะไรที่พึ่งพาได้เลยสักนิดแต่นี่ยังเร็วเกินไปที่จะกังวลเป็นเพราะอีกเดี๋ยวเขาก็ทราบแล้วว่ามันทําอะไรได้ทักษะเริ่มทํางานพร้อมดาบแห่งกิลซาลแปรเปลี่ยนกลายเป็นค่อนขนาดใหญ่
“เหวอ นะ นี่มัน!”
และไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ของมันเท่านั้นที่เปลี่ยนไป
ดึง ดึง ดึง ดึง!
เมื่อค้อนของเล่นโจมตีใส่โคบอลท์ มันจะส่งเสียงประหลาดออกมาทั้งยังสร้างความเสียหายได้แค่ 1 หน่วย
“อะไรเนี่ย ทักษะบ้าบออะไรกัน… ใครมันจะบ้าใช้ทักษะแบบ
นี้?”
อาร์คเริ่มมองค้อนโง่ ๆ ตรงหน้าแล้วพึมพําทั้งยังบ่นค้อนของเล่นนี่มันจะใช้รับมือกับมอนสเตอร์ดีกว่าการใช้ดาบหรือกระบองได้ยังไง? นับว่าโชคดีที่มอนสเตอร์ตรงหน้าเป็นโคบอลท์เลเวล 200หากดาบของเขาต้องเปลี่ยนเป็นคอนโง่เง่านี่ต่อหน้ามอนสเตอร์เลเวลสูงแบบนั้นเขาได้ถึงคราวตายแน่
“ไม่ได้ เรายังไม่รู้จักพลังทั้งหมดของทักษะแสวงโชค มันต้องมีความสามารถอื่นที่พิเศษอีกแน่ ใช่แล้ว หากมันขึ้นอยู่กับโชค มันก็ต้องมีทั้งดีและแย่บางที่ค้อนของเล่นนี่อาจเป็นกรณีที่แย่
เขาเลือกจะเชื่อเช่นนั้น ทว่าอาร์คก็ต้องเผยสีหน้าไร้ความหวังเมื่อใช้ทักษะแสวงโชคครั้งถัดไป เมื่อคอนของเล่นหายไป เขาใช้งานมันอีกครั้งและได้ผลลัพธ์ที่ชื่อ “อวดดี” อาร์คคิดว่า “อวดดี” นี้เป็นอะไรที่น่าจะเหมาะสมกับการใช้งานเมื่อได้เห็นผลลัพธ์ที่มันสามารถทําได้
วูบวาบ วูบ วาบ!
ทุกครั้งที่เขาเหวี่ยงดาบออกไป แสงสว่างขนาดใหญ่จะปรากฏพร้อมเสียงทิ้งไปมา หากเขาคาดเดาไม่ผิด ครั้งนี้แหละของจริง!
โห ดูเหมือนพลังโจมตีของมันจะสูงมาก! เหมือนที่คิดไว้ทักษะแสวงโชคนี้เป็นของดีจริง! แค่ที่เห็นพลังโจมตีของมันก็น่าจะมหาศาล!
ทุกครั้งที่เหวี่ยงดาบออกไป แสงจะเกิดเป็นภาพติดตาพร้อมเสียงประกอบ! อาร์คมองดาบเล่มนี้อย่างภูมิอกภูมิใจ ทว่าอาร์คที่พบเห็นโคบอลท์และลองพยายามจะฟาดฟันพวกมันดู แม้จะมีเสียงและแสงอันตื่นตาตื่นใจ แต่โคบอลท์กลับได้รับความเสียหายเพียง แค่ 1 หน่วยถูกต้องแล้ว ก็เหมือนชื่อของมัน มันทําได้เพียงแค่ข่ม ให้ศัตรูเกรงกลัวเท่านั้นเองมันแทบไม่ต่างอะไรกันเลยไม่ว่าจะค้อน ของเล่นหรืออวดดี พวกมันเพียงแค่ทําให้ตื่นตาตื่นใจไม่สา มารถใช้ประโยชน์ในการต่อสู้!แน่นอนว่าหากเอาไปเล่นสนุกก็คง พอไหว!
ผ่านไปสามนาที่ “หมัดก็อบลิน” มันจะช่วยให้เขาได้รับโอกาส 50% ที่จะผลักหรือทําให้เกิดอาการมึนงงได้ และยังมี “โจรย่องเบา” ที่จะทําให้มอนสเตอร์ดร็อปของออกมาเป็น 1 เหรียญทองแดงและยังมีอื่น ๆ คล้ายกันนี้อีกหลายอย่าง มันเหมือนกับการเล่ นสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างไรอย่างนั้นไม่มีอะไรที่สามารถพูดได้เลยว่าที่ออกมามันจะดี โอกาสที่จะเจอของดีจริงอาจมีแค่ 10% เท่านั้นเองในกรณีของหมัดก็อบลินมันจะช่วยให้มอนสเตอร์ที่โดนโจมตีถอยกลับไปหนึ่งหรือสองเมตรอาการมึนงงก็อยู่ได้แค่หนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วทักษะย่องเบามันทําให้มอน สเตอร์ดร็อปเงินได้ก็จริง แต่นั่นหมายความว่าต่อให้เขาสังหารมอนสเตอร์ไปหนึ่งร้อยตัวก็เท่ากับได้มาแค่ 1 เหรียญเงิน? มันเหมือนจะดีแต่ก็ไม่ ทักษะแสวงโชคเป็นอะไรที่ต้องใช้พลังชีวิตแทนพลังมานาทุกครั้งที่ใช้งานต้องจ่ายพลังชีวิต 500 หน่วย! หากเขาใช้มันสามหรื อสี่ครั้งก็เท่ากับต้องเสียพลังชีวิตไป 1,500-2,000 หน่วย!หลังทําการทดสอบหลายครั้ง พลังชีวิตของเขาก็เหลือแค่ 1,000 หน่วยและทั้งหมดที่เขาทําได้ก็ไม่ต่างอะไรกับเล่นละครสัตว์ต่อหน้าพวกโคบอลท์หากเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นต่อหน้ามอนสเตอร์เลเวลสูงเขาจะมีสภาพเช่นไร?
“สวรรค์! นี่มันทักษะปาที่!”
นั่นคือข้อสรุปที่อาร์คได้จากการทดลองทักษะแสวงโชคด้วยตัวเองก็เหมือนกับอาชีพ ทักษะแบ่งออกเป็นสองสาย หนึ่งคือทักษะประเภทใช้ในการต่อสู้หรือสายจัดทําผลิตภัณฑ์ อีกหนึ่งคือทักษะหายากที่เอาไว้เพื่อเล่นสนุกเท่านั้น และทักษะแสวงโชคก็เป็นอย่างที่สองความจริงแล้วทักษะแสวงโชคเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าสนใจ ไม่น้อย แต่ก็เท่านั้น มันไม่ได้ช่วยเรื่องการต่อสู้เลยสักนิดแน่นอนว่ามันมีทักษะที่พอจะมีประโยชน์อย่างหมัดก็อบลินทว่าทักษะนั้นต้องใช้พลังชีวิตสุมออกมา
“เราใช้ค่าชื่อเสียงไปกับอะไรเนี่ย…”
อาร์คแทบล้มลงกับพื้นด้วยความสิ้นหวัง ความโกรธเริ่มปะทุแต่อาร์คก็อดไม่ได้ที่จะต้องโทษตัวเอง เพราะอะไรกันทักษะแสวงโชคถึงน่าอนาถายิ่งนักหากนําไปเทียบกับทักษะกองทัพอัศวินวิญ
ญาณ ทั้งยังต้องการค่าชื่อเสียงมากกว่าถึง 1,000 หน่วย มันเป็นแค่ทักษะปาที่จริงหรือ? อาร์คนั้นยังไม่พบแต่มันอาจมีความลับซุกซ่อนอยู่ในทักษะนี้ก็เป็นได้! แต่อาร์คที่ลองแล้วลองเล่าก็ยังไม่ทราบจนแทบร้องไห้ออกมา
กลิ้ง กลิ้ง กลิ้ง
ขณะที่อาร์คจมดิ่งกับความคิด ฉับพลันเขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมันไม่ใช่เสียงในเกม แต่เป็นเสียงโทรศัพท์ในโลกความเป็นจ
“อะไรแต่เช้ากันเนี่ย?”
ใครกันถึงโทรเข้าบ้านเขาตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้?อาร์คที่อารมณ์ไม่ดีอยู่จึงตัดสินใจปล่อยเกมไว้แบบนั้นขณะออกมาเพื่อสงบสติอารมณ์
“สวัสดีครับ”
อาร์ครับสาย แต่แล้วอย่างกะทันหัน เสียงร้องปลายสายก็ดังเสียดแก้วหู
“ฮยอนอู เกิดเรื่องแล้ว”