เย่เฉินลดกระจกรถลง พูดยิ้มๆว่า “สวัสดีครับคุณน้าตู้ เดี๋ยวผมยังมีธุระ ไม่ลงรถแล้วนะครับ”
ตู้ไห่ชิงรีบพยักหน้าพูดว่า “คุณมีธุระก็รีบไปยุ่งเถอะ ชูหรันอยู่ที่ฉันคุณสบายใจได้เลย”
เย่เฉินพยักหน้า อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ ครั้งก่อนที่ตู้ไห่ชิงเจอกับเซียวชูหรันยังเรียกว่าประธานเซียวอยู่เลย ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นเรียกชูหรันเฉยๆแล้ว ดูแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้จะพัฒนาไปได้เร็วดีนี่
เย่เฉินไม่ได้สงสัยนิสัยตัวตนของตู้ไห่ชิง แต่เมื่อคิดถึงว่าเธอดูมีความจงใจตีสนิทกับเซียวชูหรัน ในใจก็ยังมีความกังวลอยู่บ้าง กังวลว่าตู้ไห่ชิงจะเผลอหลุดพูดอะไรออกไป
แต่ว่าตอนนี้เขาก็ไม่อยากจะไปเตือนตู้ไห่ชิงตรงๆ เชื่อว่าตู้ไห่ชิงทำอะไรก็ยังมีความพอดีอยู่
ดังนั้น เขาจึงบอกลาทั้งสองคน ขับรถมุ่งหน้าตรงสู่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงรอรับกู้ชิวอี๋ จากนั้นก็ไปสนามบินเพื่อรับกู้เย้นจงและหลินหว่านชิวสองสามีภรรยา
เมื่อเย่เฉินถึงโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงแล้ว ก็ตรงมาที่ห้องของกู้ชิวอี๋
เพิ่งถึงหน้าประตูห้องของกู้ชิวอี๋ ประตูห้องก็เปิดออกจากทางด้านใน
เฉินตัวตัวผู้จัดการของกู้ชิวอี๋ ตอนนีใส่ชุดทำงานที่มีสกรีนลายโลโก้ของบริษัท ลากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ เตรียมจะออกจากห้อง เสียงของกู้ชิวอี๋เองก็ดังมาจากด้านใน “ตัวตัว ถ้าเธอไปถึงที่ศูนย์แล้ว จะต้องเอาของที่รักของฉันวางไว้ในห้องแต่งตัวให้ดีนะ ถ้าไม่ได้การอนุญาตจากฉัน นอกจากเธอแล้วก็ห้ามใครเข้าไปทั้งนั้น และยิ่งห้ามแต่งต้องมัน เข้าใจมั้ย?”
เฉินตัวตัวพูดอย่างมีความเบื่อหน่ายเล็กน้อยว่า “โอ๊ย ฉันรู้แล้ว เธอบอกฉันมาทั้งเช้าแล้ว น่ารำคาญจริงๆ ถ้าเธอไม่ไว้ใจฉันขนาดนั้น งั้นเธอก็เอาไปเองเลยซิ”
กู้ชิวอี๋พูดว่า “ช่วงเช้านี้ฉันไม่มีเวลาไปศูนย์หรอกนะ!อีกเดี๋ยวพี่เย่เฉินก็จะมาหาฉันที่โรงแรม ถึงตอนนั้นพวกเราก็จะไปสนามบินเพื่อรับพ่อแม่ฉันด้วยกัน จากนั้นตอนเที่ยงก็จะไปร้านอาหารเพื่อจัดงานวันเกิดให้พี่เย่เฉิน เธอก็ดูแลให้ฉันดีๆ เดี๋ยวตอนเย็นฉันไปแล้วก็ไม่ต้องให้เธอมาดูแลให้แล้ว!”
เฉินตัวตัวบ่นอย่างไม่พอใจว่า “วันๆก็รู้แต่แค่พี่เย่เฉิน พี่เย่เฉินนั่นแหละ ฟังจนหูฉันจะขึ้นหนอนแล้ว ก็ไม่รู้ว่าพี่เย่เฉินของเธอนั่นมีดีอะไร ในวงการบันเทิงมีคนที่หล่อกว่าเขาตั้งเยอะแยะ”
กู้ชิวอี๋พูดว่า “ห้ามเธอว่าร้ายพี่เย่เฉินของฉันนะ ในใจของฉันเขาเป็นคนที่หล่อที่สุด”
เฉินตัวตัวส่ายหัวอย่างเอือมระอา ทั้งผลักกระเป๋าออกมาด้วย และทั้งหันหน้ากลับไปพูดด้วยว่า “ขี้เกียจฟังยัยบ้าผู้ชายอย่างเธอมาบ่นอุบอิบ ฉันต้องรีบไปศูนย์แล้ว ช่วงเช้ายังมีงานอีกเยอะที่ต้องไปทำการยืนยันที่ศูนย์อีก”
พูดจบเฉินตัวตัวเพิ่งออกจากห้องมา เมื่อหันหน้ากลับ ก็เผชิญหน้าเข้ากับเย่เฉิน
เจอเย่เฉินอย่งกะทันหัน เฉินตัวตัวถึงกับสะดุ้ง พูดถึงสิ่งไหนสิ่งนั้นก็มา ทำเอาในใจเธออดที่จะสำนึกผิดไม่ได้
อีกอย่าง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเผชิญหน้ากับเย่เฉินอย่างใกล้ชิด ใบหน้าตรงหน้าที่ทุกสัดส่วนแยกชัดเจน ใบหน้าหล่อเหลานี้ ทำเอาเธอรู้สึกใจเต้นแรง ใบหน้าแดงขึ้นมา
จู่ๆเธอก็รู้สึกว่า คำพูดเมื่อกี้ที่ตัวเองพูดออกไป มันผิดจริงๆ
ในใจอดไม่ได้ที่จะพึมพำว่า “ในวงการบันเทิงหานักแสดงชายคนที่หล่อกว่าเย่เฉินได้ยากจริงๆด้วย”
“อีกอย่าง แม้ว่าจะมีนักแสดงชายบางคนทีดูแล้วหล่อกว่าเย่เฉิน ส่วนมากก็เพราะเคยทำศัลยกรรมมา ไม่ธรรมชาติเลยสักนิด”
“วงการบันเทิงในตอนนี้ เพียงแค่ไปทางเส้นทางไอดอล ใครบ้างที่ไม่ทำศัลยกรรม? บางครั้งนักแสดงชายยังทำศัลยกรรมหนักกว่านักแสดงหญิงซะอีก อีกอย่างนักแสดงชายมากมายที่ทำศัลยกรรมมาแล้วดูดีมาก แต่ว่าแต่ละคนก็ดูสาวมาก มีถึงขั้นที่ดูสาวมากกว่าผู้หญิงซะอีก หนุ่มหล่อที่ดูหล่อแมนอย่างเย่เฉินนั้นเห็นได้ยากจริงๆจริงๆนั่นแหละ…”
Related