แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 29 ทักษะการแสดงของมู่เฉินฮ่าวน่าชื่นชมจริง ๆ

เมื่อได้ฟังการสนทนาระหว่างสองแม่ลูก เซี่ยฉิงกงก็มีความสุขขึ้นมาทันทีทักษะการแสดงของมู่เฉินฮ่าวนั้นยอดเยี่ยม เขามองเธอด้วยสายตาที่แสนอ่อนโยน อ่อนโยนเสียจนเซี่ยฉิงกงเกือบจะเชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด !

 

อย่างไรก็ตาม การเห็นสีหน้าซิงเหวินจิ้งที่แลดูซีดเซียวลง ก็ยิ่งทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกสดชื่นขึ้นไปอีก

 

ในเมื่อมู่เฉินฮ่าวอยากเล่นละครนัก งั้นเธอก็จะร่วมแสดงไปกับเขาด้วย !

 

เซี่ยฉิงกงวางมือขาวนุ่มของเธอไว้บนไหล่ของมู่เฉินฮ่าว จากนั้นก็ซุกศีรษะลงในอ้อมแขนของเขา เอ่ยกล่าวเบา ๆ ว่า

 

“ทำไมฉันถึงรู้สึกปวดหัวก็ไม่รู้สิ ?”

 

นัยน์ตาของชายหนุ่มส่องประกายแสงประหลาด รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา ผู้หญิงคนนี้ร่วมมือกับเขางั้นหรือ ?

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกว่าเอวของเธอโดนรัดแน่นขึ้น มือใหญ่ ๆ ของชายหนุ่มโอบรอบเอวคอด ๆ ของเธอ ฝ่ามือที่กดลงบนเอวของเธอนั้นร้อนเร่าและทรงพลัง พร้อมจะแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของเธอผ่านชั้นเสื้อผ้าบาง ๆ จนทำให้ฉิงกงรู้สึกคอแห้ง

 

“งั้น ผมพาคุณกลับไปพักผ่อนก่อนก็แล้วกัน” ชายหนุ่มจิกมุมปากยิ้ม

 

มู่เฉินฮ่าวอุ้มเธอขึ้นมาอีกครั้ง เขาเดินไปที่ซิงเหวินจิ้ง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า

 

“คุณแม่ นี่ก็สายมากแล้ว คุณแม่ควรกลับไปพักผ่อนก่อน คุณแม่เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกาคงเหนื่อยมาก คุณแม่ไปพบคุณพ่อหรือยัง ? “

 

ซิงเหวินจิ้งตะลึง

 

“ไม่กลับด้วยกันเหรอ ?”

 

“ผมกับฉิงกงกำลังจะออกเดทกัน ! เพราะอีกไม่นานเราก็จะต้องหมั้นกันแล้ว ดังนั้นเราควรต้องสร้างความสนิทสนมกันให้มากจริงไหม ?”

 

มู่เฉินฮ่าวก้มลงมองเซี่ยฉิงกงอย่างหลงใหล แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรัก ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เซี่ยฉิงกงชื่นชมทักษะการแสดงของมู่เฉินฮ่าวมากขึ้นไปอีก !

 

ต่อหน้าแม่ของเขา มู่เฉินฮ่าวแสดงได้ดีมาก ราวกับเป็นซุปเปอร์สตาร์ชั้นนำ

 

มีเพียงคำเดียวในใจของเซี่ยฉิงกงเวลานี้ คือ ‘เริ่ด’

 

แม้จะออกจากประตูโรงพยาบาลมาแล้ว มู่เฉินฮ่าวก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวเซี่ยฉิงกงลง ตลอดทางเซี่ยฉิงกงยังคงนอนซุกอยู่บนหน้าอกของชายหนุ่มอย่างว่าง่าย ปล่อยให้ลมหายใจแผ่วเบาของเธอลอยรดอยู่รอบลำคอของเขา กระทั่งทำให้เขารู้สึกจั๊กจี้

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงขยับตัวไปมา มู่เฉินฮ่าวก็อดไม่ได้ที่จะกระชับอ้อมแขนที่โอบรอบตัวเธอให้แน่นขึ้น เซี่ยฉิงกงรู้สึกได้ถึงท่อนแขนแข็งแกร่งบนเอวของเธอ ใบหูของเธอค่อย ๆ แดงขึ้นเล็กน้อย เธอนึกสาปแช่งในใจอย่างหมั่นไส้

 

“ไอ้ทุเรศนี่..กล้าแต๊ะอั๋งฉัน !”

 

แล้วเธอก็ตบไหล่มู่เฉินฮ่าว

 

“เอาล่ะ ไม่มีใครแล้ว เลิกเล่นละครเถอะ !”

 

มู่เฉินฮ่าวปล่อยมืออย่างรวดเร็ว

 

เซี่ยฉิงกงที่ไม่ทันระวังตัวก็ร่วงลงกับพื้นก้นจ้ำเบ้า

 

เจ็บจนจุก..

 

“โอ๊ย มู่เฉินฮ่าวคุณทำอะไรเนี่ย ?”

 

เซี่ยฉิงกงกุมบั้นท้ายที่ปวดร้าวของตน ขณะหันไปตะคอกถาม

 

ไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มกลับโบกมือปฏิเสธด้วยท่าทางไร้เดียงสา

 

“ก็คุณบอกให้ปล่อย”

 

ฉิงกงกัดฟันด้วยความโกรธจากก้นบึ้งของหัวใจ ผู้ชายตรงหน้าเธอคนนี้เฮงซวยจริง ๆ

 

เห็นได้ชัดว่ามู่เฉินฮ่าวรู้สึกขบขันกับท่าทางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของเธอ เขายื่นมือออกไปให้ฉิงกง แสดงทีท่าว่าจะช่วยดึงตัวเธอขึ้น

 

ฉิงกงตบมือของเขาออก

 

“ไปให้พ้นเลย”

 

“ทำไมถึงดื้ออย่างนี้นะ ?”

 

“ผู้หญิงอย่างฉัน ไม่ชอบกินอาหารที่มีคนป้อนให้* !” (แสลง : ไม่ชอบรับความช่วยเหลือจากคนอื่น)

 

หลังจากพูดจบ เซี่ยฉิงกงก็พยายามที่จะลุกขึ้นด้วยตัวเอง ทว่าก้นของเธอก็เจ็บมาก …

 

หลังจากพยายามอยู่สักพัก ที่สุดฉิงกงก็ลุกขึ้นจากพื้นได้ด้วยท่าทางทุลักทุเล

 

ฉิงกงเพิ่งตระหนักว่า ยามนี้เธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวยาวเพียงตัวเดียวเท่านั้น เธอไม่ควรเดินไปไหนมาไหนด้วยสภาพโป๊ ๆ แบบนี้

 

ยิ่งไปกว่านั้น เซี่ยฉิงกงก็ไม่รู้ว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ไหน หากเธอทำตัวดื้อดึง ตัวเธอนั่นแหละที่จะต้องอับอาย

 

***จบตอน ทักษะการแสดงของมู่เฉินฮ่าวน่าชื่นชมจริง ๆ***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset