แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 31 เรือนหอใหม่

มู่เฉินฮ่าวยกมือขึ้นกล่าวตอบตามความเป็นจริงว่า

 

“แหวนวงนี้เป็นอาวุธลับที่มีฟังก์ชันการใช้งานมากมาย มันทั้งสามารถบันทึกเสียงและภาพได้ นอกจากนั้นยังสามารถยิงได้ด้วย ที่คุณเห็นคือลูกเหล็กที่ถูกยิงออกมาจากด้านล่าง ซึ่งอันตรายพอ ๆ กับกระสุนปืนพก และมันยังฝังจอภาพขนาดเล็กมากไว้ในบาดแผลของเป้าหมายที่ผมต้องการจะติดตามคนนั้นด้วย”

 

เซี่ยฉิงกงตกตะลึง ทำไมแหวนวงเล็ก ๆ เช่นนี้ถึงมีฟังก์ชั่นการใช้งานมากมาย ? เหมือนอาวุธสายลับเลย

 

“ไฮเทคมาก ? คุณได้มันมาจากไหนนี่ ? ว่าแต่ทำไมฉันไม่เห็นว่ามันพิเศษตรงไหนเลยล่ะ ?”

 

เซี่ยฉิงกงปัดมือของมู่เฉินฮ่าวออก เธอเริ่มมองสำรวจแหวน หากแต่กลับไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ

 

“หากคุณสามารถเห็นความพิเศษของแหวนวงนี้ได้ แม่หมูก็คงจะปีนต้นไม้ได้แล้วแหละ”

 

“คุณ !”

 

เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออก เธอโกรธมู่เฉินฮ่าว โกรธมากจนสะบัดหน้าหนีไม่มอง และไม่สนใจเขาอีก

 

มู่เฉินฮ่าวเม้มริมฝีปาก เขากวาดเรียวตาคมเข้มของเขามองผู้หญิงตรงหน้าขึ้น ๆ ลง ๆ เสื้อเชิ้ตที่เธอสวมใส่นั้นค่อนข้างโปร่งบาง อีกทั้งกระดุมสองเม็ดบนหน้าอกของเธอก็ถูกปลดออก ทำให้เขาสามารถมองเห็นอะไรบางอย่างได้เลือนลาง จนรู้สึกถึงคลื่นที่ปั่นป่วนภายในร่างกาย

 

ไหนมีคนบอกว่าสาวหน้าอกใหญ่มักไร้สมองไม่ใช่รึ ? มู่เฉินฮ่าวดูเหมือนจะอยากล้มล้างทฤษฎีนี้ไปเลย

 

แหวนหัวมังกรนี้เป็นผลงานวิจัย และพัฒนาทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีล่าสุดของตระกูลเซี่ย นอกจากนี้ยังมีสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายแห่งที่ได้รับทุนและสนับสนุนจากตระกูลเซี่ย

 

ภายนอกของแหวนดูมิต่างจากแหวนธรรมดา ๆ วงอื่น ๆ

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกได้ถึงสายตาของมู่เฉินฮ่าว ที่มองลึกลงไปใต้ร่มผ้าของเธอ จากนั้นใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

 

“คุณดูอะไรน่ะ ? คนลามก !”

 

“ทำยังกับว่าผมไม่เคยเห็นมาก่อนงั้นแหละ”

 

สายตาของมู่เฉินฮ่าวกวาดมองหน้าอกของเซี่ยฉิงกงไม่ลดละ ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก

 

ในคืนแรกที่ทั้งคู่พบกัน ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก็เห็นเรือนร่างของเธอเกือบหมดแล้ว

 

“ถ้ายังขืนดูอีก ฉันควักลูกตาคุณออกมาแน่ !”

 

รถเมอร์ซิเดสเบนซ์ เอส 600 แล่นไปบนท้องถนนด้วยความเร็วคงที่ และถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว

 

หลังลงจากรถแล้ว เซี่ยฉิงกงก็กวาดตามองโดยรอบ บริเวณโดยรอบของสถานที่ที่เขาหยุดรถนั้นมีขนาดกว้างใหญ่กว่าบ้านตระกูลเซี่ยหลายเท่านัก

 

“นี่คือบ้านสกุลมู่เหรอ ?” เซี่ยฉิงกงถาม

 

มู่เฉินฮ่าวไม่ได้ตอบคำถามของเซี่ยฉิงกง เขาเดินตรงเข้าไป และนั่นทำให้ เซี่ยฉิงกงรู้สึกถึงท่าทางที่ภูมิฐานของเขา อาเจิ้งที่อยู่ข้าง ๆ เขาตอบแทนว่า

 

“นายหญิงน้อย นี่คือเรือนหอใหม่ที่นายน้อยมู่เตรียมให้คุณเพื่อเป็นของขวัญแต่งงาน”

 

“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก”

 

เซี่ยฉิงกงยิ้มพร้อมกับหันไปมองอาเจิ้งอย่างขอบคุณ

 

รู้สึกว่า..คนขับรถข้าง ๆ มู่เฉินฮ่าวจะนิสัยดีน่าคบกว่ามู่เฉินฮ่าวเสียอีก !

 

เซี่ยฉิงกงพบว่าคนของมู่เฉินฮ่าวนั้นดีแทบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นหมอซูหรืออาเจิ้ง

 

หลังจากที่มู่เฉินฮ่าวเข้าบ้านไปแล้ว เซี่ยฉิงกงก็เดินตามไป มีสาวใช้สวมชุดเครื่องแบบประมาณสี่หรือห้าคนอยู่ภายในบ้าน

 

“สวัสดีตอนบ่ายค่ะ นายน้อย นายหญิงน้อย”

 

เนื่องจากเป็นบ้านใหม่ สาวใช้จึงยังคงยุ่งวุ่นวายกับการทำความสะอาดบ้าน และเก็บล้างสิ่งของต่าง ๆ เมื่อเห็นว่านายทั้งสองกลับมาแล้ว พวกเธอก็รีบออกมากล่าวคำทักทาย

 

“หาชุดเสื้อผ้าธรรมดา ๆ ให้ฉันใส่หน่อยได้ไหม ?”

 

สิ่งแรกที่เซี่ยฉิงกงทำเมื่อก้าวผ่านประตูเข้าไป ก็คือคว้าตัวสาวใช้ที่อยู่ข้างประตู และขอให้หาเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เธอ เพราะตอนนี้เธอสวมชุดที่ดูเปิดเผยและแปลกเกินไป

 

เธอเองก็ไม่ใช่เด็ก ๆ เมื่อครู่ในรถ เธอหันไปเห็นสายตาของมู่เฉินฮ่าวที่จ้องมองมาเต็มไปด้วยความปรารถนา เซี่ยฉิงกงก็รู้สึกอายจนหูแดงเหมือนคนเป็นไข้ และเธอก็อึดอัดใจมาก

 

“ได้ค่ะ นายหญิงน้อย รอสักครู่”

 

สาวใช้พยักหน้า พร้อมกับมองเซี่ยฉิงกงด้วยแววตาอบอุ่น

 

***จบตอน เรือนหอใหม่***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset