แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 36 ข้อเรียกร้องของเซี่ยฉิงกง

ครั้นสัมผัสคำพูดกวนโมโหของมู่เฉินฮ่าวบ่อย ๆ เซี่ยฉิงกงก็ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับมันไปเสียแล้ว ทำให้เธอไม่สนใจคำพูดของเขา และเริ่มอ่านเอกสารในมือ

 

มู่เฉินฮ่าวพูดต่อ “ผมรู้ว่า คุณเป็นลูกสาวของตระกูลเซี่ย แต่คุณไม่มีความผูกพันใด ๆ กับตระกูลเซี่ยเลย”

 

“ใช่ แล้วไง ?”

 

“แล้วทำไมคุณถึงตกลงแต่งงานกับผมตามสัญญาแต่งงานล่ะ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวหันกลับมา นัยน์ตาแหลมคมของเขาดูเหมือนจะมองผ่านเซี่ยฉิงกงจนทะลุปรุโปร่ง

 

“ก็ครอบครัวของคุณร่ำรวยจะตาย ได้แต่งงานกับคุณก็ถือว่ามีแต่ได้กับได้ไง !” เซี่ยฉิงกงตอบ

 

คำตอบที่ได้นี้ มู่เฉินฮ่าวไม่มีวันเชื่อเป็นแน่

 

“คุณเซี่ยหากเราคิดจะร่วมมือกัน เราต้องจริงใจต่อกัน”

 

ครั้งหนึ่งเจินเมี่ยวหยูส่งคนไปฆ่าเซี่ยฉิงกง โดยสร้างสถานการณ์ให้เป็นอุบัติเหตุบนสะพาน ในช่วงสองวันที่ผ่านมาเครือข่ายข่าวกรองของบ้านสกุลมู่ได้ทำการตรวจสอบมาแล้วอย่างแน่ชัด

 

ดังนั้นมู่เฉินฮ่าวจึงรู้ว่า เซี่ยฉิงกงไม่ได้ถูกตระกูลเซี่ยส่งตัวมาใกล้ชิดเขา

 

เพียงแค่ เขารู้สึกชอบที่ได้เห็นเธอโกรธจนผมกระดิก ซึ่งนั่นทำให้เธอน่าสนใจเป็นพิเศษ

 

เซี่ยฉิงกงพูดอย่างเฉยเมย “ถ้าอย่างนั้น คุณบอกฉันสิว่า ทำไมคุณถึงต้องการแต่งงานกับฉัน ? คนอย่างคุณชายมู่ต้องการผู้หญิงแบบไหนก็ย่อมได้ แต่ทำไมต้องเป็นฉัน ?”

 

เรื่องวิกฤติธุรกิจของตระกูลเซี่ย บ้านสกุลมู่จะนั่งนิ่งดูดายเฉย ๆ ก็ย่อมได้ ว่าแต่ทำไมเขาถึงยอมแต่งงานกับคนตระกูลเซี่ยล่ะ ?

 

เซี่ยฉิงกงเคยชินกับสันดานทั้งดีทั้งร้ายของมนุษย์มาตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อเราตกที่นั่งลำบาก แค่ไม่แทงข้างหลังก็ถือว่าช่วยเหลือกันแล้ว

 

ไม่ต้องพูดถึงว่าจะยื่นมือออกมาช่วยเหลือโอบอุ้มกันขนาดนี้

 

“บอกคุณก็ได้ อย่างแรกคุณแม่ของคุณกับคุณพ่อของผมต่างเติบโตมาด้วยกัน พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอ คุณพ่อของผมจึงยืนยันที่จะทำตามสัญญาแต่งงานที่เขาทำไว้ตอนที่เขายังเด็ก เพราะนี่คือสัญญาที่ท่านทำไว้กับคุณแม่ของคุณ”

 

“ฉันไม่เชื่อว่า คุณจะเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังคุณพ่อของคุณ”

 

“อืม คุณเดาถูก”

 

“งั้น..ทำไม ?”

 

“ผมไม่จำเป็นต้องบอกคุณว่า..ทำไม เพราะคุณต่างหากที่เป็นฝ่ายขอร้องผม ข้อตกลงก็ระบุไว้อย่างชัดเจนมากแล้ว อ่านดูด้วยตัวคุณเอง ผมให้เวลาคุณหนึ่งวัน และจะมีผลทันทีหลังจากลงนาม”

 

“คุณ !” เซี่ยฉิงกงรู้สึกเจ็บหน้าอก

 

“ย้อนกลับไป ในตอนนั้นแม่ของคุณใจดีกับผมมาก ผมรู้สึกซาบซึ้งน้ำใจมาโดยตลอด  แล้วจู่ ๆ ตระกูลเซี่ยก็ประกาศว่าเธอเสียชีวิตด้วยอาการป่วยอย่างกะทันหัน ผมพบว่าเป็นเรื่องแปลกมาก ผมจึงพยายามตรวจสอบเรื่องนี้มาแล้วหลายปี ผมไม่เชื่อว่าคุณน้าเซวี่ยจะตายง่าย ๆ อย่างนั้น การแต่งงานกับคุณทำให้ผมได้เป็นลูกเขยของตระกูลเซี่ยนั่นจะทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบในขั้นต่อไป”

 

มู่เฉินฮ่าว กล่าวเบา ๆ

 

แต่เมื่อพูดถึงน่าหลานเซวี่ยหรือน้าเซวี่ยของเขา คิ้วที่ขมวดอย่างดื้อรั้นของมู่เฉินฮ่าวก็คลายออกเล็กน้อย

 

เซี่ยฉิงกงมองการแสดงออกของมู่เฉินฮ่าว เธอรู้ว่ามู่เฉินฮ่าวไม่ได้โกหก เพราะเธอเองก็ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการแสดงออกทางจุลภาค และจิตวิทยามาอย่างเชี่ยวชาญ

 

“พอดีเลย ฉันเองก็มีเป้าหมายเดียวกัน งั้นเรามาร่วมมือกัน แต่ว่า ฉันมีข้อเรียกร้องสองข้อ”

 

เซี่ยฉิงกงอ่านข้อตกลงต่อ ข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า มู่เฉินฮ่าวจะช่วยเซี่ยฉิงกงค้นหาความจริงเกี่ยวกับน่าหลานเซวี่ยมารดาผู้ให้กำเนิดเธอ และจะช่วยเซี่ยฉิงกงจัดการเจินเมี่ยวหยูด้วย หลังจากทุกอย่างชัดเจน เขาจะหย่าให้เธอ

 

แน่นอนว่าหลังจากการหย่าร้าง มู่เฉินฮ่าวจะมอบเงินจำนวน 10 ล้านหยวนให้กับเซี่ยฉิงกงซึ่งเพียงพอให้เธออยู่อย่างสุขสบายไปตลอดชีวิต

 

เซี่ยฉิงกงไม่อยากผูกมัดกับคนที่เธอไม่รักไปชั่วชีวิต เธอจึงยอมทำสัญญาแต่งงานชั่วคราวเพราะต้องการตรวจสอบบางสิ่ง นอกจากนี้เธอยังต้องการคิดบัญชีคนที่ทำลายชีวิตที่สงบสุขของเธอ และเธอต้องการให้คนที่คิดจะสังหารเธอชดใช้ให้เธอด้วย !

 

“ว่ามา..”

 

“ประการแรก..คุณไม่ได้รับอนุญาตให้แตะเนื้อต้องตัวฉัน ! หลังจากที่เราแต่งงานกันแล้ว ห้ามมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ประการที่สองฉันไม่ต้องการรับเงินสิบล้านหยวนของคุณ ฉันมีมือมีเท้า สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้”

 

***จบตอน ข้อเรียกร้องของเซี่ยฉิงกง***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset