แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 53 เจินเมี่ยวหยูงงไปเลย

ภายในห้องจัดเลี้ยงชั้นล่าง ใบหน้าของเจินเมี่ยวหยูที่เคยดูดีสง่างาม พลันเปลี่ยนไป สายตาที่เคยเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังกลับกลายเป็นความสับสนงุนงง

 

เซี่ยเจิ้งหัวที่มีสีหน้าสดใสยินดีในงานวันเกิดของเขา บัดนี้สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นดำมืดเหมือนมีเมฆปกคลุมในทันที

 

ในจอภาพลูกสาวคนรองของเขากำลังหอบกระเส่า ผมยาวของเธอสยายกระเซอะกระเซิง และมีผู้ชายหลายคนอยู่บนเตียงร่วมกับเธอ ช่วยพยุงตัวเธอไว้ให้นั่งคุกเข่าหันหน้าทางหัวเตียง โดยมีชายคนหนึ่งอยู่ด้านหน้า อีกคนอยู่ด้านหลัง

และยังมีชายอีกสองคนนัวเนียอยู่บนตัวเธอ

 

ในตอนแรก เซี่ยชิงฉวนยังมีสติอยู่บ้างเล็กน้อย เธอพยายามดิ้นรนแม้จะไร้เรี่ยวแรง ทว่าฤทธิ์ยาภายในร่างที่เริ่มแผ่ซ่านออกมาอย่างช้า ๆ ทำให้เธอไม่สามารถต้านทานไฟปรารถนาในใจได้อีกต่อไป และเริ่มปล่อยตัวปล่อยใจรองรับความต้องการของผู้ชายพวกนั้น

 

พลันรอยสีแดงบนผ้าปูที่นอนก็กระจ่างในสายตาของเจินเมี่ยวหยู

 

ขณะที่ภาพเร้าอารมณ์พวกนั้นก็ยิ่งดุเดือดขึ้น

 

ผู้คนทั่วบริเวณนั้นต่างอดไม่ได้ที่จะจ้องมองหน้าจอ พวกเขาต่างกระซิบกระซาบแก่กัน

 

หากไม่มีเรื่องใดน่าสนใจไปกว่านี้ เรื่องของคุณหนูรองตระกูลเซี่ยกับกลุ่มผู้ชายกำลังสนุกสนานเฮฮาในห้องนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องตลกสำหรับผู้คนในแวดวงนี้หลังมื้ออาหาร

 

“ปิด ! ปิดเร็ว !”

 

เจินเมี่ยวหยูกรีดร้องลนลาน เธอเรียกหาบริกร ทำไมลูกสาวของเธอถึงได้ตกอยู่ในสภาพกระเซอะกระเซิง และถูกผู้ชายพวกนี้ระบายความใคร่เอาได้ ? ลูกสาวของเธอถูกผู้ชายพวกนี้ย่ำยีไปทั่วทั้งร่างแบบนี้ได้ไง ? มันควรจะเป็นเซี่ยฉิงกงไม่ใช่หรือ ?

 

แม้ว่าลูกสาวของเธอจะไม่สามารถแต่งงานกับมู่เฉินฮ่าวได้ ทว่าอย่างน้อยในอนาคตก็น่าที่จะได้แต่งงานกับคนในตระกูลที่มีชื่อเสียง หากแต่การถูกถ่ายทอดสดต่อหน้าผู้คนจำนวนมากเช่นนี้ ลูกสาวของเธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร ?

 

ชั่วขณะนั้นเอง ภายในห้องรับรอง เซี่ยเจิ้งหัวผู้ซึ่งหน้าดำคร่ำเครียดก็ลุกขึ้นยืน เขาตะคอกใส่โจวหยุนเซินที่อยู่ข้าง ๆ เขาว่า

 

“คุณหนูรองอยู่ไหน คุณหนูรองอยู่ที่ไหน ? ไปเอาตัวมันมา !”

 

ครั้นรู้สึกถึงความโกรธของเจ้านาย โจวหยุนเซินก็ตัวสั่นสะท้าน

 

“ครับท่าน”

 

ไม่ว่าจะอย่างไร คืนนี้เซี่ยชิงฉวนก็ทำให้เซี่ยเจิ้งหัวเสียหน้าไปแล้ว

 

ณ  ห้อง 1701

 

“นายหญิงน้อยไม่รู้ใช่ไหมว่า หน้าจอ LED ที่ห้องรับรองชั้นล่างก็กำลังแพร่ภาพนี้เช่นกัน ?”

 

ใบหน้าเล็ก ๆ ของหมั่นโถวเต็มไปด้วยความตื่นเต้นนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นภาพฉากแบบนี้ เธอทั้งอยากรู้อยากเห็น แม้ว่าจะหน้าแดงไปด้วย

 

เซี่ยฉิงกงมองภาพบนจออยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะหลับตาลง และในที่สุดก็ปิดจอภาพ

 

ขนตางอนงามสั่นไหวเล็กน้อย เธอพูดเบา ๆ ว่า

 

“พอเถอะ พอได้แล้ว..”

 

เมื่อมองเห็นภาพฉากดังกล่าวเซี่ยฉิงกงก็แทบทนไม่ไหว  และถ้าขืนยังคงเป็นเช่นนี้น้องสาวของเธอก็อาจจะตายได้

 

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับลูกผู้หญิงก็คือชื่อเสียง เรื่องแบบนี้จะกลายเป็นเงาที่ติดตามหลอกหลอนเธอไปตลอดชีวิต แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ถ้ายังคงฉายภาพเหล่านี้ต่อไปก็จะยิ่งเสียหน้าอับอายทุกคน แล้วเธอจะพบปะดูหน้าคนอื่นได้อย่างไรในอนาคต ??

 

มู่เฉินฮ่าวยกมือขึ้นโอบไหล่เซี่ยฉิงกงพลางเลิกคิ้ว

 

“คุณรับไม่ได้งั้นหรือ ? นี่หากไม่ใช่เพราะอาเจิ้งรู้เรื่องเร็ว วันนี้คนที่นอนอยู่บนเตียงนั่น และคนที่ถูกถ่ายทอดสดก็คือคุณนะ นี่ขนาดคุณยังไม่ลงมือ แม่เลี้ยงคุณก็ไม่คิดจะปล่อยคุณแล้ว”

 

เธอรู้ เธอรู้ดีทั้งหมด

 

ตั้งแต่ตอนที่ เซี่ยชิงฉวนชนแก้วกับเธอ เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอเพิ่งกระจ่างแจ้งความจริงตอนนี้นี่เอง

 

“นายหญิงน้อย การเมตตาต่อศัตรูคือการทำร้ายตัวเอง ความทรมานที่เธอได้รับในวันนี้ ไม่ได้เกิดเพราะใครเป็นเพราะเธอทำตัวเธอเอง”

 

สีหน้าจริงจังยังคงปรากฏบนใบหน้าสวย ๆ ของหมั่นโถว

 

อย่างไรก็ตามเซี่ยฉิงกงยังคงเป็นเด็กสาวธรรมดา ๆ ที่เติบโตมาจากครอบครัวหัวโบราณ แม้ว่าเธอจะฉลาดและเจ้าแผนการ ทั้งเธอยังสาบานไว้ว่าจะให้คนพวกนั้นได้ชดใช้ในสิ่งที่พวกเขาทำ และแม้จะรู้ทั้งรู้ว่าแม่เลี้ยงของเธอเป็นคนส่งคนมาฆ่าเธอ ทว่าหัวใจของเธอก็ยังอ่อนไหว

 

***จบตอน เจินเมี่ยวหยูงงไปเลย***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset