แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 69 ของคู่หมั้นฉันก็ต้องเป็นของฉัน

หากเป็นไปได้ เซี่ยฉิงกงก็อยากแกล้งตายให้รู้แล้วรู้รอด เธอคิดจะนอนเอ้เตอยู่ในสวนที่สายลมพัดเอื่อย ๆ รอเวลาให้มู่เฉินฮ่าวกลับมา

 

ทว่าตอนนี้ ฉีเหยียนเอ๋อเข้ามาได้แล้ว

 

“เซี่ยฉิงกง ออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้นะ เธอถือดียังไงไม่ให้ฉันเข้าไป เธอคิดว่าเธอเป็นใคร หา ?”

 

ฉีเหยียนเอ๋อก้าวเท้าที่เหยียบบนรองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตร เอ่ยกล่าวด้วยเสียงแหลมปรี๊ดคมชัดจากถนนลูกรังที่ปูมายังประตู

 

คนยังมาไม่ถึง เสียงแหลม ๆ ดังมาก่อนแล้ว

 

ต่อหน้ามู่เฉินฮ่าว ฉีเหยียนเอ๋อมักจะเสแสร้ง แสดงท่าทางอ่อนโยนราวกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ขี้อาย

 

หากแต่เนื่องจากมู่เฉินฮ่าวไม่อยู่บ้าน คุณหนูใหญ่สกุลฉีจึงเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของตนออกมา

 

เซี่ยฉิงกงนอนหลับตาอยู่บนเก้าอี้เอน เธอขี้เกียจแม้แต่จะลืมตามองผู้มาเยือน

 

“คุณหนูฉี คุณรู้หรือไม่ว่าคุณกำลังบุกเข้ามาในบ้านส่วนตัวของคนอื่น ?”

 

ใบหน้าของฉีเหยียนเอ๋อมีร่องรอยดูถูก

 

“บุกเข้าบ้านส่วนตัวงั้นหรือ ? เซี่ยฉิงกงอย่ามาเสแสร้งว่าเป็นบ้านของเธอ ที่นี่เป็นของสกุลมู่ไม่ใช่สกุลเซี่ย”

 

“ของคู่หมั้นฉันก็ต้องเป็นของฉัน”

 

“เฮอะ..เซี่ยฉิงกง เธอนี่มันไร้ยางอายจริง ๆ คิดว่าพี่เฉินฮ่าวจะชอบเธองั้นหรือ ? ฝันไปเถอะเขาแค่ทำตามความต้องการของคุณลุงมู่ก็เท่านั้น !”

 

ฉีเหยียนเอ๋อกวาดตามองโดยรอบคฤหาสน์สกุลมู่แห่งนี้ !

 

คฤหาสน์แห่งนี้ใหญ่โตกว่าบ้านหลังใหญ่ของตระกูลมู่ ทั้งยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามกว่า อีกทั้งการออกแบบก็ยอดเยี่ยมมาก

 

ความอิจฉาเกิดขึ้นในใจของเธออีกครั้ง สถานที่เช่นนี้ควรจะให้เธอ และมู่เฉินฮ่าวอยู่ด้วยกันมากกว่า

 

ไม่ใช่นังตัวแสบที่อยู่ตรงหน้าฉันคนนี้ !

 

เซี่ยฉิงกงขี้เกียจเกินกว่าที่จะต่อล้อต่อเถียงกับผู้หญิงตรงหน้าให้เสียน้ำลาย และเสียอารมณ์ !

 

“งั้นว่ามาสิ ว่ามาทำอะไรที่บ้านของฉัน”

 

“ฉันมาที่นี่ เพื่อพบพี่เฉินฮ่าว”

 

“คนที่คุณต้องการพบไม่ได้อยู่ที่นี่ คุณควรกลับไปได้แล้ว อย่ารบกวนการนอนหลับของฉัน”

 

เซี่ยฉิงกงโบกมือไล่

 

“ฮึ่ม เธอบอกให้ฉันกลับ ฉันก็ต้องกลับงั้นรึ ? ไม่ว่าอย่างไรฉันก็จะรอพี่เฉินฮ่าวกลับมา !”

 

ฉีเหยียนเอ๋อระงับความโกรธในใจลง พลางมองกระติกในมือของเธอ

 

ภายในกระติกมีซุปบำรุงกำลังสำหรับมู่เฉินฮ่าว

 

“เอาล่ะ งั้นคุณก็ยืนรอเขาที่นี่ก็แล้วกัน หมั่นโถวเรากลับไปนอนที่ห้องกันเถอะ”

 

เซี่ยฉิงกงลุกขึ้น จากนั้นก็เดินเข้าบ้าน

 

ครั้นเห็นเซี่ยฉิงกงลับตา ฉีเหยียนเอ๋อก็เตรียมจะนั่งลงบนเก้าอี้เอน เพราะหลังจากยืนอยู่บนรองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตรเป็นเวลานาน ขาของฉีเหยียนเอ๋อก็ไม่สามารถทนไหว

 

หมั่นโถวรู้สึกว่าฉีเหยียนเอ๋อจะสบายเกินไปหน่อย ยิ่งคิดถึงท่าทางกระฟัดกระเฟียดของฉีเหยียนเอ๋อแล้ว หมั่นโถวก็ยิ่งรู้สึกหมั่นไส้ !

 

การเคลื่อนไหวของหมั่นโถวซึ่งเคยฝึกฝนในฐานะทหารหญิงหน่วยรบพิเศษเรียกได้ว่ารวดเร็วมาก ดังนั้นในขณะที่ฉีเหยียนเอ๋อกำลังจะนั่งลง หมั่นโถวก็ดึงเก้าอี้เอนออก

 

“แก ! แกกล้าเอาเก้าอี้ของฉันไปหรือ ?”

 

ฉีเหยียนเอ๋อโมโหจนหน้าดำหน้าแดง เธอยกนิ้วขึ้นชี้หมั่นโถวเอ่ยกล่าวเสียงสั่น

 

“เก้าอี้ตัวนี้เป็นของนายหญิงน้อยไม่ใช่ของคุณ คุณหนูฉีอย่าได้เข้าใจผิด”

 

หมั่นโถวมุ่ยหน้า เธอทำหน้าตาบูดบึ้งใส่ฉีเหยียนเอ๋อ ก่อนจะเดินตามเซี่ยฉิงกงไป

 

การกระทำเหล่านี้ทำให้ฉีเหยียนเอ๋อโกรธจนพูดไม่ออก เธอทำได้เพียงกระทืบเท้าเร่า ๆ อยู่ตรงจุดนั้น

 

แต่เมื่อฉีเหยียนเอ๋อคิดถึงสาเหตุที่เธอมาที่นี่ ก็ชัดเจนว่า .. ในวันนี้เธอไม่ได้มาที่นี่ เพื่อต่อล้อต่อเถียงกับเซี่ยฉิงกง !

 

ทว่าเธอมาที่นี่เพื่อสร้างความประทับใจให้มู่เฉินฮ่าวต่างหาก เธอจะต้องเขี่ยเซี่ยฉิงกงออกไปจากชีวิตของมู่เฉินฮ่าวให้ได้

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เมอร์ซิเดสเบนซ์ เอส600 ก็หยุดลงที่ประตูคฤหาสน์ตระกูลมู่ หลังจากที่อาเจิ้งจอดรถ เขาก็ลงมาจากรถ และเปิดประตูรถด้านหลังให้มู่เฉินฮ่าว

 

“นายน้อย คุณหนูฉีมาที่นี่ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน”

 

มู่เฉินฮ่าวขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

“เธอมาทำไม ?”

 

อาเจิ้งส่ายศีรษะ

 

“ไม่ทราบขอรับ”

 

***จบตอน ของคู่หมั้นฉันก็ต้องเป็นของฉัน***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset