แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 71 หมั่นโถวส่งแขก !

เซี่ยฉิงกงยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก

 

“เมื่อไหร่ที่คุณจะเลิกทำตัวแบบนี้สักที คุณไม่รู้สึกสงสารคุณหนูคนงามแห่งตระกูลฉีบ้างหรือ ?”

 

“คุณน่ะใจดีเกินไป”

 

มู่เฉินฮ่าวหยิบช้อนขึ้นมาตักซุปที่เซี่ยฉิงกงต้ม เขาเป่าเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ซด

 

“พี่เฉินฮ่าว !”

 

ใบหน้าของฉีเหยียนเอ๋อเปลี่ยนเป็นสีเขียว แม้ว่าเธอจะสวมชุดสีชมพูก็ไม่ช่วยอะไร ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอกัดฟันพูดว่า

 

“พี่เฉินฮ่าว ดื่มซุปของฉันสิ ฉันใส่วัตถุดิบล้ำค่าลงไปตั้งหลายสิบชนิด”

 

มู่เฉินฮ่าววางช้อนลง เขาเงยหน้าขึ้นมองฉีเหยียนเอ๋อ

 

“ซุปนี่คุณต้มเองหรือเปล่า ?”

 

ครั้นได้ยินมู่เฉินฮ่าวถาม ฉีเหยียนเอ๋อก็ดีใจมาก เธอเปิดกล่อง หยิบซุปออกมา

 

“อ่า… ใช่พี่เฉินฮ่าวฉันต้มด้วยตัวเองตั้งแต่เช้าเลยล่ะ วันนี้ฉันตื่นเช้ามาต้มซุปเพื่อพี่โดยเฉพาะ”

 

ฉีเหยียนเอ๋อบิดกระติกเปิดออก กลิ่นหอมจาง ๆ ของเครื่องยาลอยกรุ่น

 

“พี่เฉินฮ่าว ซุปที่ฉันทำเองหอมไหม ?”

 

ฉีเหยียนเอ๋อแตะจมูกพลางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

 

เซี่ยฉิงกงเหลือบตามองฉีเหยียนเอ๋อ ฉันเกรงว่าฉีเหยียนเอ๋อจะไม่ได้ต้มซุปนี้จริง ๆ

 

“คุณหนูฉี สามารถต้มซุปได้ด้วยงั้นหรือ ?”

 

เซี่ยฉิงกงเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม

 

“ทำไมฉันจะทำไม่ได้ล่ะ แน่นอนว่าฉันต้องต้มซุปได้อยู่แล้ว”

 

เพราะเมื่อครู่ตอนที่มู่เฉินฮ่าวถาม ฉีเหยียนเอ๋ออึกอัก ทั้งยังกล่าวซ้ำสิ่งที่มู่เฉินฮ่าวถามให้ดูเหมือนจริงใจอย่างมาก

 

ทว่าหลังจากพูดแล้ว เธอก็พูดซ้ำอีกครั้ง นั่นแหละปัญหาล่ะ

 

เพียงพิจารณาจากการแสดงออกเล็กน้อยเหล่านั้น ก็พบว่าฉีเหยียนเอ๋อพยายามตอบคำถามอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นเทคนิคการโกหกธรรมดา ๆ ทั่วไป

 

นอกจากนี้ เซี่ยฉิงกงยังสังเกตเห็นอีกว่า ฉีเหยียนเอ๋อเพิ่งยกมือขึ้นแตะจมูกตนเองโดยไม่รู้ตัว

 

เมื่อคนพยายามโกหก เลือดในร่างกายจะไหลย้อนกลับขึ้นบนใบหน้า ทำให้เยื่อในโพรงจมูกที่มีโครงสร้างเหมือนฟองน้ำบวม และขยายออก ดังนั้นก็จะรู้สึกคัดจมูกขึ้นมา

 

จากนั้นเมื่อคุณโกหก คุณก็จะยกมือขึ้นแตะจมูกโดยไม่รู้ตัว

 

“จริงหรือ ไม่คิดว่าเหยียนเอ๋อจะรู้สูตรเฉพาะของศูนย์การแพทย์จีน เหรินซินถังด้วย ว่าแต่คุณใส่อะไรลงไปในซุปนี้บ้างล่ะ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวเอ่ยปากเบา ๆ เขามองฉีเหยียนเอ๋อด้วยดวงตาที่ลึกล้ำ และมืดมิด มีประกายเย็นชาในดวงตาของเขา

 

ฉีเหยียนเอ๋อผงะ แค่มองจะให้เธอรู้ได้อย่างไรว่าในน้ำซุปนี้มีวัตถุดิบอะไรบ้าง ?

 

ซิงเหวินจิ้งก็ไม่ได้บอกอะไรเธอด้วย ส่วนเธอเองก็รีบร้อนมาที่นี่เลยไม่ได้ถาม

 

ตอนนี้ เมื่อถูกมู่เฉินฮ่าวถาม ฉีเหยียนเอ๋อก็อึกอักที่จะตอบ

 

“คือว่า…เอ่อ…พี่เฉินฮ่าว … ฉัน”

 

“เอาล่ะ เหยียนเอ๋อกลับบ้านก่อนเถอะ คุณเพิ่งกลับมาจากอังกฤษควรจะกลับไปอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ของคุณบ้าง ฉิงกงกับผมเรายังต้องปรึกษากันเรื่องการหมั้น”

 

ฉีเหยียนเอ๋ออยากจะพูดอะไรบางอย่าง หากแต่มู่เฉินฮ่าวไม่อดทนฟัง เขาออกคำสั่ง

 

“หมั่นโถว ส่งแขก !”

 

“ค่ะ นายน้อย”

 

หมั่นโถวเดินไปยืนข้างกายฉีเหยียนเอ๋อ เธอก้มศีรษะลงพร้อมกล่าวว่า

 

“คุณหนูฉี เชิญ”

 

“ไปให้พ้นนะ ! พี่เฉินฮ่าว ฉันโกหกพี่ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไปที่เหรินซินถังเพื่อถามหมอจีนโบราณที่มีประสบการณ์ที่นั่นเกี่ยวกับการต้มซุปนี้ ทั้งยังขอให้พวกเขาปรุงให้พี่เป็นพิเศษ ฉันก็เลยไม่รู้ว่ามีส่วนผสมอะไรอยู่ในนั้น หากพี่จะโกรธฉันเพราะเรื่องนี้ ต่อไปฉันทำอาหารเองก็ได้ และฉันสัญญาว่าจะจดจำส่วนผสมทั้งหมดให้ได้ด้วย”

 

มู่เฉินฮ่าวยังคงก้มหน้าถือช้อนไว้ และเริ่มกินแอปเปิ้ล พุทราจีน และวอลนัทในซุปที่เซี่ยฉิงกงต้มให้

 

กลิ่นหอมจาง ๆ ของแอปเปิ้ลลอยมาแตะปลายจมูก คาดไม่ถึงว่ารสชาติจะดีใช้ได้เลยทีเดียว

 

“นายน้อย คุณหนูฉี ไม่ยอมไป ฉันจะ…”

 

“ตามใจ”

 

***จบตอน หมั่นโถวส่งแขก !***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset