แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 98 พาหมั่นโถวไปช็อปปิ้ง

ศูนย์การค้าฮุ่ยเหลียนมีทั้งหมดสิบชั้น สวย งดงามตระการตาไปทั่วทุกตารางนิ้ว สมกับเป็นทำเลทอง เซี่ยฉิงกงเองก็คุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี

 

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยซื้อเสื้อผ้าที่นี่มาก่อนเลย หากแต่เธอก็คุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี นั่นเพราะเธอเคยทำงานที่นี่

 

เซี่ยฉิงกงรู้ว่ามีร้านแบรนด์หรูอยู่ที่นี่ ซึ่งก็คือร้าน Zzalet ร้านนี้แตกต่างจากร้านอื่น ๆ  ด้วยรูปแบบเสื้อผ้าที่ทั้งหรูหรา ทั้งสง่างาม หากแต่ก็เต็มไปด้วยชีวิตชีวา

 

เธอได้ยินมาว่า เมื่อครั้งที่แบรนด์นี้เปิดตัวในยุโรป และอเมริกา แบรนด์นี้ก็ได้รับความนิยมจากบรรดาสาว ๆ ผู้ดีมีสกุลสูงในยุโรป และอเมริกาเป็นอย่างมาก มาตอนนี้แบรนด์นี้ก็ได้รับความนิยม และเป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงทุกคนในประเทศจีนด้วย

 

เซี่ยฉิงกงและหมั่นโถวเดินตรงเข้าร้านนี้

 

เสื้อผ้าในร้านมีไม่มากนัก หากแต่ทุกตัวล้วนตัดเย็บด้วยความประณีตและงดงาม

 

เซี่ยฉิงกงจูงหมั่นโถวเดินชมไปรอบ ๆ พลางกวาดตามองชุดต่าง ๆ ไปทีละชุด

 

ในที่สุด เธอก็ชอบชุดเดรสสั้นสีขาวชุดหนึ่ง

 

“ชุดนี้ไม่เลวไปลองดูสิ”

 

เซี่ยฉิงกงชี้ไปที่ชุด ขณะพูดกับหมั่นโถว

 

“ค่ะ”

 

หมั่นโถวพยักหน้า ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบใส่เสื้อผ้าสวย ๆ แม้ว่าหมั่นโถวจะเป็นคนเรียบง่าย และเคยชินกับการเป็นทหารมาก่อน หากแต่เมื่อเห็นกระโปรงที่สวยงามเช่นนั้น นัยน์ตาคู่สวยก็เปล่งประกายสดใสขึ้นมาทันที

 

เซี่ยฉิงกงกวักมือเรียกพนักงานแนะนำสินค้าในร้าน พร้อมกับบอกว่า

 

“ขอลองชุดนี้หน่อย”

 

พนักงานแนะนำสินค้าเดินมาหา เธอกวาดตามองเซี่ยฉิงกงและหมั่นโถวผู้ซึ่งสวมเสื้อผ้าธรรมดา ๆ พนักงานแสดงสีหน้าไม่ดีใส่หญิงสาวทั้งสอง

 

เธอมองว่าแม่สาวสองคนนี้คงไม่มีปัญญาซื้อหรอก ก็แค่อยากลองใส่เสื้อผ้าหรู ๆ ก็เท่านั้น หลังจากลองชุดแล้ว พวกเธอทั้งสองก็คงไม่ซื้อ

 

“คุณลูกค้าคะ ชุดนี้เป็นสินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่นของทางร้านเรา หากคุณไม่ซื้อ คุณจะต้องจ่ายค่าลองชุดเป็นจำนวน 30% ของราคาสินค้านะคะ”

 

“มีกฎแบบนี้ด้วยหรือ ?” เซี่ยฉิงกงยิ้ม

 

ครั้นได้ยินคำถามของเซี่ยฉิงกง พนักงานแนะนำสินค้าก็ยิ่งแน่ใจว่าหญิงสาวทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าเป็นแค่ยาจกที่อยากลองชุดแต่ไม่มีปัญญาซื้อ เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธเกรี้ยวว่า

 

“แน่นอนสิ ชุดนี้ ราคาหกหลักเชี่ยวนะ เผื่อว่าคุณทำชุดเสียหายตอนลองล่ะ แล้วฉันจะทำยังไงถ้าคุณไม่มีปัญญาจ่ายน่ะ”

 

หมั่นโถวเริ่มกรุ่นเล็กน้อย ที่มีคนกล้าพูดกับนายหญิงน้อยของเธอเช่นนี้ ? ผู้หญิงคนนี้จะรู้บ้างไหมว่าศูนย์การค้าฮุ่ยเหลียนแห่งนี้ก็เป็นสมบัติของตระกูลมู่ นายหญิงน้อยของเธอจะซื้อเสื้อผ้าสักชุดที่นี่ไม่ได้เลยงั้นหรือ ? ตาต่ำเหมือนตาตุ่มจริง ๆ

 

ในขณะที่การทะเลาะกำลังจะเกิดขึ้น เซี่ยฉิงกงก็ห้ามศึก เธอส่ายหน้าน้อย ๆ อย่างช่วยไม่ได้ แม้จะไม่พอใจอยู่บ้าง หากแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

 

“เอาชุดนั้นมา และทำตามกฎของเธอได้เลย”

 

ครั้นพนักงานแนะนำสินค้าได้ยิน ที่เซี่ยฉิงกงบอกว่าต่อให้ไม่ซื้อ ก็ยินดีจ่าย 30% ทว่าพนักงานก็ยังไม่เชื่อ  เธอเหลือบไปมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่ประตู พลางส่งสัญญาณให้พวกเขา เผื่อว่าสองสาวนี้จะไม่มีปัญญาจ่ายขึ้นมาจริง ๆ …

 

เธอหยิบเดรสส่งให้เซี่ยฉิงกงอย่างไม่เต็มใจ เซี่ยฉิงกงยื่นให้หมั่นโถว

 

“ไปลองดูสิ”

 

พอหมั่นโถวเข้าห้องลองชุด เซี่ยฉิงกงก็เกิดรู้สึกปวดท้องเล็กน้อย เธอจึงต้องการเข้าห้องน้ำ

 

เธอแจ้งพนักงานแนะนำสินค้าที่อยู่ข้าง ๆ จากนั้นก็ไปเข้าห้องน้ำ

 

ทันทีที่เซี่ยฉิงกงผละจากไป ลูกค้าสองคนก็เดินเข้ามาในร้าน พนักงานแนะนำสินค้าสาวเห็นเข้าก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มในทันที

 

“คุณหนูเสิ่น ลมอะไรพัดมาถึงที่นี่คะ ?”

 

พนักงานแนะนำสินค้ามองเสิ่นหรงเจีย เธอรู้สึกแปลก ๆ  ทำไมวันนี้ใบหน้าของคุณหนูเสิ่นจึงได้แลดูอ้วนมาก ? ทั้งยังมีรอยช้ำเขียวอยู่ที่มุมปากอีกด้วย นี่คงไม่ใช่เรื่องความรุนแรงในครอบครัวหรอกนะ ?

 

ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น พนักงานสาวก็ยังไม่กล้าที่จะละเลยหน้าที่ เสิ่นหรงเจียเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ เธอมาที่นี่บ่อยมาก อย่างน้อยก็เดือนละครั้ง และทุกครั้งที่เธอมา เธอก็จะเลือกซื้อเสื้อผ้ากลับไปสี่หรือห้าชิ้น ถือได้ว่าเธอเป็นลูกค้าคนสำคัญของร้านเลยทีเดียว

 

พนักงานแนะนำสินค้าสังเกตเห็นว่า หญิงสาวอีกคนซึ่งกอดแขนเสิ่นหรงเจียมา ดูเหมือนจะสนิทกับเสิ่นหรงเจียมาก ดูแล้วหญิงสาวคนนี้ก็น่าที่จะเป็นคุณหนูจากตระกูลร่ำรวยไม่ครอบครัวใดก็ครอบครัวหนึ่ง เธอเลยไม่กล้าละเลยด้วยเช่นกัน

 

“วันนี้เรามีคอลเลคชั่นใหม่ ๆ มากมายภายในร้าน คุณอยากลองชุดไหนบ้างไหมคะ ?”

 

“หรงหรง วันนี้เธออยากได้ชุดแบบไหนล่ะ ? เดี๋ยวฉันซื้อให้เอง ที่เธอต้องเจ็บตัวขนาดนี้ก็เพราะฉัน ให้ฉันซื้อปลอบใจให้เธอนะ”

 

***จบตอน พาหมั่นโถวไปช็อปปิ้ง***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset