แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 115 ความปรารถนาเล็ก ๆ งั้นรึ ?

เซี่ยชิวเต๋อรู้สึกไม่พอใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าแก่ ๆ ของเขาแลดูน่าเกลียดยิ่งขึ้นไปอีก เขาลูบหนวด พลางจ้องมองเซี่ยฉิงกง

 

“หลานสาว น้าชายรู้สึกไม่ดีเลยที่ได้ยินหลานพูดแบบนั้น อีกไม่นานหนูก็จะแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวย ทำไมไม่ช่วยสนับสนุนน้าบ้างล่ะ น้าก็แค่อยากเปิดร้านหม้อไฟเล็ก ๆ แค่นี้ก็พอใจแล้ว ไม่ได้เลยหรือ ?”

 

นี่คือความปรารถนาเล็ก ๆ แล้วงั้นรึ ? เซี่ยฉิงกงมองจ้องตา แววตาของเธอยิ่งเย็นชาลงเรื่อย ๆ

 

ตั้งแต่เด็ก เซี่ยชิวเต๋อไม่เคยซื้ออะไรให้เซี่ยฉิงกงเลย และทุกครั้งที่เขาอ้าปากพูดก็มีแต่เรื่องขอเงิน ไม่ก็ขอนั่นขอนี่จากเซี่ยฉิวเจินแม่ของเธอเท่านั้น

 

หากแต่ทั้งหมดที่กล่าวมาก็นับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เซี่ยฉิงกงไม่ต้องการลำเลิกเรื่องเก่า ๆ กับเขา

 

ทว่าหลังจากทราบว่า เซี่ยฉิวเจินป่วย จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ทั้งยังต้องการค่ากายภาพบำบัดจำนวนมาก เขาก็หายหัวไปเลย โทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย เขาไม่ยอมกระทั่งเปิดประตูรับตอนที่เธอไปเรียกที่บ้านอีกด้วย

 

กลางดึกคืนหนึ่ง เซี่ยฉิงกงต้องแบกเซี่ยฉิวเจินไปโรงพยาบาลด้วยน้ำตานองหน้า

 

“นี่หนูคิดจะทำอะไร ? ทำไมมองน้าแบบนี้ แค่ขอเงิน 300,000 หยวน หนูไม่ยอมช่วยมากกว่า ดูสิ หลานสาวและหลานเขยมาอยู่พร้อมหน้ากันที่นี่แล้ว ไม่อยากเชื่อเลยว่า ตระกูลเซี่ย และตระกูลมู่จะไม่สามารถให้เงินก้อนนี้ได้ ?”

 

เซี่ยชิวเต๋อยักไหล่ พร้อมกับพูดประชดประชัน นี่ถ้าเซี่ยฉิวเจินไม่อยู่ที่นี่ เขาก็คงต้องออกไปนานแล้ว

 

มู่เฉินฮ่าวรับฟังอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ เขาไม่พูดแทรกใด ๆ เขาเพียงทอดสายตามองเซี่ยฉิงกง นั่นทำให้เธอรู้สึกว่าอย่างน้อยเขาก็ยังอยู่ที่นี่ด้วย

 

“นี่คุณกล้าขอเงิน 300,000 หยวนกับฉันจริง หรือล้อเล่น เฮอะ ?”

 

ฝ่ามือของเซี่ยฉิงกงกำแน่นขึ้นอย่างช้า ๆ เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพราะรู้สึกว่าบรรยากาศที่นี่อึดอัดเหลือเกิน

 

“ทำไมน้าจะไม่กล้าขอ ? ทั้งหลานสาว และหลานเขยของน้าต่างก็มีศักยภาพ ทำไมน้าถึงจะขอไม่ได้ ?” เซี่ยชิวเต๋อยังไม่ยอมรับ

 

เซี่ยฉิวเจินมองเซี่ยชิวเต๋อ และเซี่ยฉิงกงที่กำลังจะทะเลาะกันอีกครั้ง เธอรู้สึกสับสนอย่างมาก

 

“ฉิงกงอย่าพูดกับน้าของหนูแบบนี้ บางทีน้าของหนูอาจจะต้องการเงินอย่างเร่งด่วนจริง ๆ ก็เป็นได้… “

 

“แม่ นี่แม่ไม่รู้จักคนอย่างเขาจริง ๆ หรือ ?”

 

สำหรับเซี่ยฉิวเจินแล้ว เซี่ยฉิงกงไม่รู้จะพูดอย่างไรจริง ๆ อาจเป็นเพราะเซี่ยฉิวเจินถูกกดขี่รังแกตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งยังเรียนหนังสือน้อยด้วย ดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับการถูกรังแก เธอมักจะยอมเซี่ยชิวเต๋อ เธอไม่กล้าที่จะต่อต้านแม้จะเป็นคำขอที่ไม่มีเหตุผลของเซี่ยชิวเต๋อด้วยซ้ำ

 

ทว่าเซี่ยฉิงกงไม่ใช่ เซี่ยฉิวเจิน !

 

เธอไม่เชื่อว่าเซี่ยชิวเต๋อคนที่เอาแต่เกาะพ่อแม่ ขายของเก่าในบ้านกินมานานหลายสิบปีจะเปลี่ยนสันดานได้ หากเขาสามารถเปลี่ยนแปลงตนเองได้ก็คงต้องโดนผีดีเข้าสิงแน่นอน

 

เซี่ยชิวเต๋อเคยเล่นการพนัน แล้วก็สูญเงินเป็นจำนวนมากมาก่อน

 

อย่างไรก็ตาม คนอย่างเขา หากเล่นได้ก็จะเก็บเงินใส่กระเป๋าตัวเองหยวนนึงก็ไม่มีกระเด็น แต่หากเสียล่ะก็ เขาเป็นต้องวิ่งโร่กลับบ้านมาประจบสอพลอขอเงินเซี่ยฉิวเจิน และพ่อของเขา

 

“ความจริงก็คือ คุณเสียพนันมาอีกแล้วใช่ไหม ?”

 

เซี่ยฉิงกงเอ่ยถามพร้อมกับมองจ้องหน้าเซี่ยชิวเต๋อ

 

“น้าจะเล่นจนเสียเงินมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร ? น้าก็แค่อยากเปิดร้านอาหารหม้อไฟ น้าอยากจะพัฒนาตัวเอง น้าจะเอาเงินที่ไหนไปเสียจำนวนมากขนาดนั้นได้เล่า ?”

 

“จริงงั้นรึ ?”

 

“แน่นอนสิ หนูต้องเชื่อน้านะ”

 

“ฉันขอถามคุณอีกครั้งว่า คุณเสียพนันมาใช่ไหม ?”

 

เซี่ยชิวเต๋อทำท่าทางฮึดฮัดไม่สบอารมณ์

 

“เป็นไปไม่ได้หรอกที่น้าจะเสียเงินมากมายขนาดนั้น น้าจะเล่นเสียถึง 300,000 หยวนได้อย่างไร ? หลานฉิงกง หลานดูถูกน้ามากไปแล้วนะ”

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงได้ยินคำตอบ เธอก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเซี่ยชิวเต๋ออีกต่อไป เธอดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมอกให้เซี่ยฉิวเจิน ก่อนจะออกไปรินน้ำให้แม่ของเธอ

 

หลังจากก้าวเข้ามาในห้องอีกครั้ง เซี่ยฉิงกงก็หันไปมองเซี่ยชิวเต๋อ

 

“เซี่ยชิวเต๋อ ฉันขอถามคุณเป็นครั้งสุดท้ายว่า คุณต้องการเงินก้อนนี้ไปใช้หนี้พนันใช่หรือไม่ ?

 

***จบตอน ความปรารถนาเล็ก ๆ งั้นรึ ?**

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset