แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 118 ภรรยาของผมสวยที่สุด

“หลังจากที่ผมให้เงินเขา 300,000 หยวน ผมก็ติดตามเขาไปตลอดทาง หลังจากที่เขาออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาก็ตรงไปที่คาสิโนใต้ดินบนถนนเวสต์สตรีท”

 

“ว่าต่อไป”

 

“จากการตรวจสอบคาสิโนใต้ดินแห่งนั้น จึงทราบว่าเจ้าของที่อยู่เบื้องหลังก็คือโจวหยุนเซินลูกชายของพ่อบ้านคนเก่าของตระกูลเซี่ย”

 

ผู้ชายที่ใส่แว่นตากรอบทอง ? คนที่พาเธอออกจากผับคราวน์กลับมาส่งที่บ้านนี่นา ?

 

มู่เฉินฮ่าวพยักหน้าเล็กน้อย

 

“ขอบใจที่ช่วยเป็นธุระให้ ไปพักผ่อนเถอะ”

 

อาเจิ้งโค้งคำนับเล็กน้อย ก่อนจะก้าวออกจากห้องไป

 

“โจวหยุนเซิน คนนี้น่าที่จะเป็นคนของเจินเมี่ยวหยู เรื่องนี้เป็นแผนชั่วของเจินเมี่ยวหยูอีกแล้ว”

 

มือของเซี่ยฉิงกงกำแน่นขึ้นเล็กน้อย เจินเมี่ยวหยู เจินเมี่ยวหยู ชื่อนี้ทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกโกรธทุกครั้งที่ได้ยิน

 

“เอาล่ะ ไม่ต้องคิดมาก เข้านอนกันเถอะ ไว้พรุ่งนี้เราค่อยกลับไปที่บ้านสกุลเซี่ย เมื่อถึงเวลานั้นทุกอย่างก็จะกระจ่างเอง”

 

มู่เฉินฮ่าวจับมือเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกง และพาเธอไปที่เตียง

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย เธอกดขมับตนเอง

 

“อืม..งั้นฉันขออาบน้ำก่อนนะ”

 

“อาบด้วยกันเถอะ”

 

เซี่ยฉิงกง…

 

ทว่าสุดท้ายมู่เฉินฮ่าวก็ไม่ได้ทำตามที่ต้องการ เพราะถูกเซี่ยฉิงกงล็อคประตูห้องน้ำไม่ให้เข้าไป

 

เช้าวันรุ่งขึ้น เซี่ยฉิงกงตื่นนอน เธอลุกขึ้นมาแปรงฟันและล้างหน้าด้วยความงุนงง จากนั้นหมั่นโถวก็เข้ามาแต่งหน้าให้เธอ

 

หลังจากที่หมั่นโถวแต่งหน้าให้เซี่ยฉิงกงเสร็จ หมั่นโถวก็มองใบหน้าเซี่ยฉิงกงด้วยความพึงพอใจ เธอไม่ลืมที่จะหันกลับไปถามมู่เฉินฮ่าวผู้ซึ่งกำลังนั่งทำงานอยู่บนโซฟาว่า

 

“นายน้อย คุณคิดว่า นายหญิงน้อยสวยมั้ย ?”

 

ผิวหน้าของเซี่ยฉิงกงซึ่งปกติก็สุขภาพดีอยู่แล้ว หลังจากได้รับการตกแต่งอย่างประณีต ก็ยิ่งเปล่งประกายงดงามมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

“เฉย ๆ”

 

มู่เฉินฮ่าวเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ ในแววตา ก่อนจะก้มหน้าก้มตาลงมองโน้ตบุ๊คต่อไป

 

ที่บริษัทมีเรื่องมากมายรอให้มู่เฉินฮ่าวจัดการทุกวัน ทว่าวันนี้เขาต้องไปบ้านสกุลเซี่ย ด้วยเหตุนี้มู่เฉินฮ่าวจึงไม่ได้เข้าบริษัท เขาเลือกที่จะนั่งทำงานอยู่ที่บ้านแทน

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงได้ยินมู่เฉินฮ่าวพูดแบบนั้น เธอก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที เธอลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกัดฟันขณะถามว่า

 

“คนบ้า พูดอีกครั้งสิ !”

 

“สวย สวยจ้ะ ! ภรรยาของผมสวยที่สุด !”

 

มู่เฉินฮ่าวเปลี่ยนคำพูดทันควัน ท่าทางของเขาหงอ ๆ ไม่ต่างจากสุนัขรับใช้ ภาพนั้นทำให้อาเจิ้งและหมั่นโถวถึงกับตกตะลึง

 

มู่เฉินฮ่าวเคยพูดเคยจาแบบนี้กับผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

 

เป็นเขาต่างหากที่มักพูดจาข่มขู่แบบนี้มาทั้งชีวิต นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงอีกนับไม่ถ้วนที่เฝ้าคอยเอาอกเอาใจเขา

 

หลังจากเติมแป้งเล็กน้อย หมั่นโถวก็เกล้าผมของเซี่ยฉิงกงให้ดูสง่างามเป็นพิเศษ จากนั้นก็หยิบชุดให้เซี่ยฉิงกงเลือก

 

เซี่ยฉิงกงเลือกชุดสีฟ้าอ่อน หลังจากใส่แล้ว เธอก็ดูเหมือนนางเงือก

 

“เอ่อ ! คุณลุงมู่กับคุณป้ามู่อยู่ไหนล่ะ ?”

 

จู่ ๆ เซี่ยฉิงกงก็นึกขึ้นได้ว่าไปเจรจาเรื่องงานหมั้นหมายจะให้เด็กหนุ่มสาวอย่างพวกเธอไปคุยกันเองได้อย่างไร ? ต้องมีพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมด้วยมิใช่หรือ ?

 

เมื่อพูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา ทันทีที่เซี่ยฉิงกงพูดถึงมู่จื่อหมิง คนรับใช้ก็เข้ามารายงานว่า

 

“นายน้อย นายหญิงน้อย นายท่านมาถึงแล้วขอรับ ตอนนี้กำลังรอพวกคุณอยู่ที่ประตู”

 

“อืม”

 

มู่เฉินฮ่าวใส่ชุดสูทเรียบร้อยแล้ว

 

เซี่ยฉิงกงมองเขาด้วยความหลงใหลอย่างลืมตัวไปชั่วขณะ ชายที่อยู่เบื้องหน้าเธอมีจมูกโด่ง ริมฝีปากบางเม้มเล็กน้อย และนัยน์ตาที่ล้ำลึกคู่นั้นก็มองมาที่เธอ ร่องรอยการเอาอกเอาใจที่ปรากฏในแววตาของเขานั้นสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน

 

พูดได้ว่า หล่อระเบิดระเบ้อ !

 

“ฉิงกง..อย่ายืนอึ้งจ้องผมแบบนั้นสิ ผมรู้แล้วว่าผมหล่อมาก”

 

มู่เฉินฮ่าวแตะจมูกของตนพลางยิ้ม

 

หมั่นโถวปิดปากหลบยิ้มขัน

 

“… คนบ้า !”

 

ใบหูของเซี่ยฉิงกงแดงจัด เธอคว้าหมอนบนเตียงโยนใส่มู่เฉินฮ่าว

 

เซี่ยฉิงกงสวมรองเท้าส้นสูงสีขาว มู่เฉินฮ่าวยกมือขึ้นโอบเธอไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็เดินไปที่ประตูด้วยกัน

 

เขากอดเอวเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกงไว้ ขณะเดินคลอเคลียกันไม่ต่างจากลูกแมว เซี่ยฉิงกงแสร้งกดน้ำหนักทั้งตัวลงบนร่างของมู่เฉินฮ่าวอย่างประสงค์ร้าย

 

***จบตอน ภรรยาของผมสวยที่สุด***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset