แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 140 คุณแม่บอกให้ฉันไปหาคุณ !

ตอนที่ 140 คุณแม่บอกให้ฉันไปหาคุณ !

 

“ใช่..นี่คือข้อที่น่ากังขาที่สุด ในไตรต์ถูกผลิตขึ้นเนื่องจากอาหารที่เรารับประทาน โดยปกติอาหารต่าง ๆ จะมีไนเตรตปะปนไนเตรตไม่เป็นพิษ ทว่าจุลินทรีย์ในอากาศที่เข้าไปในของเหลือซึ่งอยู่ ณ อุณหภูมิปกติจะเปลี่ยนสภาพเป็นแบคทีเรียออกฤทธิ์สร้างรีดักเตส และจะเปลี่ยนไนเตรตให้เป็นในไตรต์”

 

เพื่อให้ทุกคนเข้าใจ หมอซูจึงอธิบายถึงความกังขาในเรื่องนี้อย่างง่าย ๆ จากนั้นจึงเปลี่ยนบทสนทนา

 

“ในเมื่อนายท่านเซียไม่ได้กินอาหารค้างคืนเลย อย่างนั้นในไตรท์ในร่างกายจะมาจากไหน !”

 

เป็นไนไตรท์อีกแล้วหรือนี้ ? เซียฉิงกงจําได้ว่าเซียฉิวเฉิน แม่บุญธรรมของเธอก็เข้าโรงพยาบาลเพราะอาหารเป็นพิษเช่นกัน ?

 

“ผมจําได้ว่า ตอนที่ผมยังหนุ่ม ผม มักจะออกไปสังสรรค์นอกบ้านและทําเช่นนั้นติดต่อกันนานหลายปี กระทั่งถึงตอนนี้ระบบทางเดินอาหารของผมจึงไม่ค่อยดีนัก ผม มักจะปวดท้องทุกเช้า เงินเมี่ยวหยูมักจะให้ผมดื่มน้ําเกลือวันละ หนึ่งชาม เธอบอกว่ามันมีประโยชน์ ช่วยลดความร้อนในร่างกาย อีกทั้งยังบํารุงไต นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารของลําไส้ และกระเพาะทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

 

เซี่ยเจิ้งหัวครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะพูดออกมา

 

“นายท่านเซีย ชามที่คุณดื่มเมื่อเช้ายังอยู่หรือเปล่า ?” หมอซูถาม

 

“เมื่อเช้านี้ผมอาเจียน และท้องเสียด้วย ผมจึงรีบไปโรงพยาบาลก็เลยยังไม่ได้ดื่มน้ําเกลืออุ่น ๆ นั่นเลย ชามน้ําเกลือยังคงตั้งอยู่บนโต๊ะในห้องของผม”

 

มู่เฉินฮ่าวเอ่ยเรียกเบา ๆ

 

หมั่นโถวเข้าใจ เธอพยักหน้า ก่อนจะรีบไปหยิบชามน้ําเกลือที่อยู่ในห้องของเซี่ยเจิ้งหัวมา

 

สองนาทีถัดมา หมั่นโถวก็กลับมา เธอมอบชามน้ําเกลือที่ยังไม่ถูกแตะต้องให้หมอซู หมอซูรีบนําเข้าไปตรวจสอบในรถพยาบาลทันที

 

ในระหว่างรอผลการตรวจ เชี่ยเจิ้งหัวรู้สึกว้าวุ่นใจเป็นอย่างมาก

 

อย่างไรเสียก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีภรรยากัน ถึงเงินเยี่ยวหยูจะแอบโอนบริษัท และทรัพย์สินทั้งหมดของเขาอย่างลับ ๆ นั่นก็เป็นเพราะเธอเกลียดเขา เธอต้องการทําให้เขาเจ็บปวดอย่างที่สุด

 

นอกจากนี้ในช่วงห้าปีแรกที่เขาแต่งงานกับน่าหลานเสวี่ย เขาก็มักจะไปพบเงินเยี่ยวหยูสัปดาห์ละครั้ง ดังนั้นเซี่ยเจิ้งหัวจึงเสียใจมากที่เธอให้กําเนิดลูกของคนอื่น

 

แต่ที่เซี่ยเจิ้งหัวยอมรับไม่ได้เลย ก็คือเธอต้องการสังหารเขา

 

ขณะที่รอรายงานผลการทดสอบ เซี่ยฉิงกงสังเกตเห็นว่ามีคนหายไป 1 คน

 

” เซี่ยชิงฉวนอยู่ไหน ?”

 

หมั่นโถวหันมองโดยรอบ จึงพบว่าเซี่ยชิงฉวนหายตัวไปแล้วชั่วขณะนั้นเธอก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย

 

“ฉันขอโทษ นายหญิงน้อย เมื่อครู่ฉันไม่ได้จับตามองเธอไว้ให้ดีดูเหมือนว่าเธอจะหนีไปแล้ว”

 

” เธอไม่สามารถหนีได้หรอก แม้ว่าเมืองเซี่ยงไฮ้นจะกว้างใหญ่มากก็ตามที เว้นแต่ว่าเธอจะไม่ออกมาปรากฏตัวในที่สาธารณะจะเอาแต่มุดหัวซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นดินได้ก็ให้รู้กันไป”

 

มู่เฉินฮ่าวเหลือบมองไปที่ประตู พร้อมกับพูดอย่างใจเย็น

 

“ลืมมันเถอะ หนีแล้วก็แล้วกัน”

 

เซี่ยฉิงกงหลับตาลง ขนตาที่สวยงามของเธอสั่นไหวเล็กน้อย

 

แม่เลี้ยงก็ถูกจับกุมตัวได้แล้ว การแก้แค้นของเซียฉิงกงก็เรียกได้ว่าสําเร็จไปแล้วครึ่งทาง สําหรับเซี่ยชิงฉวนนั้นเธอไม่ได้นึกกังวลเลย

 

ขณะที่หมอซูทําการตรวจเลือดของเซี่ยเจิ้งหัวนั้น เชียชิงฉวนก็ฉวยโอกาสหลบหนี เธอวิ่งกลับไปที่ห้อง ตรงไปเปิดลิ้นชักชั้นที่สามของโต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างเตียงเธอตามที่เงินเมี่ยวหยูบอกไว้

 

บริเวณด้านล่างของลิ้นชักโต๊ะมีโน้ตบันทึกหมายเลขโทรศัพท์และที่อยู่

 

เซี่ยชิงฉวนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามือไม้สั่น เธอกดโทรออกตามหมายเลขบนกระดาษโน้ต

 

“นั่นใครนะ”

 

เสียงที่นุ่มนวลแต่ชัดเจนดังมาจากอีกปลายสายของโทรศัพท์

 

เซี่ยชิงฉวนอดไม่ได้ที่จะร้องไห้สะอึกสะอื้น

 

“ฉันเป็นลูกสาวของเงินเมียวหยู ฉันชื่อเซี่ยชิงฉวน แม่ของฉันถูกพ่อของฉันและผู้หญิงสารเลวคนนั้นจับตัวไปแล้ว เธอขอให้ฉันโทรหาคุณ ทั้งยังบอกว่าคุณสามารถช่วยเธอได้…”

 

เซี่ยชิงฉวนสําลักสะอื้นขณะพูด

 

“โอ้! คุณคงไม่รู้หรอกว่า ผู้หญิงสารเลวที่ฉันพูดหมายถึงใครเธอชื่อเซี่ยฉิงกง”

 

“อ้อ… เจินเมี่ยวหยูถูกจับตัวไปแล้วงั้นรี 2”

 

เซี่ยชิงฉวนยังไม่สามารถเดาอารมณ์ของคนที่อยู่อีกปลายสายของโทรศัพท์ได้

 

“ใช่ พวกเขาจะส่งแม่ของฉันไปที่สํานักสันติบาล”

 

” แล้วคุณรู้เบอร์โทรศัพท์ของผมได้อย่างไร ? เงินเมี่ยวหยูบอกอะไรคุณบ้าง ? ”

 

“คุณแม่บอกให้ฉันไปหาคุณ เธอเขียนโน้ตใส่ไว้ในลิ้นชักโต๊ะของฉัน ในโน้ตนั้นมีเบอร์โทรและที่อยู่ของคุณ …”

 

ชายที่อยู่ปลายสายหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเงียบไปชั่วขณะ

 

” ผมได้ยินมาว่าคุณกําลังท้องด้วยใช่มั้ย ? .. เอาล่ะ คุณมาหาผมตามที่อยู่ในโน้ตนั้นได้ แต่จําไว้ว่า ห้ามบอกใครอย่างเด็ดขาด *

 

***จบตอน คุณแม่บอกให้ฉันไปหาคุณ !***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset