แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 150 เริ่มตรวจสอบกันตั้งแต่ก่อนจะแต่งงานเลยหรือ ?

แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก ตอนที่ 150 เริ่มตรวจสอบกันตั้งแต่ก่อนจะแต่งงานเลยหรือ ?

 

เชี่ยฉิงกงถอดเสื้อสูทให้กับมู่เฉินฮาว จากนั้นก็รินน้ําให้เขาหนึ่งแก้ว

 

“ทําไมวันนี้คุณกลับบ้านช้าจัง ?”

 

“เมียจํา นี่คุณเริ่มตรวจสอบผมตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งงานกันเลยหรือ ?”

 

แม้ว่าแววตาของมู่เฉินฮ่าวจะมีร่องรอยของความเหนื่อยล้าทว่าเขาก็ยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน ขณะหยิบแก้วน้ําขึ้นมาดื่ม

 

“ใครตรวจสอบคุณกัน คนบ้า ฉันกลัวว่าคุณจะทําฉันที่ตอนที่คุณเข้ามาในห้องต่างหาก !”

 

เชี่ยฉิงกงพูดด้วยน้ําเสียงโกรธ ๆ

 

“คุณคิดว่า คุณจะสามารถนอนหลับอย่างสงบได้เมื่อผมกลับมางั้นหรือ ?” ชายหนุ่มลดเสียงลงพลางยิ้ม

 

เขายื่นมือออกไปรั้งเซี่ยฉิงกงเข้ามาไว้ในอ้อมกอดปล่อยให้เธอนั่งลงบนตักของเขาจากนั้นก็ลูบไล้เอวนุ่ม ๆ ของเธอมือใหญ่ๆของเขาพริ้วไหวและสบายอย่างสุด

 

จะพรรณนา

 

เซี่ยฉิงกงสั่นไปทั้งตัว เธอเย็นวาบไปทั่วสันหลัง

 

ผู้ชายคนนี้คงไม่คิดที่จะ

 

“ก็… บอกแล้วไงว่าง่วง… อยากนอน

 

ก่อนที่เธอจะทันพูดจบ เธอก็ถูกโยนลงบนเตียงนุ่ม ๆ

 

“อืม … คนบ้า … ออกไปนะ ไปอาบน้ําก่อนเลย…”

 

คืนนี้เป็นคืนที่เซี่ยชิงฉวนหวาดกลัว และหวาดหวั่นที่สุดในรอบยี่สิบกว่าปีที่เกิดมา เธอตัวสั่นและซุกตัวอยู่ที่มุมห้องเพียงลําพัง ทั่วทั้งห้องมืดสนิท

 

เธอไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนกว่าที่ฟ้าจะสาง

เซี่ยซิงฉวนรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ภายในห้องมีแสงแดดส่องผ่านช่องว่างของผ้าม่านหนาจากพื้นจรดเพดาน

 

นอกจากนี้ยังมีเสียงคํารามในหัวของเธอราวกับว่ามีบางอย่างบีบเส้นเลือดในสมองของเธอ

 

ชายคนนั้นฉีดยาให้เธอ และนั่นคือยาเสพติดชนิดหนึ่ง

 

นับเป็นครั้งแรกที่เธอฉีดสารเสพติด เธอเสียใจมากที่เธอรู้สึกติดมันตั้งแต่การฉีดเพียงครั้งแรก

 

หัวใจของเธอเริ่มหวาดกลัว วิตกกังวล ตื่นตระหนกมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับมีมดนับพันตัวกําลังกัดแทะ …

 

เธอทนไม่ไหวแล้ว …

 

ประตูถูกผลักให้เปิดออกพร้อมกับเสียงดัง “บัง”

 

เสียงนั้นยังคงไพเราะเช่นเคย “เป็นไงบ้าง ?”

 

เพียงแค่เวลานี้ เสียงนี้ไม่ต่างจากปีศาจสําหรับเชี่ยชิงฉวน

 

เชี่ยชิงฉวนพยายามคลานเข้าไปเกาะแข้งเกาะขาของเฮ่าหยุนหมิง

 

“ได้โปรด

 

ช่วยฉันด้วย

 

ฉันอึดอัดมาก…”

 

“แล้วจะเรียกฉันว่าอะไรดีล่ะ ?”

 

แม้ว่าแววตาเซียชิงฉวนจะดูไม่เต็มใจนัก หากแต่เธอก็ตะโกนออกมาว่า

 

“เจ้านาย เจ้านาย

 

เฮ่าหยุนหมิงย่อตัวลง เอื้อมมือไปลูบศีรษะของเซี่ยซิงฉวน

 

“ดีมาก นับจากนี้ไป เธอชื่อเสี่ยวมู่เก้าเข้าใจมั้ย ?”

 

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”

 

“เสี่ยวมู่เก๊า ?”

 

“เจ้านาย… ฉันทนไม่ไหวแล้ว ได้โปรด ฉันอึดอัดจริงๆฉันจะตายมั้ย ?”

 

เฮ่าหยุนหมิงกวักมือเรียกชายในชุดดํา เขาก้มหัวลงจากนั้นก็หยิบเข็มฉีดยาพร้อมด้วยขวดของเหลวออกมาจากกล่องที่ล็อกไว้ในห้อง

 

เซี่ยชิงฉวนรู้สึกเจ็บแปลบที่แขน เมื่อของเหลวถูกฉีดเข้าไปในร่างกายของเธอ

 

สิบนาทีต่อมา เธอก็นอนลงกับพื้นอย่างสบายๆเธออ้าปากค้าง หายใจหอบกระเส่า

 

“มานี่”

 

เฮ่าหยุนหมิงกวักมือเรียกเซียชิงฉวน ดวงตาของเขาแคบและยาวแลดูแปลกประหลาด อีกทั้งมืดมนจนไม่สามารถอธิบายได้

 

เซี่ยชิงฉวนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เธอเข้าใจได้ทันทีโดยสัญชาตญาณ แต่ก็ยังไม่กล้าขัดขืนความรู้สึกอึดอัดนั้นทรมานเกิน กว่าที่จะรับได้ …

 

แม้ตอนนี้ ในใจลึก ๆ ของเธอก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัว

 

“ท่าอย่างนี้ยังใช้ไม่ได้ รู้จักท่าหมาตัวเมียมั้ยว่ามันทํายังไง

 

เชี่ยชิงฉวนส่ายหน้า

 

“เมื่อวาน ฉันไม่ได้เปิดวิดีโอให้เธอดูหรอกหรือเพิ่งผ่านไป ได้ไม่นานนี้เอง ลืมหมดแล้วหรือไง ?” ดวงตาของเฮ่าหยุนหมิงเย็นชาลงทันที เขาลุกขึ้นจากโซฟาเหยียดขาออกเตะเข่าของเซียซิงฉวนอย่างแรง

 

เซี่ยชิงฉวนคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด

 

“จําได้ จําได้ ฉันจําได้แล้ว !”

 

น้ําตาเอ่อคลอในดวงตาของเธอ เธอคุกเข่าและปรับทิศทางการคุกเข่าของเธอ เพื่อหันหลังให้เฮ่าหยุนหมิงจากนั้นเธอก็วางมือของเธอราบไปข้างหน้าเลียนแบบท่าทางของสุนัขก่อนจะก้มตัวลง

ร่างของเธอสั่นสะท้านตลอดเวลา

 

กลัว ทว่าไม่กล้าขัดขืน

 

“โก่งก้นขึ้นมาด้วย”

 

“ค่ะ เจ้านาย”

 

“สูงขึ้นอีกหน่อย”

 

***จบตอน เริ่มตรวจสอบกันตั้งแต่ก่อนจะแต่งงานเลยหรือ

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset