แต่ไหนแต่ไรตั้งแต่ชาติก่อนแล้วฉันเป็นคนนอนดิ้น ถ้าในชีวิตก่อนคือจะแค่ตื่นขึ้นมาหัวไม่ติดหมอน ผ้าห่มไม่อยู่กับตัว แต่พอมาในโลกนี้ก็ดูเหมือนจะยิ่งดิ้นกว่าเดิม แถมเพราะมีทั้งปีกทั้งหางแล้วก็นอนอยู่กับเคียร่า คนที่ได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ เลยก็คือเคียร่านั่นเอง
หนำซ้ำบางทีในตอนมาเกิดใหม่แรก ๆ ฉันจะชอบนอนฝันร้าย แล้วดิ้นหนักกว่าเก่าเพราะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ท้ายที่สุดก็ผ่านพ้นช่วงนั้นมาได้ เพราะว่าเคียร่าได้ใช้ท่าเด็ดในการกำราบการนอนดิ้นของฉัน
การกอดนั่นเอง
เธอใช้ฉันเป็นหมอนข้างเลยล่ะ ถึงตอนแรกจะตกใจแล้วก็แอบรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยที่โดนกักไว้อยู่กับที่ก็เถอะ แต่ก็…อ้อมกอดของเคียร่ามันอบอุ่นและสบายมาก จนในที่สุดฉันก็นอนหลับอย่างสงบไปโดยที่อยู่ข้างกายเธอ ได้
และถึงแม้ฉันจะโตแล้วก็ …
“กรร…”
“หืม มีอะไรเหรอริเกล”
ในช่วงพักเที่ยงที่เงียบสงบ เคียร่ากำลังนั่งลงกับพื้นและใช้หลังพิงร่างของฉันพลางอ่านหนังสือในมือ เธอถามแบบนั้นออกมาด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ฉันขดตัวเอาจมูกเข้าไปชนหนังสือเบา ๆ
ง่วงอ่า เวลาแบบนี้มันเหมาะกับการนอนกลางวันจริง ๆ นั่นแหละ ฉันทำหน้าตาง่วงมองไปที่เคียร่าแล้วอ้าปากหาว เธอจึงหัวเราะคิกคักเล็กน้อยก่อนที่จะพับหนังสือไว้แล้ววางข้างกาย
ก่อนจะยกมือทั้งของข้างขึ้นมากอดปลายจมูก แล้วทิ้งตัวลงนอนพิงกับตัวของฉันเช่นกัน
“ง่วงเหรอ…งั้นมางีบกันสักหน่อยแหละเนอะ”
แล้วเราสองคนก็ใช้หน้าถูกันพักใหญ่แล้วเคียร่าก็นอนอยู่ข้างลำตัว ฉันจึงเอาหัวลงไปพาดตัวเธอเล็กน้อยพอให้เคียร่าไม่รู้สึกอึดอัด แล้วใช้หางโอบล้อมพวกเราเอาไว้ ปีกก็กางออกปกคลุมเป็นการบังแดด…นี่เป็นวิธีที่พวกเราจะใช้กอดกัน แม้ว่าร่างกายจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม
—————– —————-
ร่างกายของอิกนิสนั้นอบอุ่น ในตอนที่เดินทางกับกองคาราวานเราต้องนอนกลางแจ้งบ่อย ๆ เพราะงั้นถึงได้ชอบนอนกอดคอเขาแล้วนอนทั้งแบบนั้น บางทีถ้าอากาศหนาวก็จะอุ้มขึ้นมากอดเอาไว้ให้อุ่น เจ้าตัวเองก็ดูเหมือนจะชอบเหมือนกันจนบางครั้งก็พยายามใช้ขาหน้ามากอด
ในตอนที่ตัวใหญ่ขึ้นนี่ลำบากมากเลยล่ะ เพราะเจ้าตัวยังติดนิสัยกระโดดกอดอยู่ ทำให้โดนล้มทับบ่อย ๆ บางทีก็ถึงขั้นได้แผล แต่ก็ดุไม่ลง…เล่นจ้องด้วยหน้าที่ใส่หน้ากากหัวกะโหลก แถมยังนิ่งเงียบแล้วเอียงคอด้วยความน่ารักแบบนั้น ใครจะไปดุได้กัน
สุดท้ายก็เลยเป็นอยู่แบบนั้นเรื่อยไปแม้ว่าจะเดินทางกันแค่สองคนก็ตาม ตอนนอนก็จะกอดคอเขานอน เวลาเดินก็มีโดนโดดกอดบ้าง เป็นวันวานแบบนั้นจนกระทั่ง…
“โว้ว! นี่อิกนิสเป็นแบบนี้ตลอดเลยรึไง”
“ฮะ ๆ หมอนั่นคงเริ่มชอบใจนายแล้วล่ะ ถึงได้โดดกอดแบบนั้น”
ฉันหัวเราะให้กับท่าทางไม่คุ้นชินของโบลที่โดนอิกนิสกระโดดกอด แต่เจ้าตัวต่างจากฉันหน่อยเพราะว่ามีแรงพอที่จะดันไม่ให้ตัวเองล้มลงกับพื้น สมแล้วที่เป็นผู้ชายตัวใหญ่ เพราะงั้นถึงพึ่งพาได้มากเลยล่ะ
“กรร!!”
อิกนิสร้องออกมาเสียงดังอย่างร่าเริงเป็นการแสดงความรักของเจ้าตัว พร้อมทั้งยกขาหน้าเข้ากอดอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนคนที่ได้รับความรักนั่นจะไม่ดีใจเลยแม้แต่น้อย
“อย่านะเว้ย! ถึงฉันจะแรงเยอะขนาดไหน แต่รับตัวมังกรขนาดนี้ไม่ไหวหรอก”
ว่าจบ เขาก็ออกแรงดันตัวอิกนิสให้หลบไปด้านข้าง เจ้าตัวที่โดนบอกปัดเลยทำท่าหงอยแล้วนั่งมองแบบเศร้า ๆ แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นคนมีอายุพอควรของโบล เขาไม่ใจอ่อนต่อนิสัยที่เป็นเด็กแบบนั้นแม้แต่น้อย แล้วยืนกอดอกมองพวกเราด้วยสีหน้าเข้มงวด…เอ๊ะ นี่ฉันก็โดนด้วยเหรอ?
“ฟังนะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเมื่อก่อนเป็นยังไง ทำไมถึงติดนิสัยแบบนี้กันมา แต่ทำแบบนี้มันอันตรายนะเข้าใจไหม ยิ่งกับแฟร์ที่ตัวเล็กนิดเดียวถ้าได้แผลใหญ่ขึ้นมาล่ะจะทำยังไง”
“…แค่นิดหน่อยเองน่า โบลนี่ขี้บ่นชะมัด”
“กรร…”
เมื่อฉันและอิกนิสพูดพร้อมยื่นปากอย่างไม่พอใจ ก็โดนกำปั้นของโบลเข้าที่กลางหัว แล้วก็โดนว่าอีกยาวเหยียด…
“อย่างอิกนิสถ้าอยากจะกอดกันน่ะ…แค่นี้ก็พอแล้ว”
พูดจบ เขาก็จับหางของอิกนิสกะทันหัน จนเจ้าตัวสะดุ้งโหยงทันที แต่โบลก็ไม่สนใจแล้วชูหางที่ยาวและนุ่มฟูของอิกนิสขึ้นมา
“เอ้า นี่”
จากนั้นก็โยนมันมาไว้ตรงหน้าฉันจนเผลอแบมือรับไว้ตามความรู้สึก หลังจากมองหน้ากันกับอิกนิสสักพักใหญ่ ๆ ว่าหมายความว่าอะไร หางของอิกนิสก็ขยับอีกครั้งแล้วมาม้วนตัวฉันเอาไว้หลวมๆ พร้อมทั้งเอียงคอด้วยความสงสัย
อะ นี่มัน…
“อุ่นจังแฮะ…”
ตอนนี้หางของอิกนิสที่ม้วนราวกับเป็นผ้าพันคอผืนใหญ่นั้นมอบความอบอุ่นจนรู้สึกเคลิ้ม เจ้าตัวที่เห็นแบบนั้นก็ตาเป็นประกายแล้วร้องออกมาเสียงดังจนต้องปิดหู แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวกำลังดีใจอยู่ ก่อนจะเอาหน้าที่เป็นกระดูกเข้ามาชนและถูกแก้มฉันเพื่อออดอ้อน
หลังจากนั้นมา เวลาที่อิกนิสอย่าจะอ้อนหรือกอดใครก็จะเอาหางมาม้วนตัวไว้เหมือนผ้าพันคอ แล้วส่งเสียงร้องอย่างร่าเริงเป็นเอกลักษณ์ออกมา ถึงถ้าทำกลางเมืองจะดูน่าอายไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็…เป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่สำคัญสำหรับพวกเราล่ะนะ
———————– —————-
(มุมนักเขียน)
หลังจากที่คิดว่าจะเว้นช่วงสักแป๊บนึงอาจจะลงช้าไปอีกสักพัก ใน RAW ก็ประกาศกิจกรรมใหม่ให้เขียนนิยายตามธีมมา
อะ- ไอ้หมอนี่!! แกรู้ว่าฉันกำลังจะอู้เรอะ!! //จิตวิญญาณสายสะสมของลิมิตมันลุกโชน
สุดท้ายก็เลยหยิบขึ้นมาเขียนปั่นตามกิจกรรม…นั่นแหละค่ะ ในเดือนนี้คงมีตอนพิเศษออกมา 4 ตอน เป็นสั้นๆ แบบนี้แหละค่ะ (ฮา) จบไปแล้วกับธีมแรก “อ้อมกอด” เจอกันตอนต่อไป “ความลับ” นะคะ~