Astral Pet Store ตอนที่910

　　ชายที่ถูกซูผิงเบียดออกจากสิบอันดับแรก—ซึ่งปัจจุบันจับอยู่ขั้นที่ 159—กำลังมองแผ่นหลังของซูผิงด้วยความโกรธ
ที่สิบและสิบเอ็ดนั้นใกล้เคียงกันมาก แต่รางวัลแตกต่างกันอย่างมาก!
แต่ในไม่ช้า เขาก็เห็นว่าซูผิงไล่ตามที่เก้าซึ่งอยู่บันไดขั้นที่ 163 ทัน โดยใช้เวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น
“เร็วมาก!”
รูม่านตาของชายหนุ่มหรี่เล็ก และในที่สุดเขาก็ค่อยๆโมโหน้อยลง แม้ว่าจะยังโมโหอยู่ แต่เขารู้ว่าเขาต้องโทษตัวเองที่แข็งแกร่งไม่พอ
ชายหนุ่มที่จับที่ 163 ก็ตกใจเช่นกันเมื่อเห็นซูผิงผ่านหน้าเขาไป การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปหลังจากจำซูผิงได้ ซูผิงได้ทิ้งความประทับใจไว้ลึก ๆ ให้กับเขา เนื่องจากเขาได้ปกป้องเพื่อนร่วมแข่งขันหลายคนในการต่อสู้ครั้งก่อน
อย่างไรก็ตามอะไรทำให้ผู้ชายคนนี้ใช้เวลานานมากขนาดนี้กว่าจะแซงหน้าฉัน
ซูผิงยังคงปีนต่อไปโดยไม่หันหลังกลับ การโจมตีนั้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้นหลังจากที่จับที่ 160 เขาต้องพยายามอย่างเต็มที่ก่อนที่จะผสานกับอสูรของเขา..
นั่นเป็นวิธีเดียวที่เขาสามารถรักษาความเร็วแบบนี้ได้
ปัง!
มังกรกระดูกที่สร้างจากกฎคำรามและโฉบเข้ามาใกล้ กระดูกของมันมีกฏลึกซึ้ง อสูรร้ายนี้ถูกสร้างขึ้นโดยกฎที่ลึกล้ำหลายสิบข้อ
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาพลังดวงดาวของซูผิงก็เปล่งแสงสีทองออกมา จากนั้นเขาก็ฟันมังกรกระดูกออกจากกัน
ซูผิงปีนขึ้นไปอีกครั้ง
เหล่าอัจฉริยะที่ถึงขีดจำกัดแล้วหยุดปีนเขา ณ จุดนั้น พวกเขามองชายว่องไวที่อยู่ด้านบน ตกใจเกินกว่าจะพูดอะไร
ซูผิงใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงในการกระโดดจากที่จับที่ 110 ไปที่ 160
เขายังคงเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง ผ่านแต่ละที่จับในเวลาเพียงสองสามนาที!
เขาไม่หยุดชะงักแม้แต่น้อย!
หนึ่งชั่วโมงต่อมา-
ซูผิงมาถึงที่จับที่ 180 แล้ว ตอนนี้เขาอยู่ในอันดับที่สอง รองจากชายหนุ่มที่มีร่างเทพซึ่งขณะนี้อยู่ในที่จับที่ 199
อันดับสองและสามในตอนแรกแต่ตอนนี้อยู่ต่ำกว่าซูผิงมองเขาด้วยความตกใจ
ซูผิงยังคงเร็วจนน่าตกใจหลังจากผ่านที่จับที่ 180 ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ที่นิ่งอยู่เป็นเวลานาน ซูผิงใช้เวลาสามถึงห้านาทีในแต่ละทีจั่บ
“ท่านลอร์ด เขาได้อันดับสองแล้ว!”
“นี่โคตรน่าเหลือเชื่อเลย มันนานแค่ไหนแล้ว? สองชั่วโมง?”
“เหลือเวลาอีกสามชั่วโมง เมื่อพิจารณาถึงความเร็วของเขาแล้ว เขาจะไปถึงจุดสูงสุดได้จริงไหม?”
“น่าเสียดาย สามชั่วโมงยังน้อยไป เขาช้าลง มันจะยากสำหรับเขาที่จะไล่ตามเด็กคนนัเน”
“ช่างเป็นสัตว์ประหลาด เขาจะเป็นที่หนึ่งถ้าเขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแบบนี้ตั้งแต่แรก”
“ตอนนี้มันไร้ประโยชน์ เขาไม่สามารถอยู่ที่จุดสูงสุดได้”
บนระเบียงต่างร้อนรน สภาวะเทพดวงดาวจำนวนมากตกใจกับความเร็วสูงของซูผิง ความคิดเห็นที่ไม่เป็นทางการของพวกเขากลายเป็นการอภิปรายที่ร้อนแรง หลายคนหวังว่าซูผิงจะไปถึงจุดสูงสุดได้
บางทีเด็กนั่นอาจสร้างปาฏิหาริย์ได้จริงๆ!
อย่างไรก็ตาม หลายคนรู้สึกเสียใจกับซูผิงเมื่อคิดว่าเขาคงได้เป็นแชมป์ถ้าไม่มีชายหนุ่มที่มีร่างเทพ
เขาคงทำให้หลายคนประหลาดใจ
อย่างไรก็ตาม เขาถูกกำหนดให้ถูกบดบังโดยบุคคลที่มีความสามารถมากกว่า
นั่นคือความน่ากลัวและเสน่ห์ของการดำรงอยู่อันเจิดจ้าที่เรียกว่าจักรวาล มีความอัศจรรย์เหนือจินตนาการอยู่เสมอ
“ตอนนี้เขาเป็นที่สองแล้ว!”
ไคโรก็ตกใจเช่นกัน ตกใจจากความแข็งแกร่งที่ซูผิงปลดปล่อยออกมา จากตกใจแล้วกลายเป็นความตื่นเต้น ไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะขึ้นไปสูงสุดได้หรือไม่ อันดับที่สองก็เพียงพอแล้วที่จะคุยโว แม้แต่ท่านไฮถัวก็ไม่มีทางคาดถึงว่าจะมีอัจฉริยะอย่างนี้ในกาแล็กซี่ของเขาได้!
เขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าฉันด้วยซ้ำถ้าเขาขึ้นสู่สภาวะเทพดวงดาว! ไคโรรู้สึกยินดีกับความคิดนี้
ความไม่พอใจของเขาต่อความเย่อหยิ่งของซูผิงหายไปแล้ว คนที่แข็งแกร่งอย่างเขาควรจะภาคภูมิใจ เขาจะเอาแต่ใจมากกว่านี้ก็ยังได้
ซูผิงปีนได้ไกลกว่าที่จับที่ 180 ในขณะนี้
เขาช้าลง ใช้เวลาสิบนาทีในการแต่ละที่จับ
การโจมตีที่เขาต้องแบกรับนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาเปล่งประกายราวกับเทพอยู่เหรือหัวของทุกคน เขายังกระตุ้นความก้าวร้าวของภาพร่างดวงดาวในร่างกายของเขาอย่างเต็มที่ ปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดด้วยพลังดวงดาวทั้งหมดของเขา
ทำลาย! ทำลาย! ทำลาย!
ซูผิงทำลายสิ่งกีดขวางและดูดซับกฎที่กระจัดกระจาย ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเขาย่อยพวกมัน
ซูผิงพบว่าการต่อสู้ยากขึ้นอีกหลังจากผ่านที่จับที่ 185
เมื่อคำนวณเวลาที่เหลือแล้ว ซูผิงจึงเลือกที่จะเรียกมังกรเพลิงนรกและผสานเข้ากับมัน
โฮกก!
มังกรเพลิงนรกคำรามและบินเข้าไปในร่างของซูผิง น่าแปลกที่คราวนี้ไม่สามารถมองเห็นอสูรได้
อย่างไรก็ตามซูผิงแข็งแกร่งขึ้นมาก ร่างกายของเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน มีเกล็ดและเขางอกออกมา
“เขาผสานกับอสูรของเขา!”
นักปีนเขาที่อยู่ข้างหลังเขาตะลึง ตาเบิกกว้าง
ซูผิงปีนเขาเร็วมากจนหลายคนไม่ทันตระหนักถึงข้อนี้ ซูผิงถึงที่จับที่ 185 ด้วยความแข็งแกร่งของเขาเองหรอ?
“เขาเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ”
ผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ข้างหลังเขาหมดคำพูด พวกเขาผสานกับอสูรตอนใกล้ถึงขีดจำกัด และใช้ความสามารถทั้งหมดแล้ว แต่ซูผิงยังคงซ่อนความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา
พลังของซูผิงเพิ่มมากขึ้นหลังจากการผสาน และการควบคุมกฎของเขาก็แม่นยำยิ่งขึ้น ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นและใช้เวลาในแต่ละที่จับอยู่ที่สามนาที
สิบห้านาทีต่อมา—เขาไปถึงที่จับที่ 190
ซูผิงพบทันทีว่าแรงกดดันนั้นมากกว่าเมื่อก่อนมากเมื่อเขามาถึงจุดนี้ อากาศที่รุนแรงแพร่กระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง
กฎที่กระจัดกระจายดูเหมือนจะเป็นกฏที่สมบูรณ์
ซูผิงหรี่ตาลง เขาเห็นเงาที่ดูเหมือนภาพสะท้อนของตัวเอง ยืนอยู่ในความว่างเปล่าแต่รู้สึกไร้ชีวิตชีวา
เงายกมือขึ้น ดาบเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวนับไม่ถ้วนฟาดใส่เขา ทำให้มิติลุกเป็นไฟ
วิถีแห่งไฟที่สมบูรณ์? Aileen-novel
ซูผิงตกใจมากหลังจากสังเกตเห็นการโจมตีของที่จับที่ 190
พลังดังกล่าวเปรียบได้กับเจ้าดวงดาว เพียงแต่ขาดพลังแห่งศรัทธา
อย่างไรก็ตามมันยังไร้ที่ติแม้จะขาดพลังแห่งศรัทธา
“โครงกระดูกน้อย” ซูผิงกล่าวเพื่อเรียกโครงกระดูกน้อยและผสานเข้ากับมัน
ปัง!
รัศมีของเขาพัฒนาอย่างมาก ร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดของเขาเสริมด้วยกระดูก เขาเร่งความเร็วและฟันดาบไปข้างหน้ากะทันหัน
คมดาบอันวาววับสามารถตัดความว่างเปล่าออกจากกันได้เช่นเดียวกับเงา
ซูผิงสร้างมือลวงตาขึ้นด้วยพลังดวงดาวและเก็บพลังงานใส่ร่างกาย จากนั้นเขาก็ปีนต่อ
ฉากดังกล่าวทำให้สภาวะเทพดวงดาวและผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ตกอยู่ในอาการมึนงง
ความเร็วของซูผิงเพิ่มขึ้นในที่จับที่ 190?
เขาใช้เวลาสองสามนาทีก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เขาใช้เวลาแค่หนึ่งนาที?
หวืด! หวืด!
ซูผิงพุ่งเข้าชนไม่หยุดราวกับเสือโคร่งดุร้าย ราวกับว่าเขากำลังตรงไปยังยอดภูเขาวิถีสวรรค์
“เขาแข็งแกร่งมาก!”
“เขามีร่างเทพหนึ่งในเก้าหรือเปล่า?”
“เขาคงใช้เทคนิคลับบางอย่างที่มีผลข้างเคียง ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รอจนกว่าจะถึงที่จับที่ 190” ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวคาดเดา
หลายคนเห็นด้วยกับเขา
ซูผิงคงจะใช้มันไปนานแล้วถ้ามันเป็นวิธีปกติ
“เขาคงจะไม่ขึ้นไปสูงสุดหรอกใช่ไหม??”
“สัตว์ประหลาดที่แม้แต่ร่างเทพกลับชาติมาเกิดก็ไม่สามารถเอาชนะได้? น่าเหลือเชื่อมาก”
ซูผิงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้สภาวะเทพดวงดาวประหลาดใจ ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากชายหนุ่มที่มีร่างเทพเพียงสี่ที่จับเท่านั้น
ทุกคนรู้สึกหายใจไม่ออกจากความเร็วที่น่าประทับใจของเขา
หลิงหู่เจี้ยนและคนอื่นๆ ที่ตามหลังต่างตกตะลึงจนเกือบช็อก
ซูจินเอ๋อก็ตกตะลึงเช่นกัน ดวงตาที่แสนเย้ายวนของเธอเปล่งประกายความประหลาดใจ
”ฮะ?”
ชายหนุ่มที่มีร่างเทพ—ซึ่งขณะนี้อยู่ในที่จับที่ 199—รู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่มาจากด้านหลัง เขาหันไปมองและเห็นซูผิง
เขาตามมาทันจริงๆ
”น่าสนใจ”
ชายหนุ่มเริ่มเคร่งขรึม แต่ในไม่ช้าความอยากแข่งขันของเขาก็ถูกกระตุ้น เขารู้ว่าที่จับที่ 195 นั้นยากเพียงใด มันเกินความคาดหมายของเขาที่ซูผิงจะมาถึงตรงนั้นได้ การพึ่งพากายาเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะไปถึงที่นั่น เทคนิคลับและอสูรของเขาจะต้องดีที่สุดเช่นกัน
เขาเกิดมาพร้อมกับร่างเทพที่ไม่ธรรมดา และเขามีพรสวรรค์มากในการบ่มเพาะ เขาเข้าใจทุกเทคนิคที่เขาเห็นอย่างรวดเร็ว เชี่ยวชาญกฎในขณะที่อยู่แค่สภาวะสมุทร!
เขาสามารถต่อสู้กับยอดฝีมือระดับดวงดาวขั้นแรกได้ทั้งที่อยู่แค่สภาวะสมุทร!
เขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างน่ากลัวทันทีที่เขาไปถึงสภาวะชะตากรรม ดูเหมือนว่าระดับของเขาแทบจะไม่สามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้อีก
แต่ทั้งที่เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ แต่เขากลับอยู่เหนือซูผิงแค่สี่ที่จับ?
เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับตัวคู่แข่งของเขา
ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนสีหน้าอีกครั้งและก้มลง เนื่องจากซูผิงปีนขึ้นมาจนไปถึงที่จับที่ 196
ห่างกันเพียงสามที่จับ
“ยังจำเดิมพันของเราได้ไหม?”
ซูผิงสัมผัสได้ถึงบางสิ่งและเงยหน้าขึ้นหัวเราะ
ชายหนุ่มที่มีร่างเทพเปลี่ยนการแสดงออกอีกครั้ง เขาแค่เดิมพันเพราะเขาไม่คิดว่าซูผิงจะตามเขาทัน ซูผิงอยู่ห่างเขาเพียงสามที่จับในขณะนี้ เขารู้ว่าเขาไม่สามารถวิ่งไปที่ที่จับที่ 206 และทิ้งเขาไว้ข้างหลังได้
เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้เป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่เขายอมรับการเดิมพันง่ายๆนี้ด้วยหรอ?
“ตามให้ทันถ้าทำได้!” ชายหนุ่มที่มีร่างเทพกล่าวด้วยท่าทางมืดมน
ซูผิงยิ้ม “ฉันตามทันแล้ว นายไม่ได้บอกว่านายจะยอมรับความพ่ายแพ้ถ้าฉันตามทันภายในสิบที่จับหรอกหรอ?
ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ “นายจริงจังกับเรื่องนี้ด้วยหรอ?”
”ใช่”
”นาย…”
”ทำไม? อยากกลับคำหรอ?”
“เป็นไปไม่ได้!”
ชายหนุ่มขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและพูดว่า “ฉันจะยอมรับความพ่ายแพ้หากฉันไม่สามารถทิ้งนายไว้ข้างหลัง แต่เกมยังไม่จบ อย่าพึ่งมั่นใจเร็วนัก!”
ซูผิงหัวเราะคิกคักและพูดว่า “นายควรจะพูดแบบนั้นกับตัวเอง”
“…”
ชายหนุ่มกัดฟันแน่น เขาเพิกเฉยต่อซูผิงและระบายความโกรธกับสัตว์ประหลาดที่เขาเผชิญหน้าอยู่
ซูผิงยิ้มและปีนต่อไป
เขาชะลอตัวลงแม้ว่าจะผสานคู่ การโจมตีด้วยวิถีที่สมบูรณ์นั้นยากต่อการจัดาร
สิบนาทีต่อมา—ซูผิงปีนขึ้นไปที่จับที่ 197
อีก 20 นาทีต่อมา ซูผิงก็มาถึงที่จับที่ 198
เขาเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ห่างจากชายหนุ่มที่มีร่างเทพ เขาจึงทักทายว่า “สวัสดี!”
ชายหนุ่มตกใจเมื่อได้ยินคำทักทายนั้น ซูผิงอยู่ข้างหลังเขาเพียงไม่กี่เมตร เขามองย้อนกลับไปและถามซูผิงด้วยความตกใจ “นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เมื่อกี้” ซูผิงตอบด้วยรอยยิ้ม
“…”
ชายหนุ่มตกตะลึง เขาจำได้ว่าซูผิงอยู่ที่ที่จับที่ 196 เมื่อไม่นานมานี้ ถึงกระนั้นผู้ชายคนนี้จะตามเขาทันอยู่แล้ว
เขายังอ้อยอิ่งอยู่ในที่จับที่ 198 เป็นเวลานาน มันไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะผ่านไป
“ฉันจะแซงหน้านายในไม่ช้าถ้านายยังไม่รีบ” ซูผิงล้อด้วยรอยยิ้ม
ชายหนุ่มแสดงอาการระแวดระวังในสายตา ในสายตามีแต่ความไม่พอใจและประกาศว่า “นายต้องการที่จะเหนือกว่าฉัน? ฝันไปเถอะ! ตลอดชีวิตนี้ไม่มีใครแซงหน้าฉันได้! นายกำลังบังคับให้ฉันอย่างนี้เอง!”
จากนั้นเขาก็เมินซูผิง และให้ความสนใจกับการต่อสู้
ถ้าใครสังเกตเห็นรูม่านตาของเขาดีๆ จะพบว่าดวงตาของเขาดูเหมือนจะกลายเป็นหลุมดำ มันเป็นเทคนิคลับที่เกี่ยวข้องกับการกลับชาติมาเกิดของเขา
ซูผิงยิ้มและปีนขึ้นไป
คราวนี้เขาใช้พลังของสนามพลัง เขาพบว่าสนามพลังเป็นพลังงานลึกลับ สมาพันธ์บันทึกไว้อย่างถูกต้องว่าเป็นการกระชับจิตใจ แต่ซูผิงสังเกตว่าพวกมันลึกลับกว่านั้น
ไม่นานหลังจากนั้น ซูผิงมาถึงที่จับที่ 199 และอยู่ขนานกับชายหนุ่มที่มีร่างเทพ
ซูผิงกำลังเผชิญกับการโจมตีที่คล้ายกัน ซึ่งเป็นการโจมตีจากปีศาจที่มีกฎสองข้อที่ต่อต้านกัน
กฎของซูผิงพังทลายลงและถูกระงับทันทีที่การโจมตีปะทะกัน
จากนั้นเขาก็มุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้กับปีศาจ
ครั้งแรกที่เขาพยายามละลายพลังของกฎลงในสนามพลังเพื่อสร้างสนามแห่งกฎ น่าเสียดายที่ความพยายามของเขาล้มเหลว เขาทำได้เพียงต่อสู้กับปีศาจอย่างโหดเหี้ยม
ซูผิงรู้สึกมืดมนเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเขาไม่สามารถกำจัดศัตรูได้หลังจากเวลาผ่านไปนาน เขาไม่ได้เก็บพลังอีกต่อไป เลือดเทพของเขาเดือด จากนั้นเก็กระตุ้นกายอีกาทองคำ