หนานกงเยี่ยผลักประตูเข้าไป ก็เห็นสีหน้าที่อยู่ไม่เป็นสุขของงเหลิ่งรั่วปิง
หึ เธอกลับมีสีหน้าอยู่ไม่เป็นสุขได้ ถ้าเขาจำไม่ผิด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอแสดงสีหน้าแบบนี้ออกมา นอกจากเมื่อคืนที่เธอแสดงท่าทางในการต่อสู้กับคนร้ายอย่างบ้าคลั่งแล้ว เธอยังคงความเงียบและความสง่าไว้ เธอเคยแสดงสีหน้าที่วิตกกังวลขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ผู้หญิงคนนี้แสดงละครเก่งจริงๆ!
หนานกงเยี่ยมองเธออยู่เงียบๆ ไปไม่กี่วิ จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นช้าๆ แล้วเล็งปากกระบอกปื้นไปที่เธอ
นิ้วมือขวาของเหลิ่งรั่วปิงขยับขึ้นเล็กน้อย เธอสามารถคว้ามีดผลไม้ที่อยู่บนโต๊ะได้ตลอดเวลา แต่ถ้าเทียบกับความเร็วของกระสุน เธอสามารถสัมผัสได้ถึงความอาฆาตของเขา
“คุณหนานกง คุณจะฆ่าฉัน?” เหลิ่งรั่วปิงพยายามตั้งสติ
“ทำไมผมถึงต้องเก็บคนที่เป็นอันตรายอยู่ข้างผมล่ะ?” นี่เป็นครั้งแรกที่หนานกงเยี่ยเจรจากับคนที่เป็นอันตรายกับเขา ที่ผ่านมาเขามักจะยิงโดยไม่ลังเล
“แม้กระทั่งโอกาสอธิบายคุณยังไม่ให้?”
หนานกงเยี่ยหรี่ตาลงเล็กน้อย และขยับนิ้วโป้งไปแตะกลอนยึดห้ามไก “เห็นแก่คุณที่อยู่กับผมมาหนึ่งเดือนกว่าๆ ผมจะให้โอกาสคุณ ว่ามา คุณเป็นใครกันแน่” จริงๆ การที่เขาตัดสินใจแบบนี้ แม้กระทั่งเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้
เหลิ่งรั่วปิงจับจ้องปากกระบอกปืนเอาไว้อย่างไม่คลาดสายตา เอาเปิดกลอนยึดห้ามไกไว้แล้ว และสามารถยิงกระสุนออกมาได้ตลอดเวลา ความหมายของเขาชัดเจนมาก เธอต้องตอบกลับอย่างระวัง ถ้าเกิดคำตอบของเธอไม่ได้ทำให้เขารู้สึกพอใจ งั้นเขาก็คงจะยิงปืนอย่างไม่ลังเล
“คุณหนานกงสงสัยในตัวตนของดิฉัน กลัวว่าดิฉันจะเป็นอันตรายต่อคุณ? คุณคิดมากเกินไปแล้ว ฉันคือเหลิ่งรั่วปิงที่ต้องการขอความช่วยเหลือจากคุณ ไม่ได้เป็นอันตรายกับคุณ”
“… หนานกงเยี่ยหรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นก็รอให้เธอพูดต่อ
“ฉันพอจะสามารถต่อสู้นิดหน่อยเท่านั้น ฉันฝึกมาจากสถานีตำรวจ ตอนที่ฉันเกิดมา แม่ของฉันก็เสีย ตอนที่ฉันอายุสิบเจ็ด พ่อของฉันก็เสียตามไป ฉันอยู่ตัวคนเดียว เลยต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองไปด้วยและเรียนหนังสือไปด้วย เพราะฉันถือว่าเกิดมาหน้าตาดี เลยถูกพวกโรคจิตตามรังควานอยู่บ่อยๆ เพื่อที่จะรักษาร่างกายที่บริสุทธิ์ ฉันเลยต้องกลายเป็นสายลับของสถานีตำรวจ และเงื่อนไขก็คือ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอนวิชาการป้องกันตัวให้กับฉัน”
“…” สีหน้าที่หนานกงเยี่ยไม่แปรเปลี่ยน ทว่าแค่เขาเองที่รู้ว่าเขาใจของตนเองรู้สึกหวั่นไหวแค่ไหน แม้กระทั่งยังรู้สึกเจ็บปวดใจเล็กน้อย เธอสวยขนาดนี้ กลับต้องใช้ชีวิตคนเดียวและไม่มีที่พึ่ง เธอสามารถรักษาความบริสุทธิ์ของร่างกายถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“ฉันรู้ว่าฉันไม่มีที่พึ่ง ฉันเลยต้องทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่เข้มแข็ง ดังนั้นตอนที่ฉันเรียนหนังสือ ฉันก็พยายามและตั้งใจมาก ฉะนั้น คนถึงจะรู้สึกว่าฉันก็เป็นคนที่มีความสามารถ” เหลิ่งรั่วปิงหยุดชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นก็มองหนานกงเยี่ยด้วยความคาดหวัง แต่มือขวาของเธอกลับเกร็งอยู่ตลอดเวลา และได้เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้อยู่ตลอดเวลา
“…” หนานกงเยี่ยเม้มปาก ปากกระบอกปืนยังคงเล็งเธอไว้ “ไหนๆ คุณให้ความสำคัญกับการรักษาความบริสุทธิ์ของร่างกาย แล้วทำไมถึงต้องมายุ่งเกี่ยวกับผม”
“เพื่อตามล่าความฝัน เพื่อความปรารถนากพ่อ ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต เขาอยากให้ฉันกลายเป็นนักสถาปนิกที่มีความสามารถ ดังนั้นฉันเลยจำเป็นต้องมาเมืองหลง แล้วยอมเสี่ยงที่จะเข้าไปเป็นหนึ่งในพนักงานของบริษัทชั้นนำของโลก นั่นก็คือบริษัทหนานกง เพื่อความฝันของฉัน ฉันจึงต้องเสียบริสุทธิ์ ฉันสามารถยอมรับได้ และยังมีอีกอย่างหนึ่ง ฉันยินดีที่เสียบริสุทธิ์ให้กับผู้ชายที่มีเสน่ห์อย่างคุณหนานกง ฉันรู้สึกว่าฉันไม่เสียเปรียบเลยสักนิด” คำพูดของเหลิ่งรั่วปิงไม่ได้ฟังดูแปลกประหลาดเลยสักนิด และเธอยังไม่ลืมที่จะชื่นชมหนานกงเยี่ย
ทว่าหนานกงเยี่ยไม่ใช่ผู้ชายที่ยอมใจอ่อนง่ายๆ เพราะว่าผู้หญิงมาถวายตัวให้เขา เขาเย็นชา ฉลาดหลักแหลม เขาไม่มีทางล้มเลิกความคิดก่อนหน้านี้ เพียงคำพูดไม่กี่คำของเหลิ่งรั่วปิงเท่านั้น
ทันใดนั้น ต่อให้เขารู้สึกหวั่นไหว ทว่าเขายังคงใช้ปืนเล็งเหลิ่งรั่วปิงไว้ น้ำเสียงเย็นชามาก “คุณรู้สึกว่าแค่คำพูดไม่กี่คำพวกนี้ของคุณ ผมจะเปลี่ยนความคิดที่จะฆ่าคุณหรอ”
Related