The Soul Purchasing Pirate บทที่269:ถล่มตระกูลไอนซ์แบร์น!
S.P.P: บทที่ 269: ถล่มตระกูลไอนซ์แบร์น!
เสียงของนิวเรย์นั้นเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อและดูเหมือนว่าเขาเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนตรงหน้าจะกล้าทําแบบนี้กับเขา
แต่ในตอนนั้นเองเธอก็ได้ตบลงมาที่เขาอีกครั้ง
“เพี้ยะ!”
เสียงตบได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณมันคือคนที่เลวร้ายที่สุด!”
อิลยาได้ยืนขึ้นมาอย่างช้าๆพร้อมกับดวงตาที่สั่นเครือและน้ําตาที่ไหลรินออกมา
ไม่ว่าจะเป็นใครถ้าได้ประสบแบบเดียวกันกับเธอก็คงจะทําแบบนี้เหมือนกัน
สําหรับอิลยานั้นทุกสิ่งที่เธอได้ประสบพบเจอมาตลอดนั่นมันเหมือนกับฝันร้าย
แม่ของเธอนั้นถูกตัดสินโทษประหารโดยพ่อผู้ให้กําเนิดและในตอนที่เธอโตขึ้นมาอีกฝ่ายก็เอาเธอไปขายให้กับคนอื่น
คนแบบนี้หน่ะไม่สามารถสรรหาอะไรมาเปรียบเทียบกับความเลวร้ายของเขาได้เลยแม้แต่น้อย!
“เจ้านายตัวน้อย,ปล่อยให้พวกเราจัดการกับสารเลวนี่เองดีกว่า”
เสียงของเจสันนั้นอ่อนโยนมากเขาได้ดึงอิลยากลับมาพร้อมกับหันกลับมามองที่นิวเรย์ด้วยสายตาที่เย็ชาและกล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงที่เย็นชาว่า
“สารเลวอย่างแกหน่ะความตายมันยังน้อยไป”
“บูมม!”
โจรสลัดนั้นไม่เคยเป็นมิตรและมีจิตใจที่ดีงามอยู่แล้วในสายตาของคนทั้งโลกพวกเขานั่นคือตัวแทนของความโหดร้ายและความเลือดเย็น!
ในตอนนี้เจสัน,คล็อกโคไดล์,และเทรนซุนั้นกําลังแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เรียกว่าโจรสลัด
“อ้ากก
เสียงกรีดร้องได้ดังขึ้นมาพร้อมกับเลือดที่ไหลรินออกมาจนทั่วพื้นจนกลายเป็นแอ่งน้ําเล็กๆ
ร่างของนิวเรย์นั้นกําลังถูกกดลงไปบนพื้นแขนและขาของเขานั้นกําลังจะแหลกละเอียดและ นอกจากแขนและขาของเขาแล้วก็ยังมีกระดูกอีกเป็นจํานวนมากในร่างกายของเขาที่กําลังแตกร้าว
คนพวกนี้ไม่คิดที่จะปราณีเขาแม้แต่น้อยดูเหมือนว่พวกเขาต้องการที่จะให้เขานอนอยู่บนเตียงไปตลอดชีวิต
นิวเรย์นั้นเกือยจะสลบไปแล้วจากความเจ็บปวดที่ได้รับ
“ไอ้พวกสารเลว!”
“ฉันไม่ปล่อยพวกแกไปแน่!”
เขาได้เปิดปากที่เต็มไปด้วยเลือดและกล่าวออกมา
เขานั้นได้จดจําใบหน้าของพวกเจสันเอาไว้แล้ว เขาสาบานเลยว่าตราบใดที่เขายังไม่ตายเขาจะต้องแก้แค้นอีกฝ่ายให้ได้
“ไปกันเถอะ!”
เมื่อพวกเขาจัดการเสร็จแล้วพวกเขาก็ได้เตรียมตัวที่จะจากไปในทันที
ในเวลาเดียวกันนั้นเองในตอนนี้รอบวังของตระกูลไอนซ์แบร์นนั้นได้ถูกล้อมรอบเอาไว้ด้วยพวกชายชุดดําเป็นจํานวนมาก
“ พร้อมหรือยัง?”
ชายชุดดําวัยกลางคนได้กล่าวถามออกมาเสียงดัง
“ทุกคนพร้อมแล้วครับ!”
ชายวัยกลางคนได้พยักหน้าด้วยความพอใจ
“พวกนายไม่จําเป็นต้องเข้าไปเพียงแค่โจมตีอยู่ตรงนี้ก็พอ”
เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชานั้นต่างก็รู้สึกลังเล
“โจมตีเข้าไปตรงๆเลยงั้นหรอครับ?”
* ใช่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตระกูลไอนซ์แบร์นจะต้องถูกกําจัดให้หายไปจากโลกนี้!”
ชายคนนี้เป็นคนที่โหดเหี้ยมจริงๆ
เพราะสงครามที่เกิดขึ้นที่ศูนย์ใหญ่กองทัพเรือมันถึงทําให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมา
“โจมตี”
เสียงของชายวันกลางคนได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
แม้ว่าเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชานั้นจะได้ยินคําสั่งของเขาแต่พวกเขาก็ยังรู้สึกลังเลอยู่ดี
พวกเขานั้นรู้ดีถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากการจู่โจมด้วยปืนใหญ่ที่วางล้อมรอบวังตระกูลไอนซ์แบร์นอยู่ในตอนนี้ด้วยคําสั่งจู่โจมที่เกิดขึ้นสถานที่ที่งดงามแห่งนี้นั้นจะต้องถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นซากปรักหักพังในทันที่อย่างแน่นอน
“ทําไม? พวกนายไม่กล้างั้นหรอ?”
เมื่อเห็นความลังเลของพวกเขาชายวัยกลางคนก็ได้ยกยิ้มขึ้นมาในทันที
“หัวหน้า,พวกเขาคือคนของเผ่ามังกรฟ้านะครับ!”
ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งได้กล่าวออกมาด้วยความหวาดกลัว
“ เสียเวลาจริงๆพวกนายจะทําตามหรือตาย!”
ชายวัยกลางคนได้ตะโกนออกมาเสียงดัง
นับตั้งแต่ที่เขาคิดที่จะลงมือเขาก็รู้ถึงความเสี่ยงที่จะตามมาอยู่แล้ว
แต่ในเมื่อเขาตัดสินใจแล้วเขาจึงไม่คิดที่จะลังเลอีกต่อไป
“ถ้าพวกนายไม่ทํางั้นฉันก็จะฆ่าพวกนายทิ้งซะ!”
ชายวัยกลางคนนั้นได้กล่าวข่มขู่ออกมาอย่างเย็นชา
เมื่อได้ยินอย่างนั้นพวกเขาก็รู้สึกหวาดกลัวในทันที แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้สูดหายใจและจับไปที่ปืนใหญ่
ทุกคนนั้นรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่พวกเขาโจมตีออกไป
แต่ถ้าพวกเขาไม่ทําตามที่ชายคนนี้พูดละก็พวกเขาก็จะต้องตายอย่างแน่นอน!
สิ่งที่เกิดขึ้นกับวังตระกูลไอนซ์แบร์นนั่นมีคนแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รับรู้ถึงมัน
พันตรีที่อยู่ห่างออกไปสามกิโลนั้นได้มองมาที่ชายวัยกลางคนพร้อมกับกลืนน้ําลาย
“พวกนี้มันบ้าไปกันใหญ่แล้ว!”
เห็นได้ชัดเลยว่าด้วยปืนใหญ่ที่อยู่ตรงหน้านั้นมันสามารถบดขยี้วังตระกูลไอนซ์แบร์นจนไม่เหลือซากได้อย่างแน่นอน
แต่ปัญหาก็คือสิ่งที่ปืนใหญ่พวกนั้นเล็งมันไม่ใช่โจรสลัดแต่เป็นมังกรฟ้าผู้สูงศักดิ์
“ผู้ชายคนนั้นบ้าไปแล้วหรือไงกัน?”
พันตรีนั้นได้แอบมองการกระทําของเขาด้วยความตกตะลึง
พันตรีนั้นสามารถสังเกตเห็นมือที่สั่นของพวกเขาได้อย่างชัดเจน
เวลาได้ไหลผ่านไปอย่างช้าๆในตอนนี้ปืนใหญ่นั้น
จากนั้นอีกคนหนึ่งก้าวไปข้างหน้ากลืนน้ําลายสักสองสามยกไฟฉายขึ้นและสั่นไหวต่อผู้นํา
* พวกเขาต้องการทําสิ่งนี้จริงๆ!”
จินลูซี่บีบกําปั้นและหัวใจก็พุ่งออกมาในขณะนี้
ทันใดนั้นเองดวงตาของเขาก็ได้เห็นแสงสีฟ้าที่พุ่งเข้ามาจากทิศทางหนึ่งมันได้พุ่งตรงเข้าไปในวังของตระกูลไอนซ์แบร์นอย่าง รวดเร็ว
” นั่นมันอะไรกัน?”
เขานั้นไม่รู้ว่าไอ้แสงสีฟ้าเมื่อกี้มันคืออะไร
อย่างไรก็ตามความเร็วของมันนั้นน่าเหลือเชื่อมากไม่นานมันก็ได้พุ่งไปถึงส่วนลึกของวังตระกูลไอนซ์แบร์นแล้ว
แม้ว่าเขาจะตั้งใจมองมันมากแค่ไหนเขาก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่ามันคืออะ
“พี่..”
ในเวลาเดียวกันนั้นเองปืนใหญ่จํานวนมากก็ได้ถูกจุดชนวนขึ้น
มา
ถ้าเอาปืนใหญ่พวกนี้ไปเทียบกับของพวกกองทัพบกละก็ปืนใหญ่พวกนี้นับว่าล้าหลังแต่ด้วยจํานวนของพวกมันนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ใครจะสามารถมาดูถูกได้เช่นกัน
“นี่มันอย่างกับบัสเตอร์คอลเล็กๆเลยนะ!”
เมื่อเห็นฉากนี้เขานั้นถึงกับต้องสูดลมหายใจ
ทันใดนั้นเองวังตระกูลไอนซ์แบร์นที่เงียบสงบก็ได้ถูกปกคลุมไปด้วยเสียงปืนใหญ่นับพัน
“บูมมม!”
เสียงกระสุนปืนใหญ่และกลิ่นควันไฟนั้นตลบอบอวลไปทั่วทั้งที่
แห่งนี้
ภายในวังของนิวเรย์เจสันและคนอื่นๆที่เพิ่งออกมาจากวงนั้นได้เงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าด้วยความงุนงง
“นี่มันบ้าอะไรกัน!?”
ใบหน้าของพวกเขานั้นได้เปลี่ยนไปในทันที!