บทที่ 146 อีกหนึ่งทักษะรับฟังสายลม
หลังจากย่อยสลายโทรศัพท์ไปสองเครื่อง เจียงฮ่าวได้รับทักษะมาสองทักษะ
นี่ทําให้เขานั้นยิ่งยากจะรีบย่อยสลายโทรศัพท์ที่เหลือในทันที
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าในการย่อยสลายโทรศัพท์และแลปทอปที่เหลือนี้ เขาจะไม่ได้มีโชคแต่อย่างใด
หลังจากย่อยสลายโทรศัพท์ไปสามเครื่องและแลปทอปไปอีกหนึ่งเครื่อง เขานั้นได้รับทักษะมาเพิ่มเพียงแค่หนึ่งทักษะเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้น ทักษะที่ได้กลับทรงพลังกว่าที่คาด
รับฟังสายลม ระดับ 1 (0/10) : เพียงแค่นั่งอยู่บ้าน ก็รับฟังเสียงได้ทั้งโลก
นี่ทําให้เจียงฮ่าวนั้นดีใจจนแทบจะกระโดดโลดเต้น
และหลังจากเจียงฮ่าวได้ทดลองใช้งานดูนั้น ด้วยการที่ทักษะนี้ยังอยู่ในระดับหนึ่ง ระยะการรับฟังของเขาจะอยู่ที่เพียงหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เขาในตอนนี้กับมีความสุขอย่างมาก เพราะทักษะนี้สามารถใช้ควบคู่ไปกับทักษะถ่ายทอดเสียงได้อย่างสมบูรณ์
แต่จะดีกว่านี้ถ้าเขานั้นสามารถได้รับทักษะดวงตาพันลื้มาด้วย
แต่ยังไงซะ เขาในตอนนี้ก็ทําได้เพียงแค่รู้สึกเสียดายได้เพียงเท่านั้น
หลังจากจ่ายค่าทักษะไปยี่สิบหน่วยเพื่อยกระดับทักษะถ่ายทอดเสียงพันลี้ และรับฟังสายลมเป็นระดับสองแล้ว หลังจากนั้นเขาก็ทําได้เพียงปล่อยเรื่องดวงตาพันลี้ไปได้เพียงเท่านั้น
วันต่อมา หลังจากเจียงฮาวกินข้าวเข้าเสร็จแล้ว เขาเตรียมที่จะไปย่านขายของเก่าเพื่อที่จะใช้ดวงตาแห่งการทําลายล้างในการหาของดีๆราคาถูก
อย่างไรก็ตาม ในทันทีที่เขาก้าวออกจากบ้านก็ได้พบกับซิ่วไจยี่พึ่งเข้ามาหาอย่างด้วยความรวดเร็วเต็มพิกัด
นี่เป็นครั้งแรกที่เขานั้นได้เห็นท่าที่ร้อนรนตื่นเต้นของซิ่วไจยี่แบบนี้
เมื่อเธอมาถึง เธอได้มองหน้าของเจียงฮ่าวด้วยสายตาแปลกๆราวกับว่าที่หน้าของเจียงฮ่าวมีดอกไม้บานอยู่
เจียงฮ่าวนั้นย่อมรู้ดีว่าซิ่วไจยื่นั้นที่มองเขาแบบนี้ต้องเป็นเพราะว่าเธอนั้นรับรู้เกี่ยวกับสุดยอดความรวดเร็วในการเติบโตของพันธุ์ผักกลายพันธุ์ของเขา
หลังจากที่จ้องมองอยู่นาน ในที่สุดซิ่วไจยี่เริ่มเปลี่ยนท่าที เธอมองเจียงฮาวด้วยสายตาที่แส ดงออกซึ่งความตื่นเต้น แม้แต่ท่าทางก็ยังเก็บเอาไว้ไม่อยู่
“คุณเจียง….คุณคือเทพเซียนจริงๆสินะ”
คําพูดของเธอนั้นไม่ได้ถือว่าเกินเลยไปเลยสักนิด นั่นก็เพราะคนที่ปรับปรุงอัตราการเติบโตของพืชแบบนั้นได้ก็คงจะมีเพียงเทพเซียนบนสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าทํายังไง
ในตอนนี้ เมื่อเจียงฮ่าวได้ยินก็ทําได้เพียงยิ้มออกมาโดยไม่พูดอะไร
และเพื่อไม่ให้เรื่องต้องยึดยาว ซิ่วไจยี่จึงได้แสดงถึงจุดประสงค์ที่เธอมาที่นี่ในทันที
เธอนั้นนอมรับข้อเสนอของเจียงฮ่าวและพร้อมที่จะซื้อเมล็ดพันธุ์ผักสายพันธุ์ใหม่ทั้งห้าด้วยราคาแปดล้านหยวนต่อกิโลกรัม โดยเธอขอสั่งลอตแรกจํานวนอย่างละหนึ่งกิโล(2ชั่ง)
อย่างไรก็ตาม เจียงฮ่าวได้ประเมินดูแล้ว จํานวนที่เธอสั่งนั้นในตอนนี้ไม่เพียงพอ เขาต้องใช้เวลาเตรียมการสักหน่อย
ซิ่วไจยี่เองในตอนนี้แสดงออกมาว่าไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะรอ ให้รออยู่ที่บ้านเจียงฮ่าวเลยก็ยังได้
นี่ทําให้ทั้งสองฟังได้ทําข้อตกลงกันว่าจะมีการส่งมอบเมล็ดพันธุ์เหล่านี้กันในอีกหนึ่งเดือนให้หลัง
พร้อมกันนี้ ซิ่วไจยได้จ่ายเงินครึ่งหนึ่งเป็นค่าดําเนินการ
และด้วยธุรกิจในครั้งนี้จะทําให้เจียงฮ่าวได้เงินมาอีกสี่สิบล้านหยวน
หลังจากส่งซิ่วไจยกลับไป เจียงฮาวก็ได้เริ่มเตรียมการเพื่อที่จะให้ได้ทําเมล็ดพันธุ์ผักกลายพันธุ์จํานวนทั้งหมดห้ากิโลกรัม
หากว่าเขานั้นไปทําการซื้อผักทั้งห้าชนิดนี้ในเมืองเทียนเหอมาเฉยๆล่ะก็ เขาอาจจะทําให้จิ๋วไจยี่สงสัยเขาก็ได้
นี่จึงทําให้เขานั้นคิดว่าจะออกจากเมืองเทียนเหอไปสักพักหนึ่ง
สําหรับในตอนนี้ เขาจะต้องเตรียมการทุกอย่างที่นี่ให้พร้อมถึงจะค่อยออกไปจากเมือง
หลังจากเดินออกจากบ้านไปแล้ว เจียงฮ่าวก็ได้ดักรถบัสและตรงไปยังย่านขายของเก่า
ด้วยความเร็วของรถบัส ถึงแม้ย่านการค้าจะอยู่ไม่ไกลนัก แต่การเดินทางนี้ก็ต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมง
นี่ยิ่งทําให้เขานั้นอยากจะเรียนขับรถเร็วๆเข้าไปใหญ่ หลังจากได้ใบขับขี่มาแล้ว เขาจะได้ซื้อรถมาใช้สักคัน
กลายนั่งรถนานๆนี่ทําให้เขาต้องเบื่อแบบสุดๆ
“ครั้งงงงงงง”
หลังจากผ่านป้ายหนึ่งมา รถบัสก็ได้จอดลงอีกครั้ง
ในตอนนี้มีคุณแม่คนหนึ่งได้อุ้มลูกขึ้นมาบนรถ ดูเหมือนว่าเด็กน้อยคนนี้จะร้องไห้ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง ซึ่งทําให้ในตอนนี้ทําให้เธอทําได้เพียงจะโอ๋และปลอบลูกของตนได้เพียงเท่านั้น
ด้วยการที่ป้ายนี้อยู่ติดกับสถานีรถไฟทําให้มีคนขึ้นค่อนข้างมาก
นี่ทําให้ที่นั่งเต็มอย่างรวดเร็ว คุณแม่คนนี้จึงต้องยืนบนรถโดยมีลูกน้อยอยู่ในมือ
โดยเจียงฮ่าวนั้นเพราะว่าเขาขึ้นรถมาจากหลายป้ายก่อนหน้าทําให้เขานั้นได้นั่ง
ทุกคนโดยรอบในตอนนี้เริ่มรู้สึกรําคาญเสียงเด็กร้อง บางคนขมวดคิ้วพลางมองไปที่เธอแต่พวกเขาก็ทําได้เพียงเท่านั้น
เจียงฮาวที่เห็นฉากนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะต้องอยู่บนรถไปอีกนานกว่าจะถึง แต่เขาก็ยังยืนขึ้นมา