Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน – ตอนที่ 599 แรงกระตุ้นที่อยากจะทําอย่างรุนแรง

บทที่ 599 แรงกระตุ้นที่อยากจะทําอย่างรุนแรง

 

“อาาา”

 

“อาาาาา

 

“อาาา

 

“มากกว่านี้อีก เติมร่างของข้าให้มากไปกว่านี้ด้วยปราณหยางของเจ้า”

 

โหลวหลานจีครวญครางดังลั่นขณะที่ซูหยางที่มแทงร่างของเธออย่างหลงไหล

 

สองสามอึดใจให้หลัง ปราณหยางอันรุ่มร้อนก็พวยพุ่งเข้าไปในถ้ําอันคับแคบของเธอ เติมท้องของเธอจนกระทั่งเธอรู้สึกอิ่ม รู้สึกเหมือนกับว่าเธอเพิ่งกินอาหารมื้อใหญ่

 

“ให้ข้าช่วยทําความสะอาดให้กับเจ้า” โหลวหลานจีกล่าวกับเขาหลังจากนั้น

 

“ดื่ม..” เธอเลียไปรอบแท่งอวบของเขาด้วยลิ้นอ่อนนุ่มของเธอก่อนที่จะดูดมันเข้าไปในปากของเธอ

 

“อืม”

 

“อืมมมมม…”

 

โหลวหลานจีทําการดูดดื่มแท่งของเขาแม้ว่าจะดูดจนสะอาดแล้ว เหมือนกับว่าเธอเสพติดมัน

 

“เจ้าต้องมีเหลืออยู่ในตัวเจ้าอีกใช่ไหม มาเลยปล่อยมันเข้าไปในตัวข้า ข้าจักดูดกลืนทุกอย่าง ที่เจ้าได้เสนอต่อข้า” โหลวหลานจีพลันกล่าวกับเขา

 

ซูหยางพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าของเขา และภายในไม่กี่นาทีให้หลัง ปราณหยางอีกสายก็พุ่งออกจากแก่นกายของเขาและเติมเข้าไปในปากของโหลวหลานจี

 

“งั้มมมม”

 

โหลวหลานจีดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจกับการที่มีปริมาณปราณหยางไม่สิ้นสุดไหลเข้าไปในปากของเธอ ซึ่งเธอก็ต้องรีบกลืนมันเข้าไปเพื่อที่จะได้มีที่ว่างในปากของเธอให้สามารถรับเพิ่มเข้าไปได้อีก

 

หลายคําหลังจากนั้น ซูหยางก็หยุดปล่อยปราณหยางของเขา ปล่อยให้โหลวหลานจีได้มีเวลาหายใจได้ในที่สุด

 

“เจ้าต้องการให้ปราณหยางท่วมปากข้าตายหรืออย่างไร” โหลวหลานจีกล่าวกับเขาหลังจาก

 

“ข้าอดไม่ได้นี่นา ปากเจ้าช่างรู้สึกน่าหลงไหลอะไรเช่นนั้น” ซูหยางยักไหล่ด้วยสีหน้าไร้เดียงสา

 

“จริงรี” โหลวหลานจีถามด้วยดวงตาที่เป็นประกายไปด้วยความดีใจ

 

“จริงสิ เมื่อเปรียบเทียบกับครั้งที่เมื่อตอนที่เราร่วมเรียงเคียงกันเป็นครั้งแรก เจ้าได้พัฒนาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด กระทั่งที่ว่าเจ้าเองก็จะไม่สามารถจําตัวเจ้าเองได้หากว่าเจ้าเดินทางกลับไปยังอดีตและได้รู้เห็นความแตกต่าง” เขาพยักหน้า

 

“ข้าเดาว่าการมีคู่ครองที่มีความสามารถย่อมสามารถทําให้โลกเปลี่ยนไปได้” เธอกล่าว จากนั้นเธอก็กล่าวต่อพร้อมกับรอยยิ้มที่หวานอมขมว่า “ข้ามิรู้ว่าข้าจักอยู่ได้อย่างไรหากว่ามิมีเจ้าในอนาคต ซูหยาง หลังจากที่ทําเรื่องนี้หลายครั้งกับเจ้า มาตรฐานสําหรับความสุขของข้าก็ได้กลายเป็นอะไรสักอย่างที่เพ้อฝัน และข้าก็มิอาจที่จะได้รับความพึงพอใจจากใครอื่นในตอนนี้ เจ้าจักรับผิดชอบอย่างไรในเรื่องนี้ ซูหยาง”

 

“เมื่อเจ้าเก่งกาจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งย่อมเป็นเรื่องที่ดีกว่าที่จะพัฒนามันต่อไปแทนที่จะยับยั้งความสามารถของเจ้าไว้ มิมีเรื่องใดที่เจ้าจักสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้” ซูหยางถอนหายใจ “มันอาจจะเหมือนมิได้เป็นเช่นนั้น แต่มันเป็นเรื่องที่ยากจริงๆสําหรับข้าที่จะออมรั้งความสามารถอันมากมายของข้าไว้ มีนับครั้งไม่ถ้วนในระหว่างที่ข้าฝึกฝนในโลกนี้ที่ข้ารู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่อยากจะทําอย่างรุนแรงที่มิอาจจะยับยั้งได้”

 

โหลวหลานจีมองดูซูหยางด้วยดวงตาเบิกกว้าง เมื่อเธอไม่สามารถที่จะจินตนาการได้ถึงความสามารถที่แท้จริงของเขานั้นถูกระงับไว้มากแค่ไหนหรือว่าจะรู้สึกเป็นเช่นไรในการฝึกร่วมกับซูหยางเมื่อเขาใช้ความสามารถและวิชาทั้งหมดของเขา

 

“ข้าขอโทษ ซูหยาง ข้ารู้ว่าเจ้าได้ยับยั้งความสามารถของเจ้าไว้ แต่ข้ามิรู้ว่ามันจักมากมายถึงขั้นนี้” โหลวหลานจีถอนหายใจ

 

“มิต้องกังวลในเรื่องนั้น ข้าคุ้นเคยกับมันแล้วในตอนนี้” ซูหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

 

ในเวลาต่อมา โหลวหลานจีก็ถามเขาว่า “ พวกศิษย์เป็นอย่างไรกันบ้าง”

 

“พวกเขาพัฒนาไปในทิศทางที่ดี คงมิใช้เวลานานนักก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจักก้าวเข้าถึงเขตปฐพีวิญญาณ พวกเขาบางคนอาจจะเข้าถึงระดับนั้นภายในสิ้นปีนี้” ซูหยางกล่าวกับเธอ

 

“เขตปฐพีวิญญาณ” สีหน้าประหลาดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโหลวหลานจี “มินานมานี้ ข้าคงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งหากว่ามีศิษย์สักคนได้ทําการเข้าถึงเขตสัมมาวิญญาณ ข้ารู้สึกเหมือนว่าโลกนี้หมุนเร็วเกินไป”

“ยุทธภพจักพัฒนาไปข้างหน้าเสมอ และมันก็จะเป็นไปเช่นนี้ต่อให้ข้ามิได้อยู่ที่นี่ก็ตามข้า เพียงแค่ช่วยให้กระบวนการนั้นเร่งเร็วขึ้นเท่านั้น”

 

“ข้ารู้สึกผิดที่ปล่อยให้เจ้าทําทุกสิ่งด้วยตัวเจ้าเอง ซูหยาง ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นผู้นํานิกายเช่นกัน ข้าก็มิได้ทําอะไรนอกจากพัฒนาพลังการฝึกปรือของตัวข้าเองอย่างเห็นแก่ตัวในขณะที่ปล่อยให้เจ้าดูแลเหล่าศิษย์” โหลวหลานจีถอนใจ

 

“ถ้าเจ้ามิรีบพัฒนาพลังการฝึกปรือของเจ้า เจ้าคิดว่าจะเป็นอย่างไรหากว่าข้าจากไปแล้ว ใครจักเป็นคนดูแลเหล่าศิษย์ แม้ว่าจะยังคงมีมหาค่ายกลคอยปกป้องนิกาย นั่นก็เป็นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่มันจักสามารถทําได้ และครั้นเมื่อข้าจากที่แห่งนี้ไปแล้ว เจ้าก็จักต้องดูแลศิษย์ตามลําพังจนกว่าเจ้าจะพบเจอกับผู้นํานิกายคนใหม่”

 

“ข้ามิคิดว่าข้าจักสามารถที่จะหาผู้นํานิกายคนใหม่ได้ที่จักสามารถแทนที่เจ้าได้อย่างสมบูรณ์ ซูหยาง”

 

“ฝากความหวังไว้กับเหล่าศิษย์สิ แม้ว่าพวกเขาอาจจะยังมิเติบโตเต็มที่ในตอนนี้ แต่ครั้นเมื่อพวกเขาจบการฝึกของพวกเขาแล้ว ก็จักมีศิษย์ที่เก่งกาจมากมายที่สามารถที่จะกลายเป็นผู้นํานิกายที่มีความสามารถได้”

 

“แน่นอน พวกเขาได้รับการสอนจากเซียนนี่นะ” โหลวหลานจีกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

 

ในเวลาหลังจากนั้น ซูหยางก็กลับคืนไปที่ห้องของตนเอง ที่ซึ่งถังหลิงซีได้ฝึกวิชาอยู่บนเตียงอยู่อย่างเงียบๆ

 

“เหมือนกับที่ข้าได้คาดไว้สําหรับผู้นํานิกายทั้งนิกาย เจ้าทํางานหนักมากสําหรับเหล่าศิษย์” ถังหลิงชีพลันกล่าวกับเขา

 

“เจ้ายังคงตื่นอยู่อีกรี หรือว่าเจ้ากําลังรอข้าอยู่” ซูหยางถามเธอ

 

“ใช่ ข้ามีบางเรื่องที่จะพูดกับเจ้า เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับชิวเยว” เธอกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น

 

“ชิวเยว่ มีอะไรเกี่ยวกับเธอ”

 

“จริงแล้วเจ้ารู้สึกอย่างไรกับเธอ ขาหมายถึงในฐานะหญิงคนหนึ่ง”

 

“แน่นอนว่าข้ารักเธอ” เขาตอบกลับโดยไม่ลังเล

 

“ข้าก็คาดว่าเจ้าจักต้องพูดเช่นนี้อยู่แล้ว” ถังหลิงชีพยักหน้า จากนั้นเธอก็ตั้งคําถามต่อไปอีกว่า “เช่นนั้นเจ้ารู้มากน้อยเท่าไหร่เกี่ยวกับสายเลือดของเธอ เจ้าได้อยู่ที่ตําหนักจันทรามาชั่วระยะหนึ่ง ใช่ไหม แน่นอนว่าเจ้าต้องรู้สึกอย่างสองอย่างในเรื่องพวกเขา”

 

“ตําหนักจันทราศักดิ์สิทธิ์ ทําไมเจ้าจึงถามเรื่องนี้” ซูหยางเลิกคิ้วด้วยท่าทางสงสัย

 

“ข้าเพียงแค่สงสัยว่าทําไมเจ้าจึงมิบอกชิวเยวในเรื่องช่องโหว่ในเรื่องคําสาป ข้ามิได้สงสัยในความรู้สึกของเจ้าที่มีต่อเธอ แต่จากที่รู้จักเจ้ามา เจ้าควรจะบอกกับเธอนานแล้วเพื่อที่เธอจะได้มิรู้สึกไร้ความหวัง ถึงแม้ว่าเธอมิได้ชอบความคิดนั้น อย่างน้อยเจ้าก็ควรจะมีทางออกให้กับเธอ” ถังหลิงซีกล่าวกับเขา

 

ซูหยางไม่ได้ให้ตอบเธอในทันใดแต่ว่านิ่งเงียบไปเป็นเวลานาน

 

Related

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

Dual Cultivation
Status: Ongoing
ซูหยางถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตที่หน้าผาบาปนิรันดร์ ที่ซึ่งมีแต่อาชญากรสุดชั่วช้าเหี้ยมโหดเท่านั้นอาศัยอยู่ ความผิดของเขา ล่อลวงภรรยาของเทพจันทรา ลักพาน้องสาวของราชันย์มังกร และร่วมเรียงเคียงหมอนกับลูกสาวสุดที่รักของจักรพรรดิสวรรค์ สุดท้ายเขาพบกับชายชราลึกลับซึ่งช่วยให้เขาหนีออกจากคุกโดยการส่งไปสู่ร่างใหม่ ในชีวิตใหม่ ซูหยางสาบานว่าจะตามหารวบรวมคนรักของเขาใหม่ และโอบพวกเธอไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset