ตอนที่ 1009: ไล่ล่าสังหาร (3)
ท่าทางของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่เขาสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของหมัดของไคเซอร์ เขารู้ได้เลยโดยสัญชาติญาณว่าโถงศักดิ์สิทธิ์คงจะกลายเป็นผุยผงถ้าโดนการโจมตีนี้เข้าไป นอกเหนือจากนั้น มันยังเป็นความเสียหายที่ซ่อมแซมไม่ได้
โถงศักดิ์สิทธิ์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ดังนั้นมันจะไม่สามารถต่อต้านการโจมตีจากหมัดที่เกือบเต็มกำลังของไคเซอร์ได้
พลังงานที่น่ากลัวขดอยู่รอบหมัดของไคเซอร์ แค่การโจมตีธรรมดาก็มีพลังที่สั่นสะเทือนขนาดนี้ มิติแตกกระจายออกเหมือนเต้าหู้ต่อหน้าพลังนี้ มันฉีกมิติออกอย่างง่ายดายและเปลี่ยนมันไปเป็นความมืด
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่หมัดกำลังจะโจมตีโดยโถงศักดิ์สิทธิ์ มันก็หายไปทันที หมัดของไคเซอร์ไม่โดนและโจมตีไปที่มิติด้านหน้าเขาแทน มันทำให้มิติสั่นไหวอย่างรุนแรง
เจี้ยนเฉินเก็บโถงศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่ต้องการที่จะให้มันถูกทำลายหลังจากที่เขาได้มันมาอย่างยากลำบาก จากนั้น แสงสีทองก็พุ่งออกมาจากหน้าผากของเขาและเปลี่ยนเป็นหอคอยสีทองสูงร้อยเมตรทันที มันร่อนอยู่เหนือหัวของเขาในขณะที่มันบินไปที่เมืองทหารรับจ้าง
“เจ้ามีสมบัติหลายอย่างจริง ๆ แต่มันก็ยากที่เจ้าจะรอดจากความตายไปได้ไม่ว่าเจ้าจะมีสมบัติมากแค่ไหนก็ตาม” ไคเซอร์เหยียดออกมา แสงไปเย็นชาส่องออกมาจากตาของเขาซึ่งเต็มไปด้วยจิตสังหารที่แน่วแน่
ไคเซอร์หายไปทันทีที่เขาพูดจบ เขาปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งด้านหน้าเจี้ยนเฉินและเขาเหวี่ยงหมัดธรรมดาออกไปที่เจี้ยนเฉิน
การโจมตีของไคเซอร์ธรรมดามากโดยไม่มีอะไรเลย อย่างไรก็ตาม ทุกการโจมตีมีพลังที่ยิ่งใหญ่สุดยอดซึ่งน่าเหลือเชื่อและทำลายล้างรอบ ๆ ได้อย่างง่ายดาย
วัตถุเซียนที่อยู่เหนือหัวของเขาตกลงมาทันที มันหยุดตรงหน้าเจี้ยนเฉิน เกิดเสียงระเบิดขึ้นดัง หมัดของไคเซอร์กระแทกเข้าไปที่วัตถุเซียนเหมือนสายฟ้าฟาด พลังงานที่ทรงพลังกระแทกให้มันถอยกลับไปและมันก็ปะทะเจี้ยนเฉินที่อยู่ด้านหลังอย่างแรง
พรวด ! เจี้ยนเฉินกระอักเลือดออกมาทันทีและพุ่งถอยหลังไปพร้อมกับวัตถุเซียน เสียงซี่โครงหักของเขาดังออกมาเบา ๆ การปะทะจากวัตถุเซียนเทียบเท่าได้กับการโจมตีของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงยากที่จะป้องกันมันเอาไว้ได้แม้ว่าเขาจะมีร่างบรรพกาล เขาค่อนข้างได้รับบาดเจ็บ
รอยเว้าขนาดเท่าหัวปรากฏขึ้นบนวัตถุเซียนหลังจากที่มันต่อต้านหมัดของไคเซอร์ เห็นได้ชัดว่ามันแข็งแกร่งกว่าโถงศักดิ์สิทธิ์มาก
เจี้ยนเฉินพุ่งไปเหมือนลูกปืนใหญ่ เขาลอยออกไปจากส่วนลึกของเทือกเขาครอสและมาถึงที่ชายแดนด้านนอกของแนวภูเขา
ฮุสตันเงยหน้าขึ้นทันทีจากหมู่บ้านที่อยู่ห่างออกไปจากเจี้ยนเฉินหมื่นกิโลเมตร ในขณะที่เขากำลังขุดดิน ตาที่เฉยชาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจในขณะที่เขามองออกไปไกล
“สัตว์อสูรระดับ 9 ทั้งสองจากทวีปสัตว์เทวะ พวกเขาแอบเข้ามาที่ทวีปเทียนหยวนจริง ๆ แปลกจัง จอมยุทธทั้งสองที่มีวัตถุซึ่งมีพลังงานดั้งเดิมที่อยู่กับเจี้ยนเฉินหายไปไหนนะ ? ทำไมเข้าถึงสัมผัสได้แค่คนเดียว ? อีกคนไม่ได้อยู่กับเขาหรือ ? ” ฮุสตันพึมพำด้วยเสียงทุ้ม เขาทำท่าทางกลัวทันทีเมื่อเขาคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิด “ถ้าเป็นแบบนั้น เจี้ยนเฉินก็กำลังมีปัญหาแล้ว” หลังจากนั้น ฮุสตันก็เก็บจอบของเขาและเปิดประตูมิติออกอย่างง่ายดาย เขาหายเข้าไปในนั้น
พลังบรรพกาลของเจี้ยนเฉินเต็มอยู่ในร่างของเขามาสักพักแล้ว เพราะว่าเขาใส่ทุกอย่างลงไปในร่างบรรพกาลไปให้ถึงขีดสุด เขานำยุทธพรรดิจักรพรรดิออกมาด้วยและยิงปราณกระบี่เป็นครั้งคราวไปที่ไคเซอร์พร้อมด้วยวัตถุเซียนที่คอยปกป้องเขาอยู่ เขารู้ว่าการโจมตีของเขาในตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรเซียนจักรพรรดิได้เลย แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ไคเซอร์ช้าลงได้ชั่วคราว
ไคเซอร์ทำเหมือนว่าปราณกระบี่จากเจี้ยนเฉินไม่ได้มีผลอะไรเลย เขาโจมตีออกไปด้วยพลังสุดยอดและทำให้มันแตกกระจายออกเป็นเสี่ยง ๆ และสร้างความเสียหายให้กับวัตถุเซียนครั้งแล้วครั้งเล่า รอยยุบเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่มิติด้านในสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง มันดูเหมือนกำลังเกิดหายนะด้านใน
แม้ว่าวัตถุเซียนจะสามารถต่อต้านการโจมตีจากเซียนจักรพรรดิได้ในระยะหนึ่ง แต่เจี้ยนเฉินก็ไม่สามารถซ่อนอยู่ในนั้นเพื่อหนีจากอันตรายได้ เพราะว่าไคเซอร์สามารถนำมันกลับไปที่ทวีปสัตว์เทวะและค่อย ๆ เปิดมันออกได้ มันจะไม่ใช่เขาคนเดียวที่จะต้องตาย แม้แต่เสือขาวที่ซ่อนอยู่ในมิติวัตถุเซียนก็จะตายด้วย
“หืม หอคอยสีทองนั่นมันอะไรกัน ? เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่พลังงานดั้งเดิม แต่มันยังต้านการโจมตีของข้าได้ตั้งหลายครั้ง” ไคเซอร์อดไม่ได้ที่จะโกรธเพราะว่าเจี้ยนเฉินป้องกันการโจมตีจากเขาได้เรื่อย ๆ มันน่าอับอายสำหรับเขาที่ต้องพยายามขนาดนี้เพื่อจัดการกับเซียนราชาที่อ่อนแอผู้คนหนึ่ง
ทันใดนั้นเอง ไคเซอร์ก็อ้าแขนออกและบีบมิติที่อยู่ด้านหน้าเข้าไปแน่น เขาพูดออกมา “มิติพันธนาการ” มิติรอบ ๆ เจี้ยนเฉินถูกพันธนาการทันที ซึ่งทำให้เขาอยู่กับที่และขยับไม่ได้ เขายังเสียการควบคุมวัตถุเซียนไปด้วย
“ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะหนีได้หรือไม่ทีนี้” ไคเซอร์ยิ้มอย่างดุร้ายไปที่เจี้ยนเฉิน จากนั้น เขาก็มาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉินในพริบตา เขาแทงมือเข้าไปที่หน้าอกของเจี้ยนเฉินเพื่อพยายามที่จะควักหัวใจของเขาออกมา
“ข้าไม่คิดเลยว่าจอมยุทธที่สุดยอดของทวีปสัตว์เทวะจะลดตัวลงมาสู้กับผู้เยาว์เช่นนี้ ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงคนอื่นเข้า เจ้าอาจจะกลายเป็นตัวตลกไปเลย” เสียงชราดังระเบิดออกไปรอบ ๆ ทันที ห่างพันเมตรออกไป ประตูมิติก็เปิดออก และเหล็กแหลมสีดำด้านก็ลอยออกมา มันพุ่งไปที่ไคเซอร์ด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ ในขณะที่มันตัดผ่านมิติไป
“เจ้ารนหาที่ตาย ! ” ใบหน้าของไคเซอร์มืดครึ้มและมือของเขาที่กำลังจะพุ่งไปที่หัวใจของเจี้ยนเฉินในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นกำหมัดแล้วเหวี่ยงไปที่เหล็กแหลมแทน
เหล็กแหลมถูกกระแทกออกไปด้วยพลังงานที่น่ากลัวที่ปล่อยออกมาเมื่อมันห่างจากหมัดครึ่งเมตร มันพุ่งถอยหลังกลับเข้าไปในประตูมิติด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ
ฮุสตันออกมาจากประตูมิติด้วยเสื้อผ้าซอมซ่อและไม่ใส่รองเท้า เขามองไปที่เหล็กแหลมอย่างเฉยเมยและเขาก็ขยับมือเล็กน้อย พลังงานที่แหลมคมที่ขับเคลื่อนหนามอยู่ก็หายไปทันที และวางตัวลงในมือของ
ฮุสตันอย่างเชื่อฟัง
ไคเซอร์มองไปที่ฮุสตันอย่างเย็นชาแล้วพูดออกมา “เซียนราชาขั้นสูงสุด อย่างไรก็เถอะ เจ้าไม่ใช่คู่มือของข้า เจ้าหยุดข้าไม่ได้หรอก”
“ไคเซอร์ เจ้ายังคงเป็นหนึ่งในจอมยุทธที่สุดยอดของทวีปสัตว์เทวะอยู่ มันไม่เกินไปหน่อยหรือที่เจ้าจะมารังแกผู้เยาว์ และเจ้าฝ่าฝืนข้อตกลงอีกครั้งในการเข้ามาที่ทวีปเทียนหยวน” ฮุสตันคำรามออกมา ท่าทีของเขาน่ากลัวมาก