ตอนที่ 22 เจ้ากล้าพนันไหม?
หลังจากที่กายเดินเข้าร้านไปแล้ว เขาไม่ได้สังเกตเลยว่ามีคนสะกดรอยตามเขามาสักพักแล้ว
‘หมอนั้นมาที่นี่ในทุกวันเลยงั้นเหรอ ร้านเกมแบบนี้คงไม่ใช่ถูก ๆ อย่างแน่นอน แสดงว่าคงซ่อนเงินไว้เยอะสินะ’ หญิงสาวที่แอบดูไนเรลจนมั่นใจว่าเขาเข้าไปในร้านแล้วก็รีบวิ่งตามไปดูอยู่กระจกหน้าร้าน
เธอเห็นเขากำลังเล่นเกมด้วยความสนุกสนานก็แอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานหลังจากนั้นก็รีบหนีออกไปทันที เพราะกลัวว่าไนเรลจะจับได้
……
ตกดึกนอกร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8 ลมที่มาพร้อมกับฝุ่นอย่าง เขต 7 ทั้งเขตเหมือนกับยอมไปด้วยฝุ่นสีน้ำตาล ในย่านที่ร้านตั้งอยู่ร้านทุกร้านกับเต็มไปด้วยแสงสีเสียง มีร้านอาหาร ผับ บาร์ และธุรกิจสีเทามากมายเปิดกันอย่างคึกคัก ผู้คนเดินกันอย่างไม่หยุดหย่อน
ยิ่งเวลาดึกมาเท่าไหร่ผู้คนก็เริ่มเยอะขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะในร้านเกมเสมือนจริง ภายในห้องแคปซูลตัวประจำของไนเรลเขานอนลงไปก่อนที่จะลิ้งค์เกมไนเรลก็มองดูเจ้ซาเรียที่เดินออกไป หลังจากที่เธอได้มาย้ำกับเขาเรื่องที่ว่าวันนี้คือวันที่ 19 เมษายน ซึ่งครบ 7 วันที่เกมเปิดให้เล่นและเป็นวันที่แดนสงครามเปิดเล่น
วันที่ 19 เมษายน เวลา 00.00 น.
“ลิ้งค์เกม…”
เช้าวันต่อมาก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้น ภายในสถาบันศาสตร์นักรบ กายแบกดาบที่พึ่งสร้างเสร็จเมื่อวานวิ่งมาที่ลานฝึกกลางของสนามประลองกลาง
ทันทีที่จับดาบ เขาก็รอดูว่ามันจะมีอะไรขึ้นหรือไม่ แต่หลังจากนั้น 5 นาทีก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
‘ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น? หรือว่าต้องเรียกหน้าจอขึ้นมาเหมือนค่าสถานะ’
“ค่าสถานะอาวุธ”
ในตอนนั้นเองพอจะเรียกหน้าจอสถานะอาวุธ เหนือตัวดาบก็มีข้อมูลแสดงขึ้นมา
“ดาบไม่มีชื่อ”
“ระดับ 5”
“ความสัมพันธ์กับดาบ 90%”
“ผู้สร้าง เดวิน”
……
“ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ”
กายลองปล่อยดาบลงหน้าจอก็หายไป เขาจึงลองหยิบดาบที่เคยยืมมาจากร้านขายอาวุธต้นไม้เงิน
“ค่าสถานะอาวุธ” เขาพูดแบบเดิม
“ดาบเหล็กทั่วไป”
“ระดับ 2”
“ความสัมพันธ์กับดาบ 3%”
“ผู้สร้าง มาเช”
กายไม่รู้ว่าใครคือมาเช บางทีชายที่ชื่อมาเชอาจจะเป็นช่างโลหะทั่วไปภายในนครดาราฟ้า
แต่สิ่งที่เขาสนใจมากกว่าคนสร้างก็คือค่าความสัมพันธ์ของดาบทั้งสองของดาบมันต่างกันมากจริง ๆ
‘ข้าสามารถตั้งชื่อดาบได้ใช่ไหม’ เขาหยิบดาบเดซี่ขึ้นมา “ตั้งชื่อดาบว่า ดาบเดซี่”
เดซี่ แปลว่าดอกไม้สีขาว เพราะใบดาบสวยงามและบริสุทธิ์เหมือนดอกไม้สีขาว และหญิงสาวที่ดูไร้เดียงสา ดังนั้นชื่อนี้จึงเหมาะกับดาบเล่มนี้มาก
“ดาบเดซี่”
“ระดับ 5”
“ความสัมพันธ์กับดาบ 90%”
“ผู้สร้าง เดวิน”
ตอนนี้ดาบมีชื่อแล้วมันจึงแสดงขึ้นมา หลังจากนั้นกายก็ลองทดลองดูไม่ว่าเขาจะเรียกค่าสถานะแบบพูดออกมาหรือคิดในใจ มันก็แสดงออกมาได้เหมือนกับค่าสถานะตัวละครของเขา
หลังจากนั้นกายก็ฟันดาบขึ้นและลง ขึ้นและลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้นดีจนครบ 300 ครั้ง เขาก็หยุดพักและปาดเหงื่อบนใบหน้า
“ศิลปะการต่อสู้ ฟัน เพิ่มขึ้นมา 6% แล้ว” กายรู้สึกพอใจกับตัวเลขพอสมควร
“ฟันต่อเนื่องสามร้อยครั้งได้ 3% ตอนนี้ฉันต้องการอีก 94% เพื่อสำเร็จศิลปะการต่อสู้ขั้น 1 ก็ต้องฟันดาบอีก 9,400 ครั้ง” เมื่อคำนวณตัวเลขเสร็จกายก็นิ่ง ๆ ไป
“เอาวะอย่างน้อยดาบเดซี่นี้ก็ช่วยข้ามากแล้ว ถ้าข้าฝึกด้วยดาบเล่มอื่นคงต้องฟันมากกว่านี้หลายเท่าตัวกว่าจะฝึกขั้นแรกของศิลปะการต่อสู้ ฟัน ได้สำเร็จ”
“หนึ่ง…สอง…สี่สิบ…หนึ่งร้อย…ห้าร้อย…หนึ่งพัน…หนึ่งพันห้าร้อย…สองพัน!” พอฟันถึงครั้งที่สองพันดวงอาทิตย์ก็ขึ้นเหนือหัวแล้ว แต่อย่างน้อยเขาก็ฝึกฟันดาบได้สองพันครั้งซึ่งแทบจะเป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว กายรู้สึกขอบคุณช่วงเวลาในการตีดาบ ทุบเหล็กไม่หยุดหลายวันในเกม เพราะมันทำให้เขาอึดและแข็งแกร่งมากกว่าเดิม
“ศิลปะการต่อสู้ ฟัน 0/2 (26%)”
‘ทำงานในโรงตีเหล็กไร้เวลาก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียวอย่างน้อยมันก็ทำให้ข้าอึดและแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้’
หลังจากพอใจกับการฝึกของตัวเองกายก็คิดว่าควรหยุดพักจะไปหาอะไรกิน ตอนไปซื้อดาบเขาเห็นร้านเนื้อหมูตุ๋นอยู่เลยอยากกิน ‘อาหารด้านในก็แพงกว่าข้างนอก ดังนั้นข้าควรจะประหยัดเงินหน่อย’
แต่ขณะที่เขากำลังจะเก็บดาบเข้าฝักก็พึ่งจะสังเกตว่ารอบตัวของเขาเต็มไปด้วยผู้คน แม้ปกติในลานฝึกคนจะเยอะอยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ได้เยอะเท่านี้มาก่อน
“พี่ชายทำไมคนถึงมาที่ลานกว้างกันมากขนาดนี้” กายลองเดินไปถามศิษย์ชายปีหนึ่งแถวนั้นดู
“เจ้าไปอยู่ไหนมา ไม่รู้เหรอว่าวันนี้มีการดวลกันระหว่างเด็กชั้นปีหนึ่ง”
“การดวลกัน”
“ใช่ เห็นว่าเป็นการท้าสู้ของวิลเลียมซึ่งถูกจัดให้เป็น 10 ศิษย์ปี 1 ที่แข็งแกร่งที่สุดของรุ่นเรา จากการจัดอันดับศิษย์ ส่วนอีกคนข้าไม่รู้จักแต่เห็นว่าชื่อ เดวินอะไรนี่แหละ”
“แล้วอะไรคือ การจัดอันดับศิษย์?”
“อะไรกัน เจ้าไปอยู่ไหนมาถึงไม่รู้เรื่องนี้” ชายคนนั้นมองมาที่กายด้วยความสงสัยว่าเขาใช่ศิษย์ของสถาบันศาสตร์นักรบหรือเปล่า
“พอดีข้าเป็นพวกชอบเก็บตัว พี่ชายพอจะบอกเรื่องนี้ให้ข้ารู้ได้ไหม” กายแกล้งเกลาหัวด้วยความอาย อันที่จริงมันก็จริงตั้งแต่ที่เข้ามาในสถาบันเขาก็แทบจะไม่รู้เรื่องอื่น ๆ ของสถาบันเลยนอกจากโรงตีเหล็กไร้เวลากับคาบเรียนของตัวเอง
“งั้นก็ได้ การจัดอันดับศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของแต่ละชั้นปี ถูกจัดขึ้นโดยศิษย์ ปี 3”
“ทำไมศิษย์ ปี 3 ถึงต้องทำเรื่องพวกนี้ด้วย”
“ก็เพราะการจัดอันดับจะช่วยให้พวกเขาหาคนเข้ากลุ่มได้ กลุ่มพวกนี้ก็เหมือนการดึงคนเข้าร่วมกองกำลังต่าง ๆ ที่มีในนครดาราฟ้า”
“เดียว ไม่ได้หมายความว่า คนที่จบไปจะเข้าร่วมกับกองทัพทั้งหมดเหรอ”
“นั้นก็ส่วนหนึ่ง แต่ในสังคมชนชั้นสูงของนครดาราฟ้า นอกจะมีตระกูลเจ้าพนักงานแล้ว ยังมีพวกกองกำลังทหารรับจ้าง กลุ่มการค้า และตระกูลร่ำรวยอื่น ๆ อีกที่ต้องการสนับสนุนทรัพยากรให้กับคนเหล่านี้เพื่อผูกสัมพันธ์แลกกับการช่วยเหลือของศิษย์ที่จบไปจากสถาบันศาสตร์นักรบในอนาคต” ชายคนนั้นอธิบายอย่างรวดเร็ว
“โอ้ ขอบคุณที่พี่ชายช่วยอธิบาย” กายกล่าวขอบคุณไป ‘ข้าไม่คิดเลยว่ากลุ่มต่าง ๆ ในนครดาราฟ้าจะใช้วิธีนี้ในการซื้อตัวหรือสร้างเส้นสายกับเด็กที่จบจากสถาบันศาสตร์นักรบแบบนี้ แต่มันก็ไม่แปลก เพราะในบรรดาเด็กที่เข้าเรียนที่นี่ ไม่ได้มีแค่ลูกเจ้าพนักงานแต่ยังมีคนแบบข้าอีกเยอะ นี่สินะคือการลงทุนล่วงหน้า’
“พี่ชายอะไร ข้าก็อายุเท่าเจ้านี่แหละ เรียกข้าว่า…เออ” ก่อนที่ชายคนนั้นจะพูดจบ วิลเลียมละพักพวกก็เดินมาหยุดอยู่หน้าชายคนนั้น
“หลบไป” วิลเลียมพูดออกมาโดยไม่ค่อยเป็นมิตรนัก
“ได้ ๆ” ชายคนนั้นรีบหลบออกไปด้วยกลัวว่าจะไปหาเรื่องคนที่ไม่ควรเข้า
……
“ข้าคิดว่า ขยะอย่างเจ้าจะแกล้งลืมแล้วไม่มาตามนัดซะอีก” วิลเลียมพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เชิดขึ้น
“เจ้าบ้าน้ำลายนะ อีกอย่างปากเจ้าเหม็นรู้ตัวไหม” กายพูดกับวิลเลียมไปตรง ๆ ยิ่งกว่าขวานผ่าซาก
“เจ้า!”
“เจ้าอะไร ถ้าจะสู้ก็มาสู้กันพูดมากอยู่ได้” กายเดินไปกลางลานประลองคนโดยรอบแหวกทางออกทันที
“ดีเจ้ารนหาที่เองนะ แต่ถึงยังไงข้าจะไม่สู้กับคนอ่อนแอแบบเจ้าแน่นอน โจชัวจัดการมันแทนข้าที” วิลเลียมหันไปบอกชายร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“โอ้ได้แน่นอน ข้าจะได้ยืดเส้นยืดสายหน่อย” โจชัวเดินออกมาเผชิญหน้ากับกายพร้อมกับทำท่าหักมือไม่ต่างจากนักเลงแม้แต่น้อย
“ถ้าเจ้ายอมก้มหัวขอโทษวิลเลียมข้าจะเบามือกับเจ้าแล้วกัน เจ้าคิดว่าไง” โจชัวแสยะยิ้มมองดูกาย
“ข้าไม่ชอบผู้ชาย” กายไม่สนใจคำพูดไร้สาระของโจชัว
ในขณะที่โจชัวยังงงกับคำพูดของกาย แต่เมื่อรู้ว่ากายหมายความว่าอะไร โจชัวก็โกรธมาก
“ไม่ใช่…ข้าไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”
“ไม่ต้องห่วงข้าไม่บอกเรื่องเจ้ากับวิลเลียมหรอก” กายพูดออกมาราวกับว่ามันมีความลับบางอย่าง
ทุกคนมองการสนทนาของกายและโจชัวแบบแปลก ๆ จากนั้นก็หันไปมองวิลเลียม
“บัดซบถ้าเจ้ากล้าพูดอะไรอีกข้าจะสับเจ้าเป็นชิ้น ๆ ” โจชัวพูดด้วยความโหโม แต่พอโจโชเห็นดาบของกายเขาก็หันไปพูดจาดูถูกกายแทนเพื่อเอาคืน
“ดาบพุ ๆ พัง ไ ของเจ้าช่างเหมาะสมกับเจ้าจริง ๆ” แน่นอนว่าโจชัวไม่ได้ชมกาย แต่กำลังด่ากายว่าจนอยู่ โจชัวเอาดาบของตัวเองออกมาโช มันมีด้ามจับสีทองปลอกดาบทำจากไม้ราคาสูงฝังด้วยหินสีทั้งสวยงามและหรูหรา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าราคาของมันนั้นแพงอย่างมากแน่นอน
“ถ้าเจ้ามองแต่ภายนอก ก็ถือว่าเจ้าตาถั่วแล้ว” กายชักดาบเดซี่ออกมา ทันทีที่ดาบออกมามันก็สะท้อนกับแสงแดดรอบ ๆ สวยงามเป็นอย่างมาก ศิษย์ปีหนึ่งที่มองอยู่รอบ ๆ ต่างก็ตกตะลึงในความสวยงามของดาบเดซี่เช่นกัน
“เหลือเชื่อดาบของเจ้านั้นสวยมาก”
“บริสุทธิ์ราวกับหญิงสาว”
“ดาบนั้น ต้องเป็นดาบระดับ 4 อย่างแน่นอน”
“ใช่ถ้าคนที่ใช้ดาบระดับ 4 เรียกว่าจนแล้วพวกเราเรียกว่าอะไร”
“ข้าใช้ดาบระดับ 3 ถ้างั้นข้าก็โคตรจนเลยสิงั้น”
ทุกคนตกอยู่ในมนต์สะกดของดาบเดซี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
‘บ้าน่า มันจะเป็นไปได้ยังไง เด็กหลังเขาจากหมูบ้านนายพรานจะมีเงินไปซื้อดาบแบบนั้นได้ยังไงกัน มันอาจจะดีกว่าดาบของข้าอีก’ วิลเลียมมองดูดาบของกายด้วยความโลภ
“อะแฮ่ม…มันก็แค่ดาบที่มีแต่ความสวยงามไม่มีพลัง คงเหมาะกับผู้หญิงใช้เท่านั้น ผู้ชายแบบพวกเราต้องใช้ดาบแบบนี้ถึงจะดูสมกับเป็นผู้ชาย” โจชัวพูดเพื่อให้ทุกคนเห็นว่าดาบของเขานั้นก็ไม่แพ้ของกาย แต่ทุกคนถึงกับเบ้ปากเหล่ตามองบนทันที
“มาเริ่มกันเถอะ”
ทั้งกายและโจชัวชักดาบของตัวเองตั้งท่าเตรียมสู้ แต่ตอนนั้นเอง
“เดี๋ยวก่อน” เสียงของวิลเลียมก็ดังขัดขั้นมา
“มีอะไรอีก”
“เจ้ากล้าพนันกับข้าไหม”
“พนัน?”
“ใช่ถ้าเจ้าแพ้ ข้าจะเอาดาบของเจ้าไป แต่ถ้าเจ้าชนะข้าจะจ่ายด้วยเหรียญทองเทียบเท่ากับราคาของดาบในมือของเจ้า เจ้ากล้าไหมเดวิน” วิลเลียมมองกายอย่างท้าทาย
ทุกคนรู้ว่าวิลเลียมต้องการอะไร เขาต้องการดาบในมือของกาย แม้จะบอกว่ามันเหมาะกับหญิงสาวมากกว่า แต่ก็ใช่ว่าผู้ชายจะใช้ไม่ได้ อีกอย่างดาบนี้ต้องไม่ใช่ของระดับต่ำอย่างแน่นอน วิลเลียมคิดจะจับเสือมือเปล่า
“ตกลง” กายตอบแบบไม่ต้องคิดทันที เขาต้องการเหรียญทองจริง ๆ เพราะตอนนี้เงินในกระเป๋าของเขาเกือบหมดแล้ว ถ้าได้เหรียญทองมาเขาจะสร้างมันอีกสักสองสามเล่มก็ได้ และตอนนี้เขาจนมากจริง ๆ
“แต่มีข้อแม้ห้ามใช้ศิลปะการต่อสู้”
“ได้” วิลเลียมยิ้มออกมาด้วยสายตาที่เป็นประกาย ‘ดาบนั้นควรจะอยู่ในมือข้ามากกว่าสวะแบบนั้น’
ส่วนกายนั้นก็แสยะยิ้มออกมาเช่นกัน เพราะนั้นหมายความว่ากายและโจชัวอยู่ในเงื่อนไขเดียวกันแล้ว
“มาเริ่มกันเถอะ โจชัวจัดการมันซะ หักขามันทั้งสองข้างด้วย ถ้านายทำได้ฉันจะจ่ายให้ร้อยเหรียญทอง”
“งานง่าย ๆ ” โจชัวตอบกลับวิลเลียมราวกับว่าเขาเอาชนะกายได้อย่างแน่นอนจากนั้นเขาก็หันมาพูดกับกายว่า “เจ้าคงเจ็บหน่อยนะ”
“ข้าบอกแล้วว่าไม่ชอบผู้ชาย” กายพูดด้วยท่าทีกวนโมโห
“บัดซบตายไปซะ” โจชัวเปิดฉากโจมตีกายด้วยความโกรธ แต่กายก็เตรียมรับมือไว้อยู่แล้ว