ตอนที่ 63 รหัส 99
“พวกเจ้ารู้แล้วใช่หรือไม่ว่าผู้ได้ 10 อันดับแรกสามารถรับภารกิจ เพื่อเลื่อนชั้นเรียนไปปี 2 ได้ในทันที” อาจารย์คาเตอร์ถามเข้าตรงประเด็น
สายตาของทุกคนต่างก็คาดหวังเมื่อได้ยินคําถามของอาจารย์คาเตอร์ ยกเว้นอาลีน่าผู้ที่มีลุงเป็นถึงอาจารย์ใหญ่ของที่นี่
บางที่อาจารย์ใหญ่แอดดิสันคงมีวิธีให้เธอเลื่อนชั้นเรียนอยู่ แล้วแม้จะไม่ติดหนึ่งในสิบ..แต่นั่นคงไม่ใช่วิธีที่ทั้งอาลีน่าและแอดดิสันชอบ
กายคิดว่าบางที่อาลีน่าคงอยากจะพิสูจน์ให้ลุงของเธอเห็น ทําให้หญิงสาวมักมีนิสัยชอบแข่งขัน
ถ้าการได้เลื่อนชั้นไปเรียนปีสอง เราก็จะสามารถเข้าถึงศิลปะการต่อสู้ขึ้นสูงได้มากขึ้น แต่ปัญหาคือพื้นฐานเรายังไม่มากพอ เช่นการขี่ม้าเพื่อใช้ในการเดินทาง แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลให้ปฏิเสธ
ค่อยหาเวลาไปเรียนรู้เอาก็ได้หลังจากนี้
ชายหนุ่มตระหนักถึงเรื่องการขี่ม้า เพราะถ้าจะให้มานั่งรถม้าในการเดินทางตะลอดมันก็ยังไงอยู่ โดยเฉพาะการเดินทางไกลๆ ซึ่งการนั่งรถม้านั้นช้ากว่าการเดินทางด้วยม้าโดยตรงมาก
เมื่อเห็นว่าทุกคนมองมาที่ตนเอง อาจารย์คาเตอร์ก็เข้าใจว่าทั้ง 10 คนรู้อยู่แล้ว แต่ก็ยังอธิบายต่อ
“การเลื่อนชั้นเรียนไปปี 2 โดยตรงนั้น จะมีภารกิจให้ทํามันมีอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ไม่อันตรายเกินความสามารถของพวกเจ้าอย่างแน่นอน ถ้าทําโดยไม่ประมาท พวกเจ้าสามารถเลือกปฏิเสธภารกิจได้ แต่จงจําไว้ว่าโอกาสมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ข้าจะให้พวกเจ้าตัดสินใจอีกครั้ง” สีหน้าของอาจารย์คาเตอร์ดูจริงจังเป็นอย่างมาก
แต่ไม่มีทางสั่นคลอนความมุ่งมั่นของทั้งสิบคนได้ ส่วนกายนั้นไม่ต้องพูดถึง มันมีสามชีวิต และดูจากการฟังแล้วภารกิจนั้นคงจะทําด้านนอกนครดาราฟ้า ถ้าเกิดตายขึ้นมาก็แค่รอเวลาฟื้นคืนกลับมาที่สถาบันศาสตร์นักรบโดยอ้างว่าตนเองหลงทางก็ได้
ซึ่งนั้นจะทําให้ชายหนุ่มกลับมาใช้ตัวตนเดวินนักเรียนชั้นปี 1 ได้ แต่จะให้วิธีนี้จะต้องไม่มีใครเห็นตอนที่มันตาย
เมื่อไม่มีใครปฏิเสธ อาจารย์คาเตอร์ก็ให้อาจารย์อิกลินเป็นผู้บอกภารกิจ ส่วนตัวอาจารย์คาเตอร์ก็ถอยออกไปยืนคุยกับคนปริศนาอีกคน
“ภารกิจของพวกเจ้าคือ การตามล่าโจรที่ทุ่งหญ้ากิรา โดยกําหนดค่าหัวของโจรคือค่าหัว 1,000 เหรียญทองจํานวน 3 คน และ โจรค่าหัวจํานวน 3,000 เหรียญทองอีกหนึ่งคน ส่วนเวลาในภารกิจนั้นคือไม่เกินสองเดือน มีเวลาให้เตรียมตัวอีกสามสัปดาห์ค่อยออกเดินทาง”
ภารกิจระยะยาว!
กายมีสีหน้าครุ่นคิดดูเหมือนชายหนุ่มจะได้ภารกิจระยะยาวมาทํา ทุ่งหญ้ากิรานั้นคือที่พวกกิลด์กะโหลกแดงหลบอยู่สินะ แต่กําหนดการของเราคืออีกเกือบยี่สิบวัน บางทีพวกนั้นคงถูกทหารจากป้อมปราการตะวันออกกวาดล้างจนหมด หรืออาจจะหนีกันออกจากทุกหญ้ากรากันหมดแล้วเมื่อถึงเวลา
อีกสามสัปดาห์ในโลกราชันก็ตรงกับวันที่ วันที่ 24 เดือน 2 ปีดาราที่ 997 ยังมีเวลาเตรียมตัวทําหลายอย่างอยู่
แน่นอนว่าหลังจากแจ้งเรื่องภารกิจแล้ว อาจารย์อิกลินยังไม่ได้ให้ทุกคนออกไป
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง” อาจารย์อิกลินจงใจเว้นระยะก่อนจะกล่าวต่อ “ทางอาจารย์ใหญ่แอดดิสันคิดว่าในระหว่างภารกิจ พวกเจ้าสามารถใช้ค่าหัวของกลุ่มโจรกะโหลกแดงมาทดแทนได้เช่นกัน นี่เป็นกรณีพิเศษ แน่นอนว่าค่าหัวของพวกมันอาจจะไม่ถึงหนึ่งพันเหรียญทอง แต่สามารถใช้หลายหัวรวมกันได้”
ทุกคนได้ยินก็เงียบลงไม่เว้นแม้แต่กาย
หรือว่าประโยคที่อาจารย์ใหญ่บอกว่าจะส่งคนไปรวมไล่ล่าด้วยจะเป็นพวกตน ไม่น่าจะใช่ถ้าแบบนั้นคงส่งไปทันทีหรือไม่ เกินสองวันนี้อย่างแน่นอนคงจะเป็นคนอื่นมากกว่า อาจจะพวกปี 2 หรือ ปี3 เหล่านั้น
กายได้แต่คาดเดา
“อาจารย์อิกลิน เราจะใช้อะไรในการยืนยันการล่าในเมื่อถ้าพวกมันตายก็จะกลายเป็นลูกไฟหายไป” ลิลี่ยกมือถามด้วยความสงสัย
คนอื่นก็อยากจะรู้เช่นกัน
“แน่นอนว่าถ้าฆ่าครั้งเดียวอาจจะทําให้มันกลายเป็นลูกไฟหายไป” คนปริศนาแต่งกายด้วยชุดสีดําจรดปลายเท้า ที่เอวนูนออกมาเล็กน้อยราวกับเหน็บบางอย่างไว้ ชายคนนี้ไม่จงใจปิดบัง มันคือปืนคาบศิลาที่ทําจากโลหะสีเงินสลักลวดลายไว้ ที่นิ้วใส่แหวนเงินโลหะรูปดาวประกายหกแฉก
ใบหน้ายิ้มแย้ม แต่แฝงด้วยความอันตรายสูงมากไม่แพ้อาจารย์อิกลิน ชายคนนั้นก้าวเดินออกมาพูดกับพวกเขา
นักเรียนแต่ละคนมีการตอบสนองต่างกันไปอยากจะมีใครสังเกตได้
“ขอโทษที ข้าคงลืมแนะนําตัว ข้าคือ 99 จากหน่วยงานเงาราตรี หน่วยงานที่อยู่ภายใต้สภาสูง ครั้งนี้เราได้รับผิดชอบในการติดตามและประสานงานกับกองกําลังทหารและรวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ไฟ” ชายคนนั้นแนะนําตัวอย่างสุภาพโดยไม่ถือตัวแม้แต่น้อย
ทั้งชื่อคนและชื่อหน่วยงานราวกับองค์กรนักฆ่าหรือไม่ก็พวกใต้ดินไม่มีผิด ไม่สิ เชื่อแบบนี้ก็ไม่แปลก ดูเหมือนจะเป็นองค์กรทําเรื่องสีเทาให้กับสภาสูง หรืออาจจะออกแนวตํารวจลับของนครดารา
จริงอยู่ที่ว่านครดาราใช้ทหารในการดูแลความปลอดภัยทั้งในและนอกเมือง แต่ก็คงจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่มีหน่วยงานที่มาคอยจัดการดูแลภายใน เพราะการเคลื่อนไหวทหารคงทําไม่ค่อยสะดวกในบางเรื่อง
กายระวังตัวมากขึ้น เมื่ออยู่ใกล้ชายคนนี้ มันกลัวว่าชายที่ชื่อ 99 จะชักปืนออกมายิงตนที่เป็นผู้เล่นทิ้ง
“จากที่แม่หนูน้อยถามว่าทําอย่างไร…เราจะใช้อะไรในการยืนยันตัวตนของมนุษย์ไฟที่ฆ่าใช่ไหม” 99 หันไปมองลิลี่ด้วยท่าที่ตาลุงแปลกหน้า
เธอจึงพยักหน้าตอบเบาๆกลับไปก่อนจะถอยไปข้างมีอาราวกับเธอกลัว 99 แต่กายรู้ว่าไม่น่าใช่ บางทีเธออาจจะอยากซัดหมัดเข้าหน้า 99 แต่กลัวจะสร้างเรื่องไม่เป็นเรื่องจึงถอยไปข้างมีอา
99 เห็นท่าที่กลัวๆของลิลี่ ก็รู้ว่าตัวเองทําเธอกลัว จึงกระแอมเบาๆกลบเกลื่อนและกลับมาทําหน้าตาเป็นมิตรพูดต่อว่า “ที่จริงแล้วในช่วงสองวันที่ผ่านมาเราพบสิ่งหนึ่ง มนุษย์ไฟหลังจากที่พวกมันตายจะฟื้นคืนชีพกลับมา ทางเราตั้งชื่อให้ว่า การเกิดใหม่ จุดเกิดจะไม่ห่างจากจุดที่ตายเกิน 100 เมตร หลังจากรู้เรื่องนี้ทางเราจึงตั้งข้อสงสัยว่า พวกมนุษย์ไฟเกิดใหม่ได้กี่ครั้ง”
“เกิดใหม่? ” ทุกคนพึมพําออกมาด้วยอาการทึ่ง กายแกล้งทําตามคนอื่นกลัวไม่เข้าพวก
“แล้วหน่วยเงาราตรีทํายังไง” วิลเลียมถามไปด้วยความอยากรู้
99 ยิ้มออกมาก่อนจะพูดด้วยหน้าตานิ่งเฉย “ก็ฆ่าไปเรื่อยๆ”
กายรู้สึกขนลุกขณะเดียวกันก็สวดมนต์ให้พวกกิลด์กะโหลกแดงที่ถูกจับ
“จากการทดลองพวกมันสามารถคืนชีพได้สามครั้ง หลังจากนั้นถ้าฆ่าพวกมันร่างจะไม่หายไป”
“แค่ฆ่าพวกมันจนหมดความสามารถคืนชีพก็สามารถตัดหัวพวกมันได้แล้วสินะ” โจชัวพูดด้วยความกระหาย
99 พยักหน้าเป็นการยืนยัน
นี่เป็นครั้งแรกที่กายได้ยิน มันเคยรู้ว่าลิงก์เกมจะให้ผู้เล่นคืนชีพได้สามครั้ง แต่ไม่เคยรู้ว่าถ้าตายจะเกิดในจุดเดิมหรือใกล้เคียง รวมทั้งหลังจากหมดชีวิตถ้าตายร่างจะไม่หายไป
คงจะเหมือนกับตอนที่เราล็อกเอาออกจากเกม ตัวละครของเราก็จะนอนหลับไปเฉยๆ แบบนั้นถ้าถึงเวลาคืนชีพ แต่เรายังไม่เข้าตัวละครก็จะนอนแน่นิ่งเหมือนตอนล็อกเอาท์หรือเปล่า น่าจะเป็นแบบเดียวกัน
กายสันนิฐานตามสิ่งที่ได้ยิน
“ทําไมถึงบอกเรา” อาลีน่าผู้มีความเป็นผู้นําถามขึ้น แม้แต่เธอที่เป็นหลานสาวของอาจารย์ใหญ่แอดดิสันยังไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน บางที่ลุงของเธออาจจะต้องการให้เธอรู้พร้อมกับนักเรียนในนี้ ซึ่งการรู้ก่อนก็ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนอะไร
“เพราะทางหน่วยงานเงาราตรีต้องการกําลังคนในการไล่ล่ามนุษย์ไฟคนอื่นๆ ไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มโจรกะโหลกแดง เราต้องการร่างหรือข้อมูลพวกมัน แต่ดูเหมือนพวกมนุษย์ไฟจะ มีการติดต่อที่แปลกประหลาด พวกมันสื่อสารกันได้แม้จะอยู่ไกลกันก็ตาม ดังนั้นทางหน่วยงานเงาราตรีจึงไม่ไว้ใจใคร แต่กําลังคนเราไม่พอที่จะกวาดทั้งนครหรือพื้นที่อื่นๆ ดังนั้นตัวเลือกคือการหากลุ่มคนที่ไว้ใจและไม่มีพวกมนุษย์ไฟแฝงตัวอยู่มาร่วมด้วย และพวกเจ้าทั้ง10คนก็ไม่ใช่มนุษย์ไฟ จึงปลอดภัยที่จะดึงตัวมาร่วม” 99 บอกไปตามตรง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาควรรู้เท่านั้น
ผิดแล้ว เราบอกได้เลยว่าที่นี่มีมนุษย์ไฟแฝงตัวอยู่ กายเสริมในใจมันไม่กล้าพูดออกไป
กายคิดจะถามว่าพวกเรายังเป็นเด็กนักเรียนทําไมถึงต้องเขาไปพัวพันด้วย แต่ชายหนุ่มก็ไม่ถามออกไป เพราะถ้าคิดตามจริง สถาบันศาสตร์นักรบก็เป็นโรงเรียนเตรียมทหาร
หลังจากไม่มีใครถามอะไรอีก ทุกคนก็ออกมาจากห้องโถงแห่งนั้น ทิ้งให้อาจารย์ทั้งสองพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เงาราตรีที่ ชื่อ 99 ต่อไป
“ไม่ใช่ชื่อคงต้องเรียกว่ารหัส 99 ที่ใช้ในหน่วยงานเงาราตรีแทนชื่อจริงถึงจะถูก” กายพึมพําออกมา
“เจ้ากําลังคิดอะไรอยู่”
ในตอนนั้นเองมีอาผู้เงียบอยู่ตลอดก็ถามออกมา ชายหนุ่มหันไปตอบเธอตามปกติ “ข้าคิดว่าถ้าจบจากที่นี่แล้วได้ทํางานในหน่วยเงาราตรีคงดีไม่น้อย”
“ถ้าเจ้าต้องการเข้าหน่วยเงาราตรี ข้าจะไปขอร้องท่านปู่ให้เขาช่วยเสนอชื่อเจ้าให้”
“แบบนั้นไม่ดีกว่า”
กายทําเพียงหัวเราะแห้งๆ
ไม่คิดว่าปู่ของเธอจะมีเส้นสายในหน่วยเงาราตรีด้วย แต่ทําไมมีอาถึงไปอาศัยอยู่ในหมู่บ้านชนบทแบบนั้น หรือพวกตระกูลเจ้าพนักงานชอบส่งลูกหลานตัวเองไปเผชิญความลําบากเพื่อจะได้โตเป็นผู้ใหญ่โดยเร็วเหมือนพวกขุนนางในสมัย โบราณที่อาจารย์วิชาประวัติศาสตร์เคยสอนกันละมั้ง แน่นอนว่าอาจารย์ที่ว่าคือที่โลกจริงในเขต 7
“จริงสิ ถ้าจะเรียนขี่ม้าต้องไปที่ไหนหรือในสถาบันศาสตร์นักรบมีสอนไหม”
“เรียนขี่ม้า? ”
ทั้งมีอาและลิลี่ถามกลับมาและมองกายขึ้นๆลงๆ กายถึงกับสงสัยว่ามันมีอะไรแปลกติดใบหน้าของตนหรือเปล่า แต่พอจับดูก็คิดว่าตัวเองปกติดี
“เจ้าขี่ม้าไม่เป็นเหรอ” ลิลี่ถามชายหนุ่มด้วยใบหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“หืม..หรือว่าทุกคนต้องขี่ม้าเป็นกันหมด” กายถามกลับไป
“เออ..เปล่า”
“ไม่เป็นไร พอดีข้าอาศัยอยู่บนเขาจึงไม่ค่อยได้ขี่ม้า ส่วนใหญ่จะปีนต้นไม้ซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะเล่นกับลิงบ่อย” กายบอกไปตามตรง แน่นอนว่ายังเล่นมุกเพื่อเบนความสนใจ
“เจ้าเคยเจอลิงด้วยอย่างนั้นเหรอ ข้าเคยได้ยินว่าลิงหนึ่งตัว ราคา 1000 เหรียญทอง แถมถ้าตัวที่ฝึกแล้วยังแพงขึ้นไปอีก เจ้าเล่าให้หน่อยได้ไหมว่าลิงที่เจ้าเล่นด้วยเป็นยังไง” ลิลี่ถามด้วยความอยากรู้
“เออ.” ที่จริงกายก็ไม่เคยเจอลิงตัวเป็นๆแม้สักครั้งมัน จึงตอบไปแบบส่งๆ
“แน่นอนมันใส่ชุดสีเทา ผูกผมเปียทั้งสองข้าง หมัดหนักมาก ร่างกายแข็งแรง พละกําลังมหาศาลและตัวเล็กพอสมควร” กายมองไปที่ลิลี่และกล่าวออกมา ลิลี่ดูจะสนใจลิงน้อยในจินตนาการของกาย เธอพยายามคิดภาพลิงตามโดยยังคงไม่รู้ตัว ว่ากายไม่ได้อธิบายถึงลิง
มีอาที่อยู่ด้านข้างพลางกลั้นขา ทําเอากายมองอย่างเหม่อ ลอย คิดว่าเธอสวยมากเวลาหัวเราะ แต่สุดท้ายชายหนุ่มก็ข้า ตามมีอาเมื่อมองสีหน้าของลิลี่
ลิลี่มองไปที่สองคนว่าหัวเราะอะไรกัน
“ถ้าแค่ฝึกม้าให้พวกข้าสองคนสอนก็ได้ แต่คงต้องรอเจ้าหายดีก่อน” มีอาบอกกับกายด้วยรอยยิ้มมุมปาก
“ด้วยความยินดี งั้นอีก 4 วันเจอกันที่ลานต้นโอ๊ค” กายพูดจบก็รีบเดินออกไป ปล่อยให้ลิลี่ผู้ยืนงงอยู่ไว้กับมีอา
ในที่สุดลิลี่ก็รู้ว่าที่กายบอกมันคือลักษณะของตัวเธอเอง
“ข้ากําลังจินตนาการว่าตัวเองเป็นลิง อ้า มีอา ทําไมเจ้าไม่บอกข้า”
“บอกว่าเจ้าเป็นลิงนะเหรอ”
มีอายิ้มออกมาหน้ามึนๆไปทางเพื่อนสาวนานๆทีเธอจะเอาคืนได้สักครั้ง
กายสับขาเดินไปอย่างไว มันกลัวลิลี่ต่อยท้องอีกครั้ง เด็กสาวคนนั้นหมัดหนักมาก กายไปกินข้าวมื้อเช้ารวมกลางวันที่โถงอาหาร พร้อมกับสั่งเบียร์ข้าวบาร์เลย์มาหนึ่งแก้ว
ก่อนจะกลับไปทําความสะอาดห้องพักก่อนจะนอนพักผ่อนไปในตัว หลังจากนี้กายไม่จําเป็นต้องเข้าเรียนในวิชาของชั้นปี 1 ยกเว้นว่ายังอยากจะเรียนรู้เพิ่มเติม
ส่วนใหญ่แล้วนักเรียนที่ติดสิบอันดับแรกจะสามารถผ่านภารกิจขึ้นไปชั้นปี 2 ได้ทุกคน ส่วนน้อยคือไม่รอดกลับมา ดังนั้นจึงไม่มีใครมาสนใจเรียนเนื้อหาของปี 1 จะทุ่มเทและเตรียมตัวธรรมภารกิจมากกว่า
สามสัปดาห์กายคิดว่าควรเริ่มลงมือจัดการโรงตีเหล็กของตัวเองให้เป็นรูปร่างได้ในเวลานี้ เพราะการเตรียมตัวต้องใช้เงินทุน