“นายท่าน!”
หนิงเทียนปิงนั้นก้าวเดินออกมาจากทะเลแห่งแนวคิดและก้มลงคารวะเย่หยวนสามครั้งติด
สภาพของหนิงเทียนปิงในเวลานี้มันเฉียบคมมากพลังราวกับดาบได้ที่ถูกชักออกจากฝัก เป็นท่าทางที่หนักแน่นแตกต่างจากก่อนอย่างสิ้นเชิง
ความซาบซึ้งที่เขามีต่อเย่หยวนนั้นถูกแสดงออกมาด้วยการก้มคารวะสามครั้งติดนี้
หลายสิบปีที่เฝ้าดูมานี้เย่หยวนได้ทิ้งการบ่มเพาะใดๆ สิ้นและทำเพียงนั่งเฝ้ามองดูการศึกษายอดเต๋าของเขา
เย่หยวนกล่าวชมออกมา “ยอดเต๋าความเป็นความตาย ไม่เลว! ไม่เลวเลยจริงๆ! จากวันนี้ไปเจ้าจะเริ่มเดินขึ้นสู่เส้นทางของยอดฝีมืออย่างแท้จริงแล้ว!”
ที่ด้านข้างนั้นหรูเฟิงต้องยืนอ้าปากค้าง
เพราะมนุษย์กลับมาบรรลุเต๋าได้ในลานศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเทวา!
หากไม่ได้เห็นด้วยตาของตนเองนี้เขาก็คงจะไม่มีทางคิดเชื่อแน่
มนุษย์อันต่ำต้อยมันมาเข้าใจเต๋าของเผ่าเทวาได้อย่างไร?
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือหลายสิบปีมานี้เย่หยวนกลับไม่คิดสนใจจะศึกษารูปปั้นเทวาทั้งแปดนั้นเลย ไม่แม้แต่จะหันไปมอง
เดิมทีหรูเฟิงนั้นยังคิดว่าโชคลาภที่เย่หยวนถามหานั้นมันจะเพื่อตัวเขาเอง
แต่สุดท้ายมันกลับถูกใช้แค่เพื่อตัวหนิงเทียนปิง
เขานั้นคิดดูถูกลานศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเทวาอย่างนั้นหรือ?
แม้จะเป็นตัวหรูเฟิงนี้เขาก็ยังรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
“ข้าบอกแล้วว่าสิ่งที่พวกเจ้าบ่มเพาะศึกษานั้นคือเต๋าสวรรค์แต่มนุษย์เองก็ศึกษาเต๋าสวรรค์เช่นกัน มันไม่ใครสูงใครต่ำกว่าใคร เวลานี้เจ้าจะเชื่อได้หรือยังเล่า?” เย่หยวนถามขึ้น
หรูเฟิงนั้นได้แต่ยืนหน้าดำหน้าแดงอยู่ตรงนั้นราวกับถูกตบหน้าฉาดใหญ่
แม้ว่าเขาจะไม่อยากยอมรับแต่เขาก็รู้สึกได้ว่าหากเย่หยวนเข้าไปศึกษารูปปั้นเทวาทั้งแปดด้วยตัวเองเขาก็คงได้ประโยชน์ไปมิใช่น้อย
แต่เขากลับไม่คิดลดตัวไปศึกษามัน!
ภายใต้การดูแลของเย่หยวนนี้หนิงเทียนปิงกลับสำเร็จเต๋าของตนเอง!
ยอดเต๋าความเป็นความตายนั้นมันเป็นหนึ่งในสุดยอดของยอดเต๋าแล้ว
จากวันนี้ไปหนิงเทียนปิงคงจะพัฒนาขึ้นอย่างเหนือฟ้าดินพัฒนาฝีมือไปอีกอย่างเหลือเชื่อ
เมื่อกลับมาถึงยังบ้านตระกูลหลักเย่หยวนก็ได้เริ่มหลอมโอสถอีกชุดหนึ่งให้แก่หรูเฟิงและบอก “โอสถทั้งหลายนี้จงให้พวกมันกินกันสิบปีครั้ง มันจะช่วยกดพิษไว้ได้ห้าสิบปี หลังจากนั้นเจ้าจงให้หรงซีเยว่มาหาข้าแล้วข้าจะมอบยาแก้พิษให้”
เมื่อหรูเฟิงได้ยินเขาก็ร้องตะโกนขึ้น “เด็กน้อย เราก็ทำตามที่เจ้าต้องการไปทุกอย่างแล้ว! เจ้าจะยังมาเล่นลูกไม้กับเราอีกหรือ?”
เย่หยวนยิ้มเย้ยออกมา “หากข้ามอบยาแก้พิษให้เจ้าไปเวลานี้มีหรือที่ข้าจะรอดออกไปจากโลกใบน้อยนี้ได้? หรืออย่างมากก็คงตายที่ปากทางเข้า”
หรูเฟิงผงะไปทันทีเพราะแผนการใดๆ ของเขากลับถูกมองออกสิ้น
เมื่อจบเรื่องราวเย่หยวนก็ได้พาตัวหนิงเทียนปิงออกจากโลกใบน้อยของตระกูลสายเลือดเร้นมา
เมื่อได้เห็นเย่หยวนออกไปแล้วตัวหรูเฟิงก็รีบปิดทางเข้าออกพร้อมถอนหายใจยาวทันที
“กว่าจะส่งเจ้าโรคร้ายนี้ออกไปได้! ผู้อาวุโสใหญ่ ข้าคิดว่าเจ้าเด็กคนนี้มันอันตรายจนเกินไป เราควรจะไปสังหารมันทิ้งหรือไม่”? หรูเฟิงถามขึ้น
แต่จีหลิงกลับส่ายหัวออกมา “เจ้าเด็กคนนี้มันมากเล่ห์ ที่สำคัญมันยังมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำ มันมิใช่คนที่จะให้ใครไปจัดการก็ได้ พลาดท่าไปจะมีแต่จะซ้ำเติมแผลตัวเองเปล่าๆ บุตรีเทวะท่านเองก็ได้แสดงตัวอย่างว่าผิดพลาดแล้วจะเป็นเช่นไรไปแล้ว หากคิดอยากสังหารมันนั้นอย่างน้อยๆ ก็คงต้องเป็นระดับเต๋าสวรรค์แปดลายขึ้นไป แต่ในสภาพเช่นนี้การให้พวกเราเหล่าผู้อาวุโสออกไปยังมหาพิภพถงเทียนมันจะอันตรายจนเกินไป”
หรูเฟิงยังคงไม่ยอมถอยง่ายๆ “แต่เจ้าเด็กคนนี้มันเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง ข้าสัมผัสได้เลยว่าวันหน้ามันจะเป็นภัยร้ายต่อเผ่าเทวาและต้องถูกกำจัดลงไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใด!”
จีหลิงพยักหน้ารับออกมา “เรื่องนั้นข้าย่อมเข้าใจดี แต่มันคงไม่ทันได้เติบโตเป็นยอดคนไปมากกว่านี้หรอก! เวลานี้บรรพบุรุษเทียนเหอท่านได้ตื่นขึ้นมาบนโลกแล้ว อีกไม่นานทางเชื่อมของสองโลกจะต้องเปิดขึ้นได้แน่ ถึงเวลานั้นแล้วมันก็จะเป็นการปะทะกันของเหล่าบรรพบุรุษทั้งหลาย ตัวมันผู้นี้ย่อมจะไม่มีปัญญาเข้าไปยุ่งเกี่ยวใดๆ ได้! แต่ก่อนจะถึงวันนั้นเราต้องมุ่งหน้าตั้งใจกับการเสริมกำลังและทำการอย่างไม่ประมาท”
หรูเฟิงจึงได้แต่ต้องจำใจพยักหน้ารับออกมา
…
หลังกลับมาถึงเมืองอินทรีสวรรค์เย่หยวนก็ได้เข้าสู่การเก็บตัวไปทันที
เขานั้นได้เอาสมุนไพรมากมายมาจากตระกูลสายเลือดเร้นและมันมากพอที่จะช่วยให้เขาบรรลุขึ้นถึงอาณาจักรพิภพโกลาหลขั้นสุดได้
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือหลายสิบปีมานี้เขาก็มิใช่ว่าไม่ได้ทำอะไรเลยในลานศักดิ์สิทธิ์เผ่าเทวานั้น
เพราะเขานั้นได้ดึงพลังของเขาน้อยแห่งถงเทียนมาปะทะรับพลังของแปดรูปปั้นเทวาไว้อย่างยาวนานทำให้เขานั้นได้เข้าใจถึงการทำงานของบัญญัติเทพแห่งถงเทียนมาขึ้น
เวลานี้เย่หยวนเริ่มจะเห็นภาพของอาณาจักรต่อไปไม่น้อยแล้ว
เขาจึงได้เข้าสู่การเก็บตัวเพื่อวาดร่างอาณาจักรต่อไปอีกครั้ง
ตัวเย่หยวนเองนั้นก็สงสัยไม่น้อยเพราะว่าวรยุทธบ่มเพาะของเขามันแตกต่างจากคนทั่วไปมากมาย หากเขาบ่มเพาะต่อไปแล้วบัญญัติเทพแห่งถงเทียนนี้จะพัฒนาไปเป็นสิ่งใด?
เจ้าฟ้าดิน?
เต๋าบรรพกาล?
ในเมื่อเขานั้นรู้แล้วว่าเต๋าบรรพกาลไม่ได้ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง เช่นนั้นแล้วเขาก็คงสามารถจะก้าวขึ้นไปถึงมันได้ใช่หรือไม่?
ราวยี่สิบปีต่อมาเย่หยวนก็ออกจากการเก็บตัวและมีพลังบ่มเพาะอยู่ในอาณาจักรพิภพโกลาหลขั้นสุด
เพียงแค่ว่าเขานั้นยังไม่อาจจะร่างอาณาจักรต่อไปขึ้นมาได้สมบูรณ์นัก
เพราะเวลานี้โลกของเขานั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความยุ่งเหยิงโกลาหล ก้าวต่อไปของเขามันย่อมจะเป็นการสร้างโลกที่เสถียรขึ้นอย่างแท้จริง
เพียงแค่ว่าการพัฒนาโลกเช่นนั้นมันมิใช่เรื่องง่ายดาย
พิภพโกลาหลของเขานี้มันแตกต่างจากโลกใบน้อยของคนทั้งหลายไปมาก วิธีการใดๆ ที่ใช้เองมันก็ย่อมจะยุ่งยากกว่ากันไปหลายเท่า
จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั่วๆ ไปนั้นจะเริ่มใช้งานลายพระเจ้าได้เมื่อได้รับการยอมรับจากเต๋าสวรรค์
ส่วนตัวเขานี้กลับสร้างเต๋าของตัวเองขึ้นมาในโลกของเขา
มันเป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“ดูท่าคงต้องเดินทางไปเขาแห่งถงเทียนอีกแล้วสินะ!” เย่หยวนถอนหายใจยาว
เขาแห่งถงเทียนนั้นมันคือแหล่งกำเนิดชีวิต เป็นรากฐานของเต๋าสวรรค์ มีเพียงแค่ต้นกำเนิดเช่นนั้นเท่านั้นที่จะทำให้เย่หยวนสามารถเข้าใจถึงโลกของตนเองได้
เมื่อเย่หยวนออกมาจากการบ่มเพาะเก็บตัวเขาก็ได้พบว่าจีโมกำลังมารอพบเขาอยู่
เมื่อได้เห็นเย่หยวนจีโมก็ต้องเบิกตากว้าง
เพราะสภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันดูยิ่งใหญ่ราวขุนเขา
ความรู้สึกเช่นนี้มันจะเกิดขึ้นได้แต่กับตัวตนระดับเหนือล้ำฟ้าดินเท่านั้น
แต่จะดูอย่างไรเย่หยวนก็ยังเป็นแค่เทพสวรรค์ขั้นสุด!
เขาได้รับรู้ว่าทุกครั้งที่เจอเย่หยวนนั้นเขาจะพัฒนาขึ้นไปจนทำให้เขาต้องตกตะลึง
พลังของรองมหาปราชญ์นี้มันเพิ่มพูนขึ้นในทุกวี่วันอย่างแท้จริง!
“ขอคารวะรองมหาปราชญ์!” จีโมก้มลงทักทาย
เย่หยวนมองดูที่จีโมอย่างตกใจไม่น้อยแต่ก็ยังยิ้มรับออกมา “ข้าก็กำลังคิดจะไปหามหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลอยู่พอดี ไม่นึกเลยว่าจะเป็นท่านที่มาหาข้าก่อน มีเรื่องใดหรือ?”
จีโมกล่าว “เวลานี้มันกำลังจะเกิดงานประชุมโอสถสหภูมิภาคขึ้นและพวกเขาก็ได้เชื้อเชิญเหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการโอสถทั้งหลายในมหาพิภพถงเทียนไปยังวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์โอสถบรรพกาล! ท่านอาจารย์เองก็ได้รับเชิญเข้าไปร่วมงานด้วย ท่านจึงได้สั่งให้ข้ามาเชิญรองมหาปราชญ์ไปด้วย”
เย่หยวนที่ได้ยินต้องผงะไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะขึ้น “โอสถบรรพกาลไม่อาจทนรอได้อีกต่อไปแล้วหรือ?”
จีโมก็ยิ้มตอบมา “รองมหาปราชญ์นั้นรู้ความลับของสวรรค์อย่างแท้จริง! ท่านอาจารย์บอกว่างานประชุมในครั้งนี้แท้จริงมันถูกจัดขึ้นเพราะรองมหาปราชญ์!”
ที่ด้านข้างตัวไป๋ตงนั้นต้องอ้าปากค้าง
ตอนแรกที่ได้ยินคำเชิญจากโอสถบรรพกาลพวกเขาทั้งหลายยังรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก
เพราะจะอย่างไรเสียเขาผู้นั้นก็คือผู้ปกครองวงการโอสถในมหาพิภพถงเทียนไว้
การถูกคนเช่นนั้นเชิญไปมันย่อมเป็นเกียรติอย่างมาก
แต่คำพูดต่อมาของจีโมและเย่หยวนมันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง
โอสถบรรพกาลกล้าจัดการยิ่งใหญ่ระดับทั้งพิภพเช่นนี้แต่แท้จริงมันเพราะตัวเย่หยวน?
ทั้งๆ ที่เขาเป็นเพียงแค่จอมเทพโอสถเจ็ดดาว!
คนอื่นๆ นั้นอาจจะไม่เข้าใจแต่จีโมนั้นรู้ดีว่าเวลานี้เต๋าโอสถของเย่หยวนนั้นมันก้าวล้ำขึ้นไปจนถึงราก สามารถสร้างได้แม้แต่โอสถเต๋า
หากเย่หยวนเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่มาอย่างยาวนานตัวโอสถบรรพกาลก็คงไม่คิดจะหาเรื่องท้าทายใดๆ
แต่เย่หยวนนั้นยังเป็นแค่เด็กหนุ่ม!
ความหนุ่มนี้มันจะสร้างรอยแผลบนสถานะของโอสถบรรพกาลได้!
……………