“แต่ทว่า เมื่อดาบนั้นของเจ้าสิ้นไปแล้ว เจ้าจะยังเอาอะไรมาต่อสู้กับข้าได้อีกเล่า?” เทียนเหอยิ้มเย้ยเย่หยวน
เย่หยวนนั้นผสานแนวคิดแห่งดาบเข้ากับแนวคิดแห่งห้วงมิติทำให้เกิดเป็นวิชาดาบที่ล้ำฟ้าดิน ใครได้เห็นก็ต้องขนลุกซ่าน
พลังการต่อสู้เช่นนี้มันจึงจะเหมาะสมกับคำว่าต่อต้านสวรรค์
เพราะฉะนั้นเทียนเหอจึงได้ยอมเสี่ยงเอาตัวเองเข้าอันตรายทำลายดาบของเย่หยวนนั้นทิ้งเสีย
นักดาบที่ไร้ดาบมันจะเป็นอะไรไปได้?
ดาบกระดูกนั้นมันเป็นสิ่งที่สำคัญกับเย่หยวนอย่างมากมายมหาศาล
ตั้งแต่ที่เขาเข้าไปในสนามรบเทพโบราณครานั้น เย่หยวนก็ได้ใช้ดาบกระดูกนี้เป็นดาบประจำกายมาเสมอ
ดาบนี้มันคือสิ่งของที่สืบทอดมาจากตำนาน เย่หยวนจึงใช้มันได้อย่างคล่องมือมาก
การแตกสลายของดาบนี้มันทำให้จิตใจเย่หยวนสั่นคลอนไม่น้อย ราวกับว่าเขาได้เสียสิ่งที่รักไปอย่างหนึ่ง
แต่ในวินาทีนั้นเขาก็ได้สัมผัสถึงเรื่องราวที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน!
ราวกับว่าเขากำลังจะเข้าใจอะไรบางอย่างได้
เย่หยวนนั้นมีจิตใจหนักแน่นสงบนิ่ง เขาจึงได้ตอบกลับไป “ไม่มีดาบ! ก็ใช้มือ!”
ฟุบ!
ในพริบตาต่อมาคลื่นพลังชีวิตของเย่หยวนพุ่งทะยานพร้อมพลังสายเลือดมังกรที่ถูกปล่อยกดทับฟ้าดิน
เทพมังกรเหยียบสวรรค์!
ฝ่ามือล้ำจักรวาล!
หัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์!
แต่ละหมัดของเย่หยวนนี้มันมีแต่จะเร็วขึ้นเร็วขึ้นจนทำให้เกิดเป็นภาพราวกับว่าตัวเย่หยวนมีแขนนับพัน
คลื่นพลังในเวลานี้มันทำให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง
ก่อนหน้านี้พวกเขายังคิดว่าเย่หยวนที่ไร้ดาบมันก็เหมือนดั่งเสือที่ไร้เขี้ยว
แต่เวลานี้พวกเขาได้พบแล้วว่าเมื่อเย่หยวนไม่มีดาบ จากเสือเขากลับกลายเป็นมังกรไปแทน!
มังกรที่ไร้ต้าน!
ภายใต้หมัดชุดนั้นตัวเทียนเหอแทบต้องกระอักเลือดออกมา
นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาคาดเดาผิดไป กำลังฝีมือของเย่หยวนนี้มันน่ากลัวจนถึงขั้นสุดที่ทำให้เผ่าเทวาของเขาต้องอับอาย
เมื่อถูกเย่หยวนกดดันเช่นนั้น ตัวเขาก็ย่อมจะไม่มีอะไรไปต่อต่านได้จึงได้แต่ต้องตั้งรับอย่างสุดตัว
ตอนที่รับธนูสาบานสังหารเทพก่อนหน้านี้แม้เขาจะป้องกันมันไว้ได้แต่มันก็ได้สร้างความบาดเจ็บไม่น้อยแก่ร่างกายของเขา
ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่เย่หยวนจะทำอะไรตัวเขานี้ได้?
ทั้งๆ อย่างนั้นเย่หยวนก็ยังมีวิชาการต่อสู้ที่ทำให้เขาไม่อาจจะต่อต้านได้แม้แต่น้อย
“เจ้าเด็กคนนี้มันกลับมีกายเนื้อถึงระดับสัมบูรณ์! สัตว์ประหลาดเช่นนี้มันไปเกิดขึ้นในเผ่ามนุษย์ได้อย่างไรกัน?”
แต่ละหมัดนั้นหนักหน่วงกว่าหมัดก่อนหน้าเสมอ รุนแรงกว่าเสมอ
คลื่นพลังของเย่หยวนนั้นเพิ่มทะยานขึ้นมาจนถึงจุดสุดยอด
เวลานี้เขามีแค่ความคิดเดียวคือสังหารเทียนเหอและชิงเอาข่ายเงินแก่นโลหิตมา!
เขาไม่กล้าที่จะปล่อยให้เรื่องราวยืดยาวไปกว่านี้แล้ว!
“มังกรนอกรีตครองมิติ!”
เย่หยวนเหยียบเท้าออกมาพร้อมเงาร่างของมังกรฟ้าที่เหยียบเท้าออกมาจากห้วงมิติ
ทักษะเทวะภายในนี้เย่หยวนได้ใช้พลังออกมาจนถึงที่สุด รุนแรงจนไม่อาจจินตนาการได้
ด้วยการเหยียบย่ำนี้มิติก็เริ่มแตกแยกลายพระเจ้าบนร่างของเทียนเหอค่อยๆ เบาบางหายลงไปดูท่าต้องใช้กำลังสุดตัวต้านทานมันไว้
แต่สุดท้ายเขาก็ยังต้องกระอักเลือดออกมาอย่างหนักหน่วงพร้อมลอยลิ่วไปไกลจมพื้นดิน
เย่หยวนยืนมองเขาอยู่บนฟ้าราวกับเทพเจ้าที่ก้มลงมองดูโลกหล้า
เวลานี้แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็ยังต้องอ้าปากค้าง
พวกเขานั้นได้เห็นถึงพลังของเทียนเหอมาก่อนและย่อมเข้าใจว่าคนผู้นี้มีพลังทำลายฟ้าดินได้
แม้จะเป็นธนูสาบานสังหารเทพนั้นมันก็ยังถูกเขาผู้นี้รับไว้ได้
แต่เวลานี้กลับกำลังพ่ายแพ้ลงต่อหน้าเย่หยวน
ภาพนี้มันเหนือล้ำกว่าที่จะมีใครคาดคิดถึง
แต่พลังของเผ่าเทวามันก็ยังเหนือล้ำกว่าที่คนทั้งหลายคาดเดาไปมาก
เทียนเหอจึงพุ่งตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง
หากเป็นเทพสวรรค์ขั้นสุดทั่วๆ ไปโดนการโจมตีเช่นนี้ร่างกายคงแตกสลายเป็นผุยผง
เพียงแค่ว่าตัวเทียนเหอในเวลานี้มันไม่ได้มีสภาพของยอดคนใดๆ อีกต่อไป ร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยเศษฝุ่นอาการบาดเจ็บดูอ่อนแออย่างมาก
เขามองดูเย่หยวนด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “ดีจริงๆ ข้าประมาทเจ้าไป! ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะยังมีสายเลือดมังกรอยู่ในกาย! กระบวนท่านี้ มังกรนอกรีตครองมิตินี้ ข้าไม่ได้เห็นมันมาเสียนาน!”
เย่หยวนขมวดคิ้วถาม “เจ้ารู้จักกระบวนท่านี้?”
เทียนเหอจึงยิ้มตอบกลับมา “ยิ่งเสียกว่ารู้! เจ้าคงไม่รู้ว่ามังกรบรรพกาลคนก่อนมันได้ตายลงด้วยมือข้านี้! หึ เจ้านั้นอาจจะไม่ได้รู้ถึงตัวตนของมังกรบรรพกาลแต่มันนั้นคือตัวตนที่อยู่ในระดับชั้นเดียวกับเต๋าบรรพกาล! แม้ว่าอาจจะไม่แกร่งเท่า แต่มันก็ไม่อ่อนแอไปกว่ากันนัก!”
เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยจิตสังหารรุนแรง
เขานั้นไม่ได้ชื่นชอบคนเผ่ามังกรมากมายนัก แต่พลังของเขาทั้งหลายนี้มันก็มีที่มาจากเผ่ามังกร
ต้นกำเนิดสายเลือดนี้เขาย่อมจะไม่อาจปฏิเสธได้
แต่ถึงจะอย่างนั้นมันก็ยังตื่นตะลึง!
ในโลกหล้านี้มันจะมีใครที่ยืนอยู่ในระดับเดียวกับเต๋าบรรพกาลได้?
ในสายตาของเทียนเหอนั้นมันดูเหมือนเขาจะไม่ได้คิดสนใจเต๋าบรรพกาลใดๆ เลย
หรือว่ากำลังของเขาในตอนสมบูรณ์มันจะเหนือล้ำกว่าเต๋าบรรพกาลไปอีก?
เรื่องนี้มันทำให้เกิดความหวั่นไหวขึ้นไม่น้อย!
เท่าที่ตัวเขาเข้าใจก่อนๆ มานั้นเต๋าบรรพกาลคือที่สุดของขุมพลัง เป็นตัวตนที่อยู่เหนือโลก
แต่ยิ่งบ่มเพาะมาเรื่อยๆ เย่หยวนก็เริ่มจะได้เข้าใจว่ามันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป!
ก็จริงที่ว่าเต๋าบรรพกาลอาจจะเก่งกาจเหนือล้ำ แต่ตัวตนที่ก้าวข้ามอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปได้มันก็ต่างต้องแข็งแกร่งสิ้น!
คำพูดของเทียนเหอนี้มันทำให้ความเข้าใจต่างๆ ที่เคยมีแตกสลายลง!
คนที่ตื่นตะลึงนั้นมิใช่แค่เย่หยวนแต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็ตื่นตะลึงไม่แพ้กัน
มีเพียงแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางเท่านั้นที่หรี่ตาลงมองเหมือนจะรู้อะไรมาก่อน
เทียนเหอนั้นยิ้มออกมาที่พูดถ่วงเวลาเย่หยวนได้ “เจ้าตื่นตกใจมากหรือ? เต๋าบรรพกาลมันจะตายได้อย่างไร? จะมีใครไปเทียบเคียงเต๋าบรรพกาลได้? บรรพกาลผู้นี้จะบอกให้ เต๋าบรรพกาลนั้น… มันก็มีทั้งที่เก่งกาจและอ่อนแอ! หากพวกเจ้ามนุษย์ทั้งหลายมันไม่หน้าด้านไม่อายคนคิดใช้จำนวนเข้าสู้ มีหรือที่เผ่าเทวาเราจะถูกกดดันมาหลายยุคสมัยเช่นนี้?”
เย่หยวนยืนนิ่งมองดูด้วยสายตาตื่นตะลึง
เทียนเหอนนั้นหัวเราะลั่นขึ้น “แน่นอนว่าเจ้าไม่ต้องไปรู้เรื่องพวกนั้นหรอก! เพราะว่าในเมื่อบรรพกาลผู้นี้ได้มาเจออนาคตมังกรบรรพกาลก่อนแล้ว มันก็ย่อม… จะไม่มีมังกรบรรพกาลในยุคนี้อีกต่อไป! มังกรบรรพกาลของสองยุคสมัยตายลงด้วยมือข้านี้มันย่อมจะน่าดีใจนัก! สะใจจริงๆ! ฮ่าๆๆ… หากถึงเวลาสงครามสิ้นโลกครั้งต่อไปแล้วเผ่าเทวาข้าจะต้องยึดครองมหาพิภพถงเทียนไปได้แน่!”
ตูม!
เสียงของเขายังไม่ทันพูดจบมันก็เกิดคลื่นพลังทลายฟ้าดินขึ้นมา
พลังของเต๋าสวรรค์จุติลงมา
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายในที่นี้ต่างต้องเบิกตาค้าง
เมื่อขึ้นมาถึงระดับของเทียนเหอแล้วทุกการกระทำของเขาย่อมเป็นเต๋า
มันเป็นพลังที่ไม่อาจคาดเดาได้
เขานั้นถูกเย่หยวนโจมตีต่อเนื่องอย่างไม่อาจมีเวลาจะดึงพลังของเต๋าสวรรค์ใดๆ มาใช้
แต่ตอนนี้มันมิใช่แล้ว!
เพราะเขานั้นกลับข้อมูลทั้งหลายออกมาให้เย่หยวนมึนงงงสับสนจะได้ซื้อเวลานี้มาให้ตัวเอง
เย่หยวนนั้นมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำ วิชาการเคลื่อนไหวของเขานั้นมันรวดเร็วราวแสง
การโจมตีอันหนักหน่วงด้วยความเร็วเช่นนั้นมันย่อมจะไม่มีที่ว่างให้เขาได้ทำอะไร
หากพลังบ่มเพาะของเขาเหนือกว่านี้หน่อยมันก็ยังพอได้ แต่เวลานี้ทั้งพลังบ่มเพาะทั้งอาการบาดเจ็บมันทำให้เขาใช้พลังออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งในหมื่นจากเวลาปกติ
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มีหรือที่เขาจะเรียกใช้พลังจริงๆ ออกมาได้
เย่หยวนเองก็ย่อมจะรู้เรื่องนี้จึงได้โจมตีออกมาอย่างไม่หยุดมือราวกับฟ้าดินจะถล่มทลายลงมา
น่าเสียดายที่ว่าเด็กน้อยจะอย่างไรก็เป็นเด็กน้อย
“ฮ่าๆๆ… บรรพกาลผู้นี้ได้จุติขึ้นบนโลกอีกครั้งแล้ว พวกเจ้าเหล่ามนุษย์ อสูร ปีศาจและเผ่าพันธุ์ทั้งหลายจงสั่นกลัวเถอะ! เด็กน้อย ลองรับกระบวนท่านี้ของบรรพกาลผู้นี้ไว้เถอะ! เต๋าสวรรค์ครามทอง!”
เทียนเหอหัวเราะลั่นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
มีหรือที่พลังของเขานี้จะเป็นสิ่งที่แมลงตัวน้อยนั้นเข้าใจได้?
เย่หยวนนั้นยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นพร้อมมือไพล่หลังมองดูเทียนเหอ “เจ้า… คิดมากเกินไปหรือไม่? ที่เจ้ารวบรวมกำลังได้ก็เพราะข้าปล่อยให้เจ้าทำ! มิใช่ว่าแผนการของเจ้ามันฉลาดล้ำใดๆ! ต้องขอบคุณเจ้านี้ข้าจึงได้บรรลุมันแล้ว ข้ามีหนึ่งกระบวนดาบ เจ้ากล้ารับหรือไม่?”
…………………..