ตอนที่ 706 เขตแดนพฤกษา ตันไม่โลก(ตอนปลาย)
อี้เหมยผู้เป็นต้นเหตุของความโกลาหลไม่รู้ร้อนรู้หนาวมิได้ทราบถึงความมวุ่นวายที่ตนทิ้งไว้เบื้องหลังเลยแม้แต่น้อยตอนนี้นางกําลังแหงนมองต้นไม้ยักษ์สูงเสียดฟ้าที่ตนและมิตรสหายจากเมืองเซียนลุ่ยนับแสนตนร่วมด้วยช่วยกันปลูกมันขึ้นมา
ดอกไม้ขนาดใหญ่เทียบเท่ากับอาคารหลังมหึมาที่ประดับอยู่บนส่วนยอดของมัน หลังจากผลิบานได้ชั่วครู่บัดนี้มันเหี่ยวเฉากลายเป็นสีน้ําตาลอมดําไร้ชีวิตชีวาหน้าที่ของมันได้เสร็จสิ้นลงไปเป็นที่เรียบร้อยหลังจากเบ่งบานปล่อยละอองเกสรขนาดเล็กกระจ้อยร่อยกลุ่มใหญ่และผงเหล่านี้เองคือตัวละครหลักเป็นชนวนระเบิดสนั่นลั่นสะเทือนฟ้าสะเทือนดินทําลายพงไพรอายุหมื่นปีจนราบเป็นหน้ากองสังหารสัตว์อสูรจนบางแม้แต่ซากก็มิหลงเหลือ
มองไปยังสมรภูมิป่าอสูร ตอนนี้ไม่เหลือร่องรอยของสิ่งมีชีวิตนักรบวายุและอัคคีทั้งสองแสนได้ถอยกลับมาตั้งขบวนรบในแนวเดียวกับทัพหลวงปีศาจอยู่หน้าชายแดนเขตป่าอสูรเป็นที่เรียบร้อย
ป้ววว
เสียงแตรรบแว่วมาตามสายลม
“องค์หญิ…ท่านแม่ทัพ ทุกอย่างพร้อมแล้วค่ะ” ข้างกายอี้เหมยมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันนางหนึ่งกล่าวแทนนามอี้เหมยอย่างลืมตัวก่อนที่นางจะเปลี่ยนคํานําหน้าให้เหมาะสมกับหน้าที่ปัจจุบัน
เหล่านักรบเซียนลุยบัดนี้ยืนล้อมกรอบเป็นวงกลมล้อมรอบต้นไม้ยักษ์อย่างเป็นระเบียบแต่ท่าทางของพวกมันมีอาการเหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัดบางรายพยายามฝืนทนอดกลั้นมแสดงออกแม้กิริยาจะสามารถฝืนกลั่นปั้นทําได้แต่ร่างกายย่อมบ่งบอก เม็ดเหงื่อผุดโผล่ขึ้นมาบางรายผมเผ้าเปียกชุ่มติดกันเป็นก้อนส่วนใหญ่หอบหายใจหนักหน่วงโดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับมอบหมายงานอันสําคัญเพื่อใช้พลังพฤกษาในการรวดรับจับกุมสัตว์อสูรในก่อนหน้าสภาพร่างกายของพวกมันย่าแย่กว่าผู้อื่นส่วนอีกกลุ่มหนึ่งที่ทําหน้าที่เป็นผู้นําทางใช้กิ่งไม้เป็นสื่อกลางควานหาหน่วยย่อยทั้งหลายเองก็มีสภาพไม่ด้อยไปกว่ากันมากนักวิชาของพวกมันแม้จะสะดวกสบายใช้ออกในระยะไกลแต่มันก็จําต้องแลกมาด้วยพลังกายที่สูญเสียไปเช่นกันยิ่งไปกว่านั้นต้นไม้ยักษ์ที่ดูจะเรียบง่ายนี้แท้จริงแล้วกลับใช้พลังงานสูงยิ่ง
แม่ทัพอี้เหมยพยักหน้าตอบรับ หันกายเดินห่างออกมาจากต้นไม้ยักษ์ก่อนจะหมุนตัวกลับอีกครานึงพรบ
แขนบอบบางสองข้างยื่นออกไปเบื้องหน้าหงายฝ่ามือ เสื้อคลุมร่างปลิวไสวเผยให้เห็นผิวกายนอกร่มผ้าทั้งแขนข้อมือล่าคอหรือใบหน้ามีเส้นสีเขียวลากยาวปรากฏตัดกับผิวขาวตําแหน่งของเส้นสีเขียวเหล่านี้คือตําแหน่งเดียวกับเส้นเลือดในร่างกายมนุษย์ บางจุดมีขนาดใหญ่เข้มเด่นชัด บางจุดบางเบาไม่ชัดเจนมันลุกลามเป็นทางยาวจนมาหยุดอยู่ตรงฝ่ามือทั้งสองข้าง
พริบตาต่อมา ฝ่ามือเล็กๆของเหมยมีบาดแผลขนาดเล็กปรากฏขึ้นอย่างไม่มีที่มาที่ไป ภาพบาดแผลคล้ายกับถูกมีดกรีดเป็นทางยาวราวหนึ่งเซนติเมตรและตอนนั้นเองรากไม้ขนาดเล็กเทียบเท่าเส้นผมมนุษย์ชอนไชออกมาจากบาดแผลก่อนจะก่อร่างสร้างตัวเป็นต้นไม้ขนาดย่อส่วนเท่าข้อนิ้ว
“เขตแดนพฤกษา บุพผาสวรรค์!!” อี้เหมยประกาศกร้าวคุกเข่าลงกับพื้นใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างฟาดลงบนพื้นดินอย่างรุนแรงจนพื้นดินรอบฝ่ามือของนางยุบลงกว่าหนึ่งนิ้ว
เขตแดนพฤกษา บุพผาสวรรค์NNN
นักรบพฤกษาทั้งหนึ่งแสนเอ่ยนามท่วงท่าอย่างพร้อมเพรียงพร้อมกับตั้งกระบวนท่าทําตามการเคลื่อนไหวแม่ทัพของตนปรากฏการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเส้นเลือดสีเขียวเด่นชัดแบบเดียวกับที่อยู่บนตัวของอี้เหมยไม่ผิดเพี้ยน
ทันทีที่นักรบทั้งแสนนายประทับฝ่ามือลงบนพื้นทั่วบริเวณราวกับเกิดแผ่นดินไหว เหล่าทัพใกล้เคียงถึงกับต้องย่อเข่าเพื่อทรงตัวให้มั่น
ภาพจากมุมสูงจากอู่เฉินผู้ที่ตอนนี้ตั้งขบวนทัพอยู่เหนือทัพเขียวเมืองเซียนลุ่ยพอดิบพอดีในสายตามองเห็นพื้นดินเคลื่อนไหวบางจุดนูนขึ้นบางแห่งยุบลงยวบยาบและเปร่งแสงสีเขียวอ่อนเรืองรองเป็นเส้นสายแสงสีเขียวเหล่านี้ล้วนเชื่อมต่อกับร่างนักรบพฤกษาทุกนายและทุกเส้นสายล้วนมาบรรจบกันอยู่ที่ต้นไม้ยักษ์
เส้นสีเขียวคล้ายจะทําหน้าที่เป็นรากหล่อเลี้ยงต้นไม้ใหญ่
เปรี้ยะ
ต้นไม้ยักษ์สีดําทมิฬที่ราวกับยืนต้นตายตั้งแต่ถูกสรรค์สร้าง ตอนนี้เปลือกนอกของมันแตกหักผลัดทิ้งราวกับลอกคราบเผยให้เห็นเนื้อไม้สีเขียวอ่อนก่อนที่สีของมันจะค่อยๆเข้มขึ้นส่วนกลางที่มีระดับความสูงเทียบเท่าอู่เฉินจรดถึงส่วนปลายมีกิ่งไม้ขนาดใหญ่หลายสิบหรืออาจจะหลายร้อยยากที่จะระบุจํานวนที่แน่ชัดงอกออกมาจากลําต้นกิ่งไม้เหล่านี้ผลิใบออกดอกกลายเป็นต้นไม้ที่มีความสมบูรณ์ในที่สุด
ณ ยอดต้นไม้ยักษ์ส่วนปลายส่วนที่สูงเสียดฟ้าอาจเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความสูงที่สุดในรัศมีพันกิโลเมตรโดยรอบหรืออาจสูงกว่าสิ่งปลูกสร้างใดเลยก็เป็นได้ตรงส่วนนี้ที่เดิมที่เคยมีดอกไม้พิเศษที่ปล่อยผงพิษระเบิดบัดนี้ได้ถูกผลัดทิ้งไปเป็นที่เรียบร้อยและถูกทดแทนด้วยดอกชนิดนึงที่มีรูปลักษณ์คล้ายกับดอกบัวขนาดใหญ่นมาแทนโช่วววษ
ในตอนนั้นเองมีเสียงฮือฮากันยกใหญ่จากเหล่าทหารสิ่งที่ทําให้พวกมันเสียความเยือกเย็นเห็นทีคงจะมาจากหญ้าบนพื้นดินที่จู่ๆก็งอกเงยเจริญเติบโตขึ้นในเวลาอันรวดเร็วปกคลุมไปทั่วบริเวณจากพื้นที่มีเพียงหินดินทรายก้อนกรวดบัดนี้มันกลายเป็นทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตาอย่างน่าอัศจรรย์
โอ้วววว
เสียงเก่ายังมิทันจางไม่กี่วินาทีต่อมาเสียงแห่งความตื่นเต้นระลอกสองระเบิดออกมาอย่างพร้อมเพรียงทั่วพื้นที่เต็มไปด้วยเสียงสนทนาอย่างออกรสออกชาติบางรายอ้าปากค้างพูดมออกบางคนขยตาไปมาราวกับไม่เชื่อสายตาตนเองนั่นเพราะว่าป่าอสูรที่เต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพังทั้งต้นไม้ใบหญ้าต้นเล็กต้นน้อยเถาวัลย์เป็นเส้นสายเกลื่อนกลาดเรียราดกองพะเนินทว่าเพียงพริบตาเดียวพริบตาเดียวเท่านั้นมันกลับถูกบูรณะฟื้นคืนกลับกลายเป็นป่าอันอุดมสมบูรณ์กลับมาเป็นป่าอสูรที่ผูกพันและคุ้นเคยเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน
ต้นไม้ต้นแล้วต้นเล่าเติบโตขึ้นจากความว่างพื้นดินอันว่างเปล่าจนสูงมากกว่ายี่สิบเมตรในเวลาเพียงสองถึงสามวินาทีต้นไม้นานับสายพันธุ์ทั้งเล็กและใหญ่ผลิใบออกดอกบางต้นออกผลรวมไปถึงหญ้าหลากชนิดเถาวัลย์ไม้เลื้อยล้วนงอกเงยเจริญพันธุ์
แม่ทัพอี้เหมยถอนฝ่ามือทั้งสองข้างออกจากพื้นดินเป็นสัญญาณว่าภารกิจที่ได้รับ เสร็จลุล่วงสมบูรณ์บรรลุจดหมายความต้องการเป็นที่เรียบร้อยกําแพงที่พวกมันได้กล่าวถึงในก่อนหน้านี้แท้จริงแล้วคือป่าอสูรดอกไม้ใบหญ้าต้นไม่ใหญ่พวกมันคือกําแพงตามธรรมชาติที่คงอยู่มานับหมื่นปี
ครั้นนะ
ผืนดินสั่นสะเทือนเกิดแผ่นดินไหวขนาดย่อมๆขึ้นอีกครั้ง เส้นแสงสายใยสีเขียวที่กระจายตัวราวกับใยแมงมุมโดยมีจุดศูนย์กลางคือต้นไม้ใหญ่ค่อยๆเลือนหายไปอย่างช้าๆกลับเข้าไปในร่างของนักรบพฤกษาทั้งหนึ่งแสนนายจนหมดสิ้น
สตรีชุดเขียวรายหนึ่งหมดสติทิ้งตัวลงกับพื้น ไม่นานนักชายที่อยู่ถัดจากมันก็สิ้นสติไปตามกันบางรายผิวกายซีดเซียวริมฝีปากแห้งผากราวกับร่างกายขาดน้ําเป็นผลจากการใช้พลังสูงเกินตัวจะรับไหวซึ่งส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในวัยหนุ่มสาวที่ยังไม่ช่ช่องการใช้พลังและอ่อนด้อยวิชาฝึกปรือและในเมื่อตอนนี้หน้าที่ของพวกมันเสร็จสิ้นจึงไม่ใช่เรื่องให้น่ากังวล