อวี๋หมินหมิ่นต่อว่าเขาอยู่ในใจ “ที่นี่เล็กไปหน่อย อาหารกลางวันก็ไม่ได้อร่อยอะไร หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก” เขาบอกด้วยรอยยิ้ม
อวี๋หมินหมิ่นมองเขาด้วยความรู้สึกขอบคุณ “ขอบคุณนะคะ”
กู้จิ้งหมิงหันมองมาด้วยท่าทางสงสัย
อวี๋หมินหมิ่นบอก “คุณดีกับครอบครัวฉันมาก แถมยังช่วยดูแลที่นี่เป็นอย่างดีอีก พวกเขาดีใจมากเลยนะคะ”
กู้จิ้งหมิงบอก “ไม่เป็นไรหรอก คุณเป็นภรรยาของผม ผมเป็นสามีของคุณ หน้าที่ของผมคือต้องปฏิบัติต่อพวกเขาให้ดี”
แม้จะพูดแบบนั้น แต่ว่า อวี๋หมินหมิ่นก็รู้สึกซาบซึ้งมากแล้ว
เพราะอย่างไรเสียเขาก็ดูไม่เข้ากันกับที่นี่ ที่นี่เล็กเกินไป โทรมมากด้วย ส่วนเขาที่ได้รับการดูแลจากผู้คนมากมายมาเป็นอย่างดี พิถีพิถัน ไม่มีขาดตกบกพร่อง ตอนนี้ที่เขามาอยู่ที่ทรุดโทรมแบบนี้ ร่างกายที่ดูสูงค่า ทำให้เธอรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่
แต่อย่างไรซะพวกเธอก็ไม่ได้แต่งงานกันจริงๆ เขาไว้หน้าเธอแบบนี้ ให้เกียรติครอบครัวเธอ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
____
การฝึกของหลินเช่อจบลงแล้ว วันนี้ยังมีการเตรียมงานเลี้ยงจบการศึกษาด้วย
ทุกคนเตรียมการแสดงไว้แล้ว
บางคนเต้น บางคนร้องเพลง บางคนมีรายการแสดงเล็กๆ บางคนเล่นดนตรี
ฉินหวานหว่านร้องเพลงเพราะซึ่งเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็รู้ เธอขึ้นไปร้องเพลงหนึ่งเพลง
คนด้านล่างมองฉินหวานหว่านร้องเพลง ปรบมือไปพร้อมๆ กัน รอจนฉินหวานหว่านลงมา ยังบอกกับเธออีกว่า “เธอไปร่วมประกวดร้องเพลงได้เลยนะเนี่ย”
ฉินหวานหว่านบอก “จะไปได้ยังไงกันคะ ฉันไม่ได้ร้องเก่งขนาดนั้นสักหน่อย”
“ไม่เก่งที่ไหนกันล่ะ เก่งมากเลยต่างหาก”
“โอ้ ตาหลินเช่อแล้ว เธอแสดงอะไรเหรอ ไม่เห็นบอกเลย”
หลินเช่อขึ้นมาบนเวที บอกกับทุกคนว่า “ฉันไม่ได้มีความสามารถอะไร ดูการแสดงของพวกคุณแล้ว บางคนเล่นดนตรี บางคนเต้น บางคนร้องเพลง ฉันกดดันมากเลยค่ะ ดังนั้นเลยอยากมาเล่าเรื่องตลกให้ทุกคนฟังดีกว่า”
คนด้านล่างแปลกใจมาก คิดว่าเธอล้อเล่นหรือเปล่า เล่าเรื่องตลกงั้นเหรอ…
อาจารย์เอ่ยขึ้น “หลินเช่อ เธอไม่มีความสามารถพิเศษอย่างอื่นที่อยากแสดงเลยเหรอ”
“เล่าเรื่องตลกก็นับว่าเป็นความสามารถพิเศษไหมคะอาจารย์ ถ้าอาจารย์ไม่นับล่ะก็ ฉันคงจะแสดงการยืนให้ดูอยู่แบบนี้ล่ะค่ะ”
อาจารย์พูดไม่ออก จึงทำมือส่งสัญญาณให้เธอเริ่มเล่า
หลินเช่อเอ่ยขึ้น “ว่ากันว่าตอนกลางคืนหอพักชายจะมีการประชุม ชายเอพูดขึ้นว่า ขอผู้หญิงให้ผมหนึ่งคน ผมสามารถสร้างชนเผ่าได้หนึ่งชนเผ่า ชายบีบอกว่า เอาสุนัขให้ผมหนึ่งตัว ผมสามารถสร้างเผ่าพันธุ์ได้หนึ่งเผ่าพันธุ์ ชายซีพูดขึ้นว่า ถ้ายกผู้ดูแลสวนสัตว์หนึ่งคนให้พวกนาย งั้นพวกนายก็สามารถสร้างโลกของสัตว์ได้เลยน่ะสิ”
ทุกคนต่างนิ่งอึ้ง จากนั้นค่อยขำออกมา
หลินเช่อจับชายกระโปรง ย่อตัวขอบคุณทุกคน จากนั้นก็เดินลงมา
“หลินเช่อล้อเล่นไปหรือเปล่า”
เพราะความตลกของหลินเช่อ ทำให้ทุกคนหัวเราะจนหยุดไม่ได้
ไม่นาน ก็มีคนอัปโหลดวิดีโอลงบนอินเทอร์เน็ต
เมื่อนักแสดงมาร่วมการฝึก ใครๆ ต่างก็มาดูผลสำเร็จของเหล่านักแสดงกันทั้งนั้น
ก่อนหน้าก็ยังดีอยู่ จนมาถึงช่วงสุดท้ายที่คนอย่างหลินเช่อแหวกแนวมาเล่าเรื่องตลก
ชาวเน็ตต่างก็ช่วยกันแชร์โพสต์แล้วบอกว่า “ข้ามไปที่สิบห้านาทีสามสิบวิ มีเซอร์ไพรส์”
คนอื่นๆ ที่ดูก็กดข้ามไป เห็นการแสดงของหลินเช่อ ก็พากันหัวเราะร่วน
การแสดงด้านหน้านั้นถูกกดข้ามไป ดูเพียงด้านหลัง ในกลุ่มนักเรียน หลินเช่อคือคนที่แตกต่าง
มีคนบอกว่าหลินเช่อนั้นเป็นผู้หญิงที่ใสซื่อ ตลกมาก
ยังมีคนบอกอีกว่า หลินเช่อเป็นโคลนตมในวงการบันเทิง แบบนี้ก็ได้เป็นศิลปินแล้วเหรอ
แต่เพราะแบบนี้ การร้องเพลงของฉินหวานหว่านนั้นจึงถูกมองข้ามไปเลย
อย่างไรซะ ทุกคนก็รู้กันอยู่แล้วว่าฉินหวานหว่านร้องเพลงเพราะ ไม่มีอะไรใหม่ๆ ให้ติดตาม เพราะสุดท้ายมันก็คือการร้องเพลงอยู่ดี
หลังจากงานเลี้ยง หลินเช่อก็กลับบ้าน ระหว่างทางเมื่อเห็นข่าวนี้ก็คิดว่าตัวเองบ้าไปแล้ว ใครกันที่โพสต์คลิปนี้ลงไปในอินเทอร์เน็ต
เธอจนปัญญาแล้วจริงๆ ถึงได้ไปเล่าเรื่องตลก คนพวกนี้นี่…
เรื่องที่เธอเล่าก็ลามกซะขนาดนั้น งานนี้ ภาพลักษณ์ของเธอคงหมดสิ้นกันพอดี
หลินเช่องอแงอยู่ในรถ “ฮือ ฮือ ฮือ หมดกัน กู้จิ้งเจ๋อภาพลักษณ์ของฉัน”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “นี่ก็ค่อนข้างดูเป็นเอกลักษณ์ของเธอนะ ยังไงซะนี่ก็ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง ที่เธอดูไม่น่าเชื่อถือ ยังต้องกังวลอะไรอีกล่ะ”
หลินเช่อโมโหยิ่งขึ้นไปอีก ทุบไปที่อกแกร่งของกู้จิ้งเจ๋อ “ใครบอกกัน ใครบอกว่าฉันไม่น่าเชื่อถือ จริงๆ เลย”
กู้จิ้งเจ๋อถูกเธอทุบตี พลันนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้งอแงและเข้ามาโวยวายกับเขาแบบนี้มาระยะหนึ่งแล้ว เขาคว้าตัวเธอเอาไว้ ไม่อยากปล่อยออกไปเลยจริงๆ
คนขับรถไม่กล้าหันกลับไปมอง อาจเพราะชินกับการถูกเนื้อต้องตัวกันของคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงไปแล้ว เพียงแต่เมื่อเห็นว่าคุณผู้หญิงที่ทั้งตบทั้งถีบคุณผู้ชาย ทว่าคุณผู้ชายกลับไม่ได้ใส่ใจ เขารู้สึกว่ามันแปลกไปบ้างเล็กน้อย คุณผู้ชายเป็นคนโมโหง่าย หากโมโหก็เกือบจะพุ่งเข้าไปบีบคอให้ได้ ใครๆ ต่างก็รู้ว่าเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน ทว่า คุณผู้ชายไม่เคยบีบคอคุณผู้หญิงเลยสักครั้ง กลับกันยังปล่อยให้คุณผู้หญิงงอแงอยู่แบบนั้น มองไม่ออกจริงๆ ว่าในใจเขารู้สึกอย่างไร นี่มันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างน่าเหลือเชื่อ
หลินเช่อกลับมาถึงบ้าน ตะโกนบอกเหล่าแม่บ้าน “ฉันกลับมาแล้วจ้า”
สาวใช้ต่างพากันวิ่งออกมาต้อนรับ พูดกับหลินเช่อ “ในที่สุดคุณผู้หญิงก็กลับมาแล้ว พวกเราคิดถึงคุณมากเลยค่ะ”
“คุณผู้หญิงคะ เราจัดห้องให้เรียบร้อยแล้วนะคะ คุณอยากทานอะไรไหมคะ เราจะไปทำมาให้”
เนิ่นนาน กว่าเหล่าสาวใช้จะคืนพื้นที่ให้กับคู่สามีภรรยา
หลินเช่อคุยกับกู้จิ้งเจ๋อ “ดูเหมือนข้างนอกฝนจะตกแล้ว เราออกไปเดินเล่นหน่อยไหมคะ”
“ฝนตกแล้วจะออกไปยังไง”
“ก็ต้องฝนตกสิคะถึงจะโรแมนติก และฝนก็ไม่ได้หนักด้วย ฉันอยากออกไปเดินเล่น เดินช้าๆ ท่ามกลางสายฝน คุณไม่คิดว่ามันโรแมนติกเหรอคะ”
หลินเช่อยิ้มให้กู้จิ้งเจ๋อ กู้จิ้งเจ๋อแหงนหน้ามองท้องฟ้า ทำได้เพียงพยักหน้าให้เธอด้วยความเอ็นดู
หลินเช่อเห็นดังนั้น จึงกระโดดพลางหัวเราะดีใจ รีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ฝนตกไม่แรงมาก กำลังตกปรอยๆ กระทบลงมาบนใบหน้าแล้วรู้สึกดีเป็นบ้า
หลินเช่อไม่ชอบให้ใครถือร่มเดินตามเธอ จึงไม่ยอมให้สาวใช้มาด้วย
กู้จิ้งเจ๋อเห็นแบบนั้น จึงบอก “เดี๋ยวฉันกางร่มเอง ความสูงเท่าเธอมาถือร่ม มันไม่ได้ช่วยอะไรกับฉันเลย”
หลินเช่อเบ้ปาก มองกู้จิ้งเจ๋อ ถ้าเธอถือร่ม ร่มมันคงจะติดอยู่กับศีรษะของเขา
ใครใช้ให้เขาสูงซะขนาดนั้น เธอยกร่มสูงที่สุดแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอให้เขาเข้ามาอยู่ด้วยกันได้
กู้จิ้งเจ๋อกางร่ม หลินเช่อขยับชิดร่างของเขา คล้องแขนเขาเอาไว้ เดินไปตามทาง เหยียบย่ำลงไปบนพื้นที่ชื้นแฉะ ยื่นมือออกไป สัมผัสได้ถึงเม็ดฝนที่หล่นลงมาบนมือ รู้สึกสดชื่นและเย็นสบาย
หลินเช่อบอก “ดูสิคะ สบายมากเลยใช่ไหม”
“ฉันว่านั่งมองฝนอยู่ที่บ้านก็สบายดีอยู่แล้ว”
Related