ตอนที่ 1636 อวิ๋นรั่วสุ่ย (4)
อวิ๋นลั่วเฟิงส่งยิ้มร้ายๆ ไปให้เขา “บังเอิญว่าข้าก็จะไปหอแพทย์เหมือนกันดังนั้นพวกเราเดินทางไปด้วยกันดีหรือไม่”
“ไม่!” ใบหน้าบอบบางเล็กๆ ของเยี่ยเสียเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ถึงแม้ว่าเจ้าจะช่วยข้าแต่เจ้าก็ไม่มีสิทธิมาบังคับ…”
อวิ๋นลั่วเฟิงยกร่างเสี่ยวเสียแล้วนำมาอุ้มไว้ที่ใต้วงแขนข้างหนึ่งโดยไม่สนอาการดิ้นรนของเขาก่อนจะหันกลับไปมองเสี่ยวโม่
“พวกเราอยู่ไม่ไกลจากนครอนันต์เท่าไหร่ ไปกันเถอะ”
พูดจบนางก็กระโดดขึ้นไปในอากาศ
เมื่อสายลมพัดผ่านเยี่ยเสียก็หน้าซีดเผือดด้วยความกลัว เขาใช้แขนเกาะร่างอวิ๋นลั่วเฟิงไว้แน่นแล้วริมฝีปากของเขาก็สั่นเล็กน้อย
“เจ้ากลัวความสูงงั้นหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงก้มลงมองใบหน้าบอบบางและน่ารักของเยี่ยเสียแล้วเลิกคิ้วถาม
เยี่ยเสียหน้าซีดแต่ก็ปฏิเสธที่จะยอมรับ “ใครบอกว่าข้ากลัวความสูง ข้าก็แค่กลัวเจ้าต่างหาก!”
ในฐานะที่เขาเป็นอัจฉริยะคนแรกของตระกูลเยี่ยและเป็นถึงผู้ฝึกฌานระดับนภาแล้ว เขาจะยอมให้คนอื่นมารู้ว่าเขากลัวความสูงได้อย่างไร
อวิ๋นลั่วเฟิงหันไปเสี่ยวโม่โดยไม่มองเยี่ยเสียแล้วออกคำสั่ง “เสี่ยวโม่ ดูเหมือนว่าถ้าพวกเราใช้วิธีการบินพวกเราจะเหนื่อยเกินไป พวกเราลงไปเดินกันดีกว่า”
เสี่ยวโม่ยิ้ม เขารู้ดีว่าอวิ๋นลั่วเฟิงทำเพื่อเด็กผู้ชายคนนี้แต่เขาก็ไม่ได้หยุดอวิ๋นลั่วเฟิงและตามนางลงมาที่พื้น
ทันทีที่เท้าสัมผัสพื้น เยี่ยเสียก็โล่งอก “ข้า…ไม่ได้กลัวความสูงนะ” เยี่ยเสียพยายามอธิบายด้วยใบหน้าขึ้นสี
“เข้าใจแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เพราะเจ้ากลัวความสูงแต่เป็นเพราะข้ากลัวว่าคนของข้าจะเหนื่อยเกินไปถ้ายังบินต่อ”
อวิ๋นลั่วเฟิงมองใบหน้าที่แดงเถือกของเยี่ยเสียแล้วส่งยิ้มกว้างไปให้โดยไม่เปิดโปงคำโกหกของเขา
“เสี่ยวโม่ ถ้าพวกเราเร่งเดินทาง คืนนี้พวกเราก็น่าจะไปถึงหอแพทย์”
…
เยี่ยจวินและอวิ๋นรั่วสุ่ยถูกโยนเข้าไปโรงเก็บฟืนที่ทั้งมืดละชื้น ทันทีที่พวกนางถูกโยนเข้ามาเยี่ยจวินก็พยายามยืนขึ้นและพุ่งเข้าไปหาเด็กคนอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ
“ไม่ใช่พี่ชายข้า ไม่ใช่พี่ชายข้า ไม่ใช่…พี่ชายข้าไม่ได้อยู่ในกลุ่มพวกเขา เขาอยู่ที่ไหนกัน” เยี่ยจวินกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าพี่ชายของนางไม่ได้อยู่ในกลุ่มเด็กเหล่านี้ทำให้นางรู้สึกผิดหวังมากๆ นางคงไม่ต้องมาที่นี่กับคนพวกนี้ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชายของนาง…
“พี่เยี่ยจวิน ดูเหมือนว่าพี่เสียจะไม่ได้อยู่ที่นี่นะเจ้าคะ” อวิ๋นรั่วสุ่ยกะพริบตาอย่างน่ารักและพูดขึ้นว่า “ข้าคิดว่าพวกเราคงเข้าใจผิด”
“เจ้ากำลังตามหาใครงั้นหรือ”
ที่มุมหนึ่ง มีเสียงเล็กๆ ของเด็กดังขึ้นช้าๆ
เยี่ยจวินและอวิ๋นรั่วสุ่ยรีบหันไปที่ต้นเสียงทันที
พวกนางเห็นเด็กผู้ชายตัวสูงที่อายุราวแปดถึงเก้าปี เขาสวมเสื้อผ้าซอมซ่อที่ดูเหมือนขอทานแต่เขากลับมีใบหน้าอ่อนโยนหล่อเหลามากโดยเฉพาะดวงตาที่น่าดึงดูด
“เจ้าเป็นใคร” ดวงตาของเยี่ยจวินเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและเอาตัวบังอวิ๋นรั่วสุ่ยเอาไว้
เด็กชายมองพวกนาง “พวกเราโดยกลุ่มลักเด็กจับตัวมาเพื่อเอาไปขายให้พวกคนที่ชอบเด็กเล็กๆ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ฐานแห่งหนึ่งของพวกมันแล้วก็ยังมีเด็กอีกมากที่ถูกจับไปที่ฐานอื่น”
เยี่ยจวินลูบคางตัวเองด้วยมือเล็กๆ ของนาง “สุ่ยเอ๋อร์ ข้าคิดว่าพวกเราคงอยู่ที่นี่ชั่วคราว”
“เจ้าค่ะ ท่านพี่เยี่ยจวิน ข้าจะอยู่ที่นี่กับท่าน” อวิ๋นรั่วสุ่ยยิ้มสดใสจนเห็นฟันเขี้ยวน่ารักของนาง
…………………………………..
ตอนที่ 1637 อวิ๋นรั่วสุ่ย (5)
ขณะเดียวกันภายในห้องห้องหนึ่ง หรูอี้และพรรคพวกก็กำลังปรึกษากันว่าจะจัดการเด็กเหล่านี้อย่างไร
“แม่นางหรูอี้ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ชื่อเยี่ยจวินหน้าตาดีและมีพรสวรรค์ ข้าคิดว่าพวกเราน่าจะขายนางได้ราคาดีแต่ว่า…พวกเรายกนางให้นายท่านชวีหลินจากตระกูลชวีในนครอนันต์ดีหรือไม่ขอรับ”
หลายปีมานี้นครอนันต์เปลี่ยนไปอย่างมาก ตระกูลใหญ่ในอดีตหายไปนานแล้ว ตอนนี้หอแพทย์เป็นคนคุมนครอนันต์ทั้งหมดและขั้วอำนาจทั้งหลายก็เกี่ยวข้องกับที่นี่
“นายท่านชวีหลินจากตระกูลชวีมีความสัมพันธ์ที่พิเศษกับผู้อาวุโสของหอแพทย์ อีกอย่างข้าได้ยินมาว่าท่านชวีหลินกำลังวางแผนหาเจ้าสาวให้บุตรชายของเขาซึ่งต้องมีทั้งพรสวรรค์และใบหน้าที่งดงาม”
อันที่จริงเยี่ยจวินสามารถทำเงินให้พวกเขาได้มหาศาลแต่ว่าเงินพวกนั้นจะเทียบกับความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลชวีได้อย่างไร
“ได้เลย! ถ้าอย่างนั้นก็เอาตัวเยี่ยจวินให้ชวีหลิน” ดวงตาของหรูอี้เป็นประกายจากนั้นนางก็ยิ้ม “ส่วนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ชื่ออวิ๋นรั่วสุ่ย ข้าสัมผัสได้ว่านางไม่มีพลังฌานดังนั้นก็สรุปได้อย่างเดียวว่าเด็กนั่นเป็นขยะ!”
“ในเมื่อนางเป็นแค่ขยะก็ไม่มีค่าอะไร ขายนางให้พวกรักใคร่เด็กเพื่อเงินก็พอ!”
แค่คำพูดไม่กี่คำพวกเขาก็ตัดสินชะตาชีวิตของอวิ๋นรั่วสุ่ยและเยี่ยจวินแต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะนำหายนะมาสู่พวกเขา…
“หลินซี พาเยี่ยจวินมาที่นี่”
หลินซีคือชายหนุ่มหล่อเหลาแต่คนหน้าตาดีแบบเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มลักเด็กกับคนพวกนี้เหมือนกัน
ประตูในโรงเก็บฟืนชื้นๆ ถูกเปิดออกแล้วชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นก่อนจะมองเด็กๆ ด้านในอย่างเย็นชา
“เยี่ยจวิน” เขาพูดขึ้นอย่างเฉยชาแล้วมองไปที่เยี่ยจวิน “มากับข้า”
“ท่านพี่เยี่ยจวิน”
อวิ๋นรั่วสุ่ยรีบจับมือเยี่ยจวินเอาไว้ด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอ
เยี่ยจวินลูบมือของอวิ๋นรั่วสุ่ยเพื่อปลอบโยนก่อนจะเงยหน้ามองหลินซี “เจ้าจะพาข้าไปที่ไหน”
“ที่ดีๆ ที่เจ้าจะมีอนาคตสดใส เจ้าควรขอบคุณพวกเรานะ!” หลินซีพูดอย่างเย้ยหยัน “พวกเราสายแล้ว มากับข้าเดี๋ยวนี้”
“ไม่ ข้าจะพาสุ่ยเอ๋อร์ไปด้วย” เยี่ยจวินพูดอย่างจริงจังแล้วจับมือที่เย็นจัดของอวิ๋นรั่วสุ่ยเอาไว้
นางออกจากตระกูลเยี่ยมาพร้อมสุ่ยเอ๋อร์ดังนั้นไม่มีทางที่จะทิ้งนางไว้ในที่แบบนี้
“นาง?” หลินยิ้มเยาะ “นางไม่มีค่าพอที่จะไปกับเจ้า! พวกเรากำลังให้โอกาสดีๆ กับเจ้าเพราะเจ้ามีพรสวรรค์แต่นางเป็นแค่ขยะดังนั้นนางไปกับเจ้าไม่ได้!”
“ข้าจะไม่ไปกับเจ้าถ้าเจ้าไม่พาสุ่ยเอ๋อร์ไปกับข้า!”
ดวงตาโตของเยี่ยจวินเต็มไปด้วยความหนักแน่น ถึงแม้ว่าเสียงของนางจะยังเป็นเสียงของเด็กแต่นางก็ไม่ได้ดูเหมือนเด็กผู้หญิงอายุห้าปีเลยแม้แต่น้อย
หลินซีขมวดคิ้ว “ข้าไม่ได้เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับแม่นางหรูอี้ เจ้าสองคนมากับข้า” พูดจบหลินซีก็เดินออกจากประตูไป
เยี่ยจวินพยายามทำให้อวิ๋นรั่วสุ่ยสงบแล้วเสียงเด็กๆ ของนางก็แสดงความใจเย็น “สุ่ยเอ๋อร์ เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าจะปกป้องเจ้าเอง…”