ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 371 คนโลภ

มู่เฉียนซีเห็นคนของหุบเขาหมอเทวดาฆ่าแกงกันเองราวกับเป็นบ้าไป

“ศิษย์พี่สี่ หม้อเทพนิรันดร์เป็นของข้า ใครจะมาแย่งข้าไปไม่ได้ ขอแค่ข้าได้หม้อเทพนิรันดร์นี้มา เช่นนั้นข้าก็จะเป็นเจ้าแห่งหุบเขาหมอเทวดา”

ไป๋เหรินแค่นเสียงเย็นชา “เพียงเพราะเจ้าอยากได้หม้อเทพนิรันดร์น่ะรึ ? เห็นกันอยู่ว่าหม้อเทพนิรันดร์นั้นเป็นของข้า”

— ตูม!  ตูม!  ตูม! —

การฆ่าฟันกันที่ด้านนี้รุนแรงเป็นพิเศษ มู่เฉียนซีนั้นสามารถมองเห็นพวกเขา ทว่าพวกเขากลับมองไม่เห็นทางที่อยู่ใกล้แค่เพียงเอื้อมมือ …เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ในที่ตรงนี้มีอะไรผิดประหลาดไปหรืออย่างไร ?

ชั่วอึดใจนั้นเสมือนว่ามีกลิ่นหอมกลิ่นหนึ่งลอยเข้ามา กลิ่นหอมของดอกไม้ชนิดนี้ ราวกับว่าสามารถก่อให้เกิดความโลภขึ้นในจิตใจของคนได้เลยทีเดียว

มู่เฉียนซีเหมือนจะเห็นเม็ดยาสมุนไพรวิญญาณขนาดใหญ่  ยาระดับปฐพี  ยาระดับขั้นสวรรค์ล้วนแต่มีทั้งสิ้น และยังมีหม้ออยู่ใบหนึ่ง …หม้อเทพนิรันดร์!

สิ่งที่นางต้องการนั้นล้วนแต่มาปรากฏอยู่ที่ตรงหน้านาง แต่นางไม่ได้เหมือนคนของหุบเขาหมอเทวดาที่ขาดสติไปเช่นนั้น  นางยังคงสงบนิ่ง ดวงตาดำขลับมองดูสิ่งของที่ค่อย ๆ ปรากฏต่อหน้านางและทำให้ใจนางเต้นระรัวทีละชิ้น ๆ

แต่ว่านางจะไม่เข้าไปติดกับอย่างแน่นอน  นี่เป็นเพียงภาพมายา ไม่ใช่ของจริง  ภาพมายาเช่นนี้ไม่อาจที่จะควบคุมนางได้

ทันใดนั้นเงาร่างสีดำสนิทปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของนาง มู่เฉียนซีตกตะลึงเล็กน้อย  จิ่วเยี่ย!

ภาพลวงตานี้ก็เหลือเกิน  ใช่! ยาวิเศษกับหม้อเทพนิรันดร์ล้วนเป็นสิ่งที่นางอยากได้เป็นอย่างมาก ทว่านางไม่ได้สูญสิ้นสติหลงใหลไปกับมัน  ครานี้มันจึงส่งบุรุษมาให้

มันได้แสดงภาพสิ่งที่ใจคนผู้มองดูต้องการมากที่สุดออกมา  มู่เฉียนซีหลับตาลง  กล่าวว่า “ไม่มีประโยชน์ จิ่วเยี่ยอยู่ข้างกายของข้า เจ้าสร้างตัวปลอมออกมาหลอกล่อข้าไม่สำเร็จเป็นแน่” ทันทีที่นางกล่าวจบ ก็ได้มีผู้หนึ่งดึงนางเข้าไปไว้ในอ้อมกอดจากด้านหลัง “อืม ข้านั้นอยู่ข้าง ๆ ซีเสมอ”

มู่เฉียนซีชาชินกับการมาอย่างไร้สุ้มเสียงราวกับผีสางเทวดาของจิ่วเยี่ยไปตั้งนานแล้ว และในครานี้ที่ด้านหลังของนางนั้น คือตัวจริง

“เจ้าสามารถเห็นข้าในภาพมายา แล้วบอกว่าเป็นเพียงตัวปลอมได้  ดีมาก” จิ่วเยี่ยกล่าวชื่นชม

มู่เฉียนซี “บุรุษผู้งดงามเยี่ยงเจ้า ข้าประสงค์จะได้มาเป็นของตนเองจึงใส่ใจดูให้ดี ๆ  มีสิ่งใดไม่ถูกต้องด้วยรึ ?”

“ไม่มี ที่เจ้าทำอยู่นี้ถูกต้องอย่างมาก” จิ่วเยี่ยพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น

เบื้องหน้านาง การต่อสู้แย่งชิงของมีค่าซึ่งเป็นเพียงภาพมายานั้นดุเดือด และเป็นภาพน่าอนาถ  มู่เฉียนซีไม่ต้องการจะสนใจมันมากนัก นางพิงโล่มนุษย์น้ำแข็งที่อยู่ด้านหลัง การกระทำของนางดูผ่อนคลายประหนึ่งกำลังดูละครธรรมดา ๆ

“ดอกไม้แห่งความโลภ… ดอกไม้ชนิดนี้กลับมาเบ่งบานในที่เช่นนี้ได้ คนเหล่านี้ของหุบเขาหมอเทวดานั้น โชคไม่ดีเอาเสียเลยนะ” นางเอ่ยขึ้น

เมื่อเจอเข้ากับดอกไม้ที่ชั่วร้ายชนิดนี้ หากจิตใจไม่มั่นคงพอ มัวแต่หลงไหลไปกับภาพมายาที่มันสรรสร้างขึ้นมา ถึงแม้จะเป็นบุคคลระดับจักรพรรดิก็ได้แต่รอความตายสถานเดียว

สำหรับมู่เฉียนซี นางนั้นได้รู้จักดอกไม้ชนิดนี้จากมรดกของราชาหมื่นพิษ  มันไม่มีความเป็นพิษใด แต่กลับร้ายกว่าพิษร้ายยิ่งนัก ทำให้คนไม่สามารถป้องกันมันได้เลย สำหรับมนุษย์ทั้งหลาย… ความโลภนั้นเป็นบาปติดตัวแต่เดิมมา ไม่ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม ก็ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าตนเองนั้นไม่มีสิ่งของที่ทำให้เกิดกิเลสความโลภ

ศิษย์พี่สี่ไป๋เหรินย่อมแข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกหุบเขาหมอเทวดา  ดังนั้นการต่อสู้ระหว่างศิษย์ร่วมสำนักในครานี้ เขาจึงเป็นเพียงผู้เดียวที่รอดชีวิตมาได้

“วะฮ่า ๆ ๆ ๆ! หม้อเทพนิรันดร์เป็นของข้าแล้ว ข้านั้นภาคภูมิไปทั้งใต้หล้า ข้าได้กลายเป็นนักปรุงยาที่เก่งกาจที่สุดแล้ว” ไป๋เหรินหัวเราะออกมายกใหญ่  เขาไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าทั้งหมดนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาจากฤทธิ์ของดอกไม้แห่งความโลภ

ช่างโง่งมนัก!  แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าคนผู้นี้ยังมีประโยชน์อยู่ มู่เฉียนซีจะปล่อยให้เขาตายไม่ได้  นางวิ่งผ่านตัวเขา ตามกลิ่นหอมนั้นไปและพบเข้ากับดอกไม้สีแดงบานสะพรั่ง นางเด็ดและโยนดอกไม้นั้นเข้าไปในมิติเก็บของของนางทันที

ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีพิษ แต่ในภายภาคหน้า นางคงจะมีจุดที่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้

— ครืนนนน! —

เวลานั้นเอง การที่ดอกไม้นั้นถูกนางเด็ดออกมา สิ่งที่เกิดขึ้นในทันใดมันเสมือนกับว่ามู่เฉียนซีได้ไปเปิดกลไกบางอย่างเข้า จากนั้นนางก็ร่วงลงไปที่ด้านล่าง — หวี่! —  

ทันทีที่เท้านางสัมผัสพื้นด้านล่าง แมลงที่น่าขยะแขยงจำนวนมากก็พากันบินเข้ามาล้อมนางเอาไว้

— ฟืดดดดด! —

ทว่ามู่เฉียนซีพ่นยาจำนวนมากที่นางเคยปรุงไว้ฆ่าพวกแมลง เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงเหล่านี้เข้ามาใกล้

เมื่อเทียบกับความร้อนที่ด้านบนแล้ว ที่นี่แปลกนัก มันเย็นยะเยือกอย่างหาที่เปรียบมิได้  ในเมื่อที่แห่งนี้ใช้ดอกไม้ชั่วร้ายเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดกลไก เช่นนั้นเกรงว่าสถานที่นี้คงไม่ธรรมดา  นางคิดที่จะ…

บุกเข้าไปเลย!

— แกร๊ง! —

แมลงและสิ่งมีพิษแปลกประหลาดมากชนิดโจมตีเข้ามา หากไม่ใช่เพราะยาฉีดสำหรับจัดการแมลงที่นางนำติดตัวมามีเพียงพอ เกรงว่านางคงถูกแมลงมีพิษเหล่านี้ฝังร่างนางไว้ทั้งเป็นตั้งแต่อึดใจแรกที่นางตกลงมาแล้ว มู่เฉียนซีรู้สึกแปลก ๆ “เห็นได้ชัดว่าที่นี่เป็นวังใต้ดินที่ดูเป็นธรรมชาติ  ทว่าในวังใต้ดินเลี้ยงแมลงไว้มากมายเช่นนี้ไปเพราะเหตุใดกันหนอ ? หรือว่า…”

แมลงพิษหลากชนิดที่มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน เกรงว่า…

แม้ว่านางจะรู้ว่าที่ด้านในนั้นมีสิ่งน่าขยะแขยงอยู่ แต่มู่เฉียนซีก็ยังคงเดินต่อไปเช่นเดิม  ในฐานะหมอปีศาจ สำหรับเรื่องพิษ นางมิได้กลัวอะไรมากมายถึงเพียงนั้น

พวกแมลงมีพิษเหล่านี้คิดที่จะโจมตีนางผู้ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตอันแตกต่างจากพวกมัน แต่พวกมันกลับไม่สามารถเข้าใกล้ตัวของนางได้ นางจึงเดินแหวกผ่านไปแล้วพบเข้ากับประตูบานหนึ่ง หลังจากผลักประตูเปิดออก มู่เฉียนซีเห็นกระดูกสีขาวนั่งอยู่บนเก้าอี้สีดำตัวหนึ่ง

— จิ๊ด! —

มีเสียงประหลาดหูลอยออกมา แมลงกู่ตัวสีดำปีนออกมาจากดวงตาของโครงกระดูกโครงนั้น  จากนั้นก็มีเสียงแก่ชราเสียงหนึ่งดังมาจากแมลงกู่ตัวนั้น “ในเมื่อเจ้ามาถึงที่นี่ได้ เช่นนั้นเจ้าจะต้องต้านทานฤทธิ์ภาพมายาจากดอกไม้แห่งความโลภได้เป็นแน่ และเจ้าคงจะไม่เกรงกลัวต่อสิ่งมีพิษสิ่งใด เจ้ามีความรอบรู้เรื่องพิษร้ายและพรสวรรค์ยอดเยี่ยมเป็นที่สุด”

แน่นอนว่าแมลงกู่ตัวนั้นไม่ได้กำลังสนทนากับนาง แต่เป็นผู้ที่ได้กลายเป็นโครงกระดูกสีขาวนั้นผู้นั้นต่างหากที่ได้เก็บเสียงและเก็บบางสิ่งไว้กับแมลงกู่ก่อนตาย

มู่เฉียนซี “ข้านั้นถนัดใช้พิษ จะเรียกว่าข้าชอบเล่นพิษก็ว่าได้ ทว่าข้าไม่ชอบเล่นแมลงเลยจริง ๆ” “แมลงพิษสามารถปกป้องตนเองได้ และยังสามารถช่วยคนได้ เจ้าถนัดในการใช้พิษ แล้วเหตุใดจึงรังเกียจแมลงพิษรึ ?”

“เพราะกว่าข้าจะมาถึงที่แห่งนี้ ข้าถูกแมลงทำให้รู้สึกสะอิดสะเอียนมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง และผู้ที่ใช้แมลงกู่ที่ข้าเคยพบเจอมา ล้วนแต่เอาไปทำร้ายผู้อื่นทั้งนั้น”

“เฮ้อ…” เสียงถอนหายใจดังออกมา “ช่างเป็นโชคร้ายของนิกายเสียจริง”

มู่เฉียนซีตะลึงงัน “นิกาย!  ท่านเป็นคนของนิกายไป๋กู่หรือ ?”

เมื่อครั้งหนึ่งในทวีปเซี่ยโจว นิกายไป๋กู่เป็นที่นิยมไปทั่วหล้าทั่วแดน  ได้ยินมาว่าทางนิกายทำเรื่องชั่วช้ามามากมาย สุดท้ายจึงโดนฆ่าล้างทั้งนิกาย

โอวหยางหว่านและมู่หรูเหยียนล้วนเป็นสองสตรีผู้ชั่วร้ายที่หลงเหลืออยู่ของนิกายไป๋กู่ สองสตรีนั้นใช้แมลงกู่ทำเรื่องชั่วร้ายไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่

และเวลานี้ โอวหยางหว่านหลบหนีไปเพราะได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก รอจนเมื่อนางฟื้นตัวแล้ว ไม่แน่ว่านางอาจจะทำเรื่องอะไรบ้า ๆ เพิ่มอีกก็เป็นได้  มู่เฉียนซีนั้นมีความรู้สึกที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไรนักต่อนิกายไป๋กู่

“เมื่อก่อนนั้นนิกายของเราใช้แมลงกู่เพื่อทำให้ตนเองแข็งแกร่ง รวมถึงช่วยเหลือผู้อื่น เราจะไม่ไปทำร้ายผู้อื่นง่าย ๆ หากไม่ถูกยั่วยุก่อน…”

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เต็มใจปล่อยมู่เฉียนซีที่เป็นเด็กมีพรสวรรค์เป็นเลิศไป เขาจึงได้เล่าถึงเรื่องราวทางประวัติศาตร์ช่วงหนึ่งของทวีปเซี่ยโจวที่ไม่เคยถูกบันทึกลงในหนังสือให้นางฟัง

ผู้อาวุโสท่านนี้เคยเป็นท่านผู้นำนิกายรุ่นที่สองก่อนที่จะโดนฆ่าล้างทำลายนิกาย เป็นเพราะบุตรชายของตนนั้นมีความทะเยอทะยาน คิดที่จะเป็นใหญ่ในทวีปเซี่ยโจวจึงได้วางแผนลอบสังหารเขา

เขาถูกไล่ฆ่าสังหารมาจนถึงสถานที่แห่งนี้ด้วยอาการบาดเจ็บที่ไม่อาจจะเยียวยาได้  ท้ายที่สุดจึงสร้างวังใต้ดินแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อที่ตนเองจะได้รออัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์มากพอที่จะสามารถรับมรดกของเขาได้โดยตรง

ดอกไม้แห่งความโลภนั้นช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน หลายปีมานี้มีมู่เฉียนซีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถเด็ดดอกไม้แห่งความโลภได้อย่างสงบนิ่ง นางไม่ถูกภาพมายาลวงหลอกเอาเลย

บุตรชายของเขานั้นตามหาเขาอย่างบ้าคลั่งไปทุกหนแห่งแต่ก็หาไม่พบ ทว่าเขาที่มีความทะเยอทะยานที่พองโตขึ้นอย่างแรงกล้า  ใช้แนวความคิดผิด ๆ ควบคุมนิกายไป๋กู่ สุดท้ายแล้วจึงได้นำพาให้ทั้งนิกายไปสู่ความพินาศ

“พิษของพวกเรานั้นไม้ได้ใช้สำหรับนำไปทำร้ายผู้อื่นเสมอไป  พ่อหนุ่ม เจ้าจะยอมรับมรดกต่อจากข้าหรือไม่ ?” ผู้อาวุโสกู่กล่าวถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่อยากเล่นกับแมลง แต่รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง  ถึงแม้ว่านิกายไป๋กู่จะถูกทำลายลงไปแล้ว  ความทะเยอทะยานของพวกเขานั้นก็ยังคงอยู่ ถ้าหากทันทีที่ข้าต้องสู้กับพวกเขา ข้ารู้วิชาพิษกู่ของนิกายไป๋กู่ เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็ทำอะไรข้าไม่ได้”

“แต่ว่า… ถ้าหากข้าไปสู้กับคนรุ่นหลังของท่าน ท่านจะรังเกียจหรือไม่ ?”

.

.

.

Related

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset