จวินโม่ซีตอบ “นอกเสียจากว่าเจ้าจะหาหม้อเทพนิรันดร์เจอ บางทีเจ้าอาจจะสามารถล้างพิษและทำให้ท่านอาของเจ้าลุกขึ้นยืนได้”
“หม้อเทพนิรันดร์ นั่นไม่ใช่หม้อยาหรอกหรือ ? มันสามารถล้างพิษได้รึ ?” มู่เฉียนซีถาม ใบหน้านางฉงนสงสัย
“เพียงแค่ทำให้หม้อเทพนิรันดร์ยอมรับเจ้า เช่นนั้นก็จะได้รับการสืบทอด บางทีในมรดกโบราณอาจมีวิธีล้างพิษ นอกจากนี้แล้ว ข้าไม่สามารถคิดวิธีอื่นออกเลยจริง ๆ” จวินโม่ซีโบกมือ
มู่เฉียนซีพยักหน้า “อืม ข้าเข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องหาหม้อเทพนิรันดร์ให้พบ”
ไม่เพียงแต่เพื่อเพิ่มทักษะการปรุงยาของตนเอง แต่ยังเพื่อรักษาท่านอาเล็กให้หาย หม้อเทพนิรันดร์จำเป็นกับนางมาก เพียงแต่ว่าโลกนี้กว้างใหญ่เกินไป หากคิดจะหาสมบัติเทพโบราณ มันมิใช่เรื่องง่ายเลย
นางผูกพันธสัญญากับศาลานิรันดร์และศาลาเรือนรางเก้าชั้น มันล้วนเป็นเรื่องไม่คาดฝัน ส่วนการได้รับแหวนมังกรเทพวารี นั่นก็เป็นจิ่วเยี่ยมอบให้
จวินโม่ซีหัวเราะคิกคัก กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นเช่นนี้มันถูกต้องแล้ว แต่การหาหม้อเทพนิรันดร์มันยากกว่าที่เจ้าคิดไว้มาก”
มู่เฉียนซีมองจวินโม่ซี “ดูเหมือนว่าเจ้าจะสนใจหม้อเทพนิรันดร์เป็นพิเศษนะ”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ข้าเคยบอกเจ้าแล้วไม่ใช่รึว่าหม้อเทพนิรันดร์เป็นสมบัติที่นักปรุงยาทุกคนใฝ่ฝันถึง ข้าเองก็เป็นนักปรุงยาเหมือนกับเจ้า” จวินโม่แสร้งทําเป็นพูด
มู่อวู่ซวงกินยาดอกบัววิญญาณไป เห็นได้ชัดว่าลมหายใจของเขาเสถียรมากขึ้น มู่เฉียนซีถอนหายใจ กลับไปที่เรือนสุ่ยซีของนาง เมื่อเปิดประตู ก็เห็นชายผู้เย็นชานอนอยู่บนเตียงของนาง จ้องมองมาที่นางอย่างลึกซึ้ง
มู่เฉียนซี “จิ่วเยี่ย เจ้าฟื้นแล้ว”
เขาขยับเข้ามาใกล้ มองมู่เฉียนซีจากที่สูง “ข้าไม่เป็นไรแล้ว”
“อืม ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” มู่เฉียนซียิ้มให้เขา เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกเหนื่อยล้าและต้องการที่จะนอนลงบนเตียงของนางอีกครั้ง
“จิ่วเยี่ย นี่เป็นห้องของข้า ถ้าเจ้าต้องการพักผ่อนอย่างสะดวกสบายกว่านี้ เจ้ากลับไปที่จวนเยี่ยอ๋องก่อนก็ได้”
คิ้วของจิ่วเยี่ยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “เจ้าไล่ข้าหรือ ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ที่ห้องของข้าเล็กเกินไป เกรงว่าคงรับคนสองคนไม่ได้ ดังนั้นเจ้า…”
“พาข้ากลับไป”
จิ่วเยี่ยดึงมู่เฉียนซีเข้าไปในอ้อมกอดของเขาก่อนจะพานางออกไป
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุก นี่ไม่ใช่การพาเขากลับไป แต่เป็นเขาที่ลักพาตัวนางไปต่างหาก นางขัดขืนอะไรไม่ได้ ถูกพาตัวมาถึงจวนเยี่ยอ๋อง เขาพานางเข้าไปในจวน ทว่านางเตรียมจะหนี
“จิ่วเยี่ย ข้าส่งเจ้ากลับมาถึงแล้ว งั้นข้าขอตัวก่อน”
“ไม่ได้ วันนี้เจ้าต้องอยู่ต่อ”
จิ่วเยี่ยคว้าร่างมู่เฉียนซีไว้ แสงจันทร์สาดส่องลงมากระทบบนใบหน้าของนาง ใบหน้างดงามน่าดึงดูดใจสะท้อนอยู่ในดวงตาจิ่วเยี่ย
“อยู่ต่อรึ ? เจ้าจะให้ข้าทำอะไร ?” มู่เฉียนซีกังวลอยู่ในใจ จิ่วเยี่ยคงไม่พูดเรื่องที่นางทำกับเขาหรอกใช่ไหม ?
ชัดเจนว่ากลัวอะไรได้อย่างนั้น
“เจ้าลองนึกคิดดูสิ ว่าเจ้าทําอะไรกับข้าไว้”
มือของจิ่วเยี่ยใช้แรงดึงนางไปบนเตียงไม้ในห้อง
เมื่อเห็นว่าเขาผู้นี้กําลังใกล้เข้ามา ดวงตาแข็งกร้าวราวกับเทพมาร มู่เฉียนซีรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี นางกล่าว “จิ่วเยี่ย สถานการณ์พิเศษต้องจัดการแบบพิเศษไงเล่า ตอนนั้นข้าต้องฉีดไปที่ตรงนั้น ข้าไม่ได้ตั้งใจ”
มือเรียวยาวคู่นั้นของบุรุษชุดดำ วางลงบนลำคอของมู่เฉียนซี กลิ่นอายเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วร่างของนาง เขาพูดเสียงต่ำว่า… “หากคนอื่นทําแบบนี้กับข้า คงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย …เจ้าเป็นข้อยกเว้น”
แม้แต่จิ่วเยี่ยยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ ว่าดวงตาสีฟ้าเย็นเยือกคู่นั้นของเขาฉายแววเอ็นดูออกมา
“เรื่องนี้ก็ถูกเปิดเผยแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง ?” มู่เฉียนซีมองจิ่วเยี่ยด้วยความหวัง
เจิ่วเยี่ยดึงมือเรียวยาวของเขากลับมา ทําให้มู่เฉียนซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก คิดว่าเยี่ยอ๋องจะปล่อยนางไป แต่ทว่า… คําพูดของจิ่วเยี่ยกลับทําให้นางตกจากเตียง
“ข้าคิดว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ใครทำข้าอย่างไร ข้าก็จะเอาคืนอย่างนั้น เจ้าคิดว่าอย่างไร ?” ริมฝีปากได้รูปสมบูรณ์แบบเปิดออก กล่าวประโยคนี้ออกมาอย่างช้า ๆ
มู่เฉียนซีกัดฟันพยุงร่างขึ้นมา ฮึ่ม! เอาคืนก็เอาคืน อย่างไรหมอปีศาจอย่างนางก็ไม่กลัวการฉีดยาอยู่แล้ว อีกทั้งผู้อาวุโสฮั่วอวิ๋นยังทําเข็มยาของนางออกมาอย่างประณีตและมันไม่เจ็บปวดเลยเวลาจิ้ม
มู่เฉียนซีหยิบเข็มยาที่เล็กกว่าเส้นผมออกมาเก้าเข็ม กล่าวขึ้น “จิ่วเยี่ย ข้าจะให้ยาเจ้า เจ้าฉีดข้าเพียงเก้าเข็ม ยากล่อมประสาทสามเข็ม ยาสะกดจิตสามเข็ม และยาแก้ปวดสามเข็ม ยาถูกบรรจุเรียบร้อยแล้ว ถ้าเจ้าจะลงมือก็ลงมือเถอะ เร็วสิ!”
กล่าวออกไปเช่นนั้นแล้ว มู่เฉียนซีเอนตัวลงนอนอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ เห็นได้ชัดว่านางกําลังรอให้เยี่ยอ๋องฉีดยาตรงที่เดียวกับที่นางฉีดเขาอย่างยอมรับชะตากรรม
ทว่าจิ่วเยี่ยกลับยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะแตะต้องเข็มยานั่นเลย
มู่เฉียนซีหันกลับมา ถามขึ้นว่า “จิ่วเยี่ย เจ้า…”
“เก้าเข็มไม่พอ” สี่คําพูดออกมาอย่างเย็นชา
มู่เฉียนซีบ่นอยู่ในใจว่า ‘ท่านอ๋องผู้โหดร้ายนี่ คงไม่อยากเอาคืนเป็นสิบเท่ากระมัง ?!’
‘ถ้าสิบเท่าก็… เก้าสิบเข็มเช่นนั้นรึ ?! จะทิ่มให้กลายเป็นรังผึ้งเลยหรือไร ? ตาย… ข้าตายแน่’
“สิบเข็มก็พอแล้ว” มู่เฉียนซีหยิบเข็มยาออกมาอีกเข็ม ใช้แววตาเว้าวอนมองเขา หวังว่าเขาจะไม่โหดเหี้ยมถึงขนาดสิบเท่าร้อยเท่าเช่นนั้นจริง ๆ
จิ่วเยี่ยกลับไม่ขยับ เขากดมู่เฉียนซีลงบนเตียงนุ่ม ๆ ดวงตาสีฟ้าเย็นเยือกคู่นั้นมองนาง พลันมีประกายอันตรายบางอย่างทําให้มู่เฉียนซีรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี
มือของจิ่วเยี่ยขยับจัดท่าให้มู่เฉียนซีนอนคว่ำหน้าลงบนเตียงนุ่ม ๆ สุดท้าย…
— เพี๊ยะ! —
“อ๊อยยยย!” มู่เฉียนซีตะโกนเสียงแปลกประหลาดออกมาในทันใด ดวงตานางเบิกกว้าง ใบหน้าแดงก่ำ นางโกรธจนทั่วร่างสั่น ตะโกนลั่น “จิ่วเยี่ย เจ้า… เจ้ากล้าตีก้นข้า!”
นางโตมาขนาดนี้ ชาติก่อนชาตินี้ไม่เคยถูกคนอื่นตีตรงนี้มาก่อน!
“สิ่งของพวกนั้นของเจ้า ข้าใช้ไม่เป็น ดังนั้นเช่นนี้มันจึงดีที่สุด” คําตอบของจิ่วเยี่ยเป็นคําตอบที่ซื่อสัตย์มาก เขายิ้มพึงพอใจ ความรู้สึกสัมผัสตรงฝ่ามือเมื่อครู่นี้ช่างนุ่มดีจริง ๆ
ทนไม่ไหวแล้ว!
มู่เฉียนซีเตรียมพร้อมที่จะต่อต้านความเผด็จการขององค์ชายซิวหลัวผู้โหดเหี้ยม ถูกตีเช่นนี้ช่างเป็นเรื่องน่าอับอายอย่างยิ่ง หากโดนเก้าสิบครั้งจริง ๆ นางคงต้องหนีเป็นแน่
มู่เฉียนซีระเบิดพลังทั้งหมดออกมา กระโดดขึ้นอย่างกะทันหัน พลิกตัวและคว้าแขนจิ่วเยี่ย ก่อนจะโยนเขาลงบนเตียงนุ่ม ๆ นี้บ้าง จากนั้นนางนั่งลงบนร่างของเขา มือทั้งสองข้างกดลงบนไหล่กว้าง ใบหน้าแดงก่ำของนางยังคงไม่จางหายไป นางกล่าววาจาคุกรุ่นอารมณ์โกรธ
“จิ่วเยี่ย เจ้าทําเกินไปแล้ว! พ่อข้ายังไม่เคยตีข้าเลย แต่เจ้ากลับตีตรงนั้น”
จิ่วเยี่ยที่ถูกมู่เฉียนซีจับไว้ กล่าวอย่างจริงจัง “เจ้าเป็นคนทําเรื่องแบบนั้นกับข้าก่อนไม่ใช่หรือ ?”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุก “นั่นมันไม่เหมือนกัน มันเป็นการฉีดยา มันเป็นเรื่องปกติที่หมอยาจะฉีดยาบริเวณนั้น ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยพบเห็นมันมาก่อน”
ทันทีที่คําพูดของมู่เฉียนซีจบลง กลิ่นอายของท่านอ๋องผู้โหดร้ายก็กลายเป็นแผ่ความอันตรายถึงขีดสุด
ทันใดนั้นท้องฟ้าหมุนวน จิ่วเยี่ยมีความคิดริเริ่มที่จะปราบมู่เชียนซีอีกครั้ง
“อีกแปดครั้ง มานี่”
ไอร้อนพ่นออกมาจากหูของมู่เฉียนซี ทันทีที่เขาพูดประโยคนั้นออกมา
มู่เฉียนซีอยากจะร้องไห้เสียจริง ๆ
.