มู่เฉียนซีก้มหน้าลง นางกล่าว “หากไม่ใช่โรงเหล้าเมาควันที่ตรอกหลิ่วอวิ๋น ก็ยังมีเรือบุปผาที่ทะเลสาบเมิ่งหู แล้วยังมีถนนบุปผาสายนั้นอีกใช่ไหม ? เยวี่ยเจ๋อ เจ้าหน้าแดงทำไมกัน ?”
“พี่ใหญ่ นี่อาจจะ…” เยวี่ยเจ๋อมองมู่เฉียนซีอย่างกระอักกระอ่วน
มู่เฉียนซีตบบ่าเขา กล่าวถาม “มีอะไรต้องเกรงใจรึ ?” ที่ดินสามผืนนี้ไม่นานก็เป็นของพี่ใหญ่เจ้าแล้ว หากอยากไปเที่ยวเล่นหรืออย่างไรก็ได้ทั้งนั้น อยากได้หญิงงามกี่คนมาอยู่เป็นเพื่อนก็ย่อมได้ ครางเสียงดังก็ไม่เป็นไรด้วย”
“ข้า…” เยวี่ยเจ๋อ ชายหนุ่มแสนบริสุทธิ์ไร้เดียงสาและไร้มลทินใดติดกาย เวลานี้ทั้งใบหน้าทั้งหลังหูแดงระเรื่อเมื่อฟังมู่เฉียนซีกล่าวเช่นนั้น
“พี่ใหญ่ พอเถอะ”
“ไม่ มันจําเป็นนะข้าจะบอกให้ เยวี่ยเจ๋อ ยิ่งเจ้าจะอายุสิบเจ็ดปีแล้ว เจ้าใกล้บรรลุนิติภาวะ คาดไม่ถึงว่าแม้กระทั่งสถานที่เหล่านั้นเจ้ายังไม่เคยไปกรายใกล้ ท่านแม่ทัพเยวี่ยจะโหดร้ายกับลูกชายเกินไปแล้ว” มู่เฉียนซียิ่งพูดก็ยิ่งสนุก
โอวหยางจูไอจนใบหน้าดําคร่ำครึ้ม “แค่ก ๆ ๆ ท่านผู้นำตระกูลมู่…”
เขายังไม่ได้รับปากว่าจะให้ทรัพย์สมบัติสําคัญเหล่านี้กับนางสักหน่อย นางก็พูดกับเยวี่ยเจ๋อว่าเดี๋ยวจะเป็นของนางซะแล้ว มู่เฉียนซีสตรีผู้นี้ช่างไร้ยางอายนัก!
มู่เฉียนซียิ้มเยาะ กล่าวกับเยวี่ยเจ๋อ “เยวี่ยเจ๋อ อ่านต่อไป!”
เยวี่ยเจ๋อสงบอารมณ์ลงก่อนจะกล่าวว่า “ยังมีโรงพนันจำนวนมาก และหอยาหุยชุน…”
มู่เฉียนซีรู้ดี ตระกูลโอวหยางนั้นมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย โดยเฉพาะหลังจากที่พ่อของนางจากไป แต่ว่าตอนนี้ไม่เหมือนกัน คู่แข่งของตระกูลมู่เริ่มอ่อนแอลงเรื่อย ๆ บ้างก็โดนมู่เฉียนซีโกงทรัพย์สมบัติไปจำนวนมาก
แม้ว่าทรัพย์สินโดยรวมของตระกูลโอวหยางจะไม่ได้มากเกินกว่าตระกูลมู่ แต่ก็ได้กลายเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับสองของแคว้นจื่อเยี่ย
มู่เฉียนซีโบกมือ กล่าวว่า “ท่านผู้นำตระกูลโอวหยาง ข้าต้องการไม่มาก ถ้าเอาของเหล่านี้ที่เยวี่ยเจ๋ออ่านมาให้ข้า ข้าก็จะเป็นคนที่ช่วยท่านได้”
นางหยุดพูด ยิ้มอย่างใสซื่อก่อนจะกล่าวต่อ “เยวี่ยเจ๋อ พี่ใหญ่ของเจ้ายังคงมีจิตใจเมตตามาก เจ้าว่าจริงไหม ?”
เยวี่ยเจ๋อกลั้นหัวเราะ “อืม พี่ใหญ่ข้าเป็นสตรีใจดีมีเมตตาเสมอ”
โอวหยางจูโกรธจนใบหน้าเครียดคล้ำ หากทรัพย์สมบัติเหล่านี้ทั้งหมดยกให้กับมู่เฉียนซี ตระกูลโอวหยางของพวกเขาคงจะไม่มีกิน
นางไม่ใช่ว่าต้องการไม่มาก แต่เรียกได้ว่าเรียกร้องจนจะทำให้พวกเขาล่มจมเลยต่างหาก
“ผู้นำตระกูลมู่ ทรัพย์สินพวกนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญหล่อเลี้ยงพวกเราตระกูลโอวหยาง เจ้าจะเอามันไปทั้งหมด เกรงว่าการเงินของตระกูลพวกเราคงพังพินาศ” โอวหยางจูกล่าวเสียงต่ำ
“นั่นมันก็เป็นเรื่องของตระกูลโอวหยาง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้า ข้าแค่อยากถามว่าท่านจะให้หรือไม่ให้ หากท่านให้ข้าก็จะช่วยรักษา แต่หากไม่ให้ก็รอเก็บศพบุตรสาวของท่านได้เลย”
มู่เฉียนซีส่งสายตาให้เยวี่ยเจ๋อ เป็นสัญญาณเตรียมจะให้เดินออกไปด้านนอก
สีหน้าโอวหยางจูเปลี่ยนแปลงไปหลายแบบอย่างคาดการณ์ไม่ได้ เขาโดนมู่เฉียนซีหลอกเอาทรัพย์สมบัติไปมากกว่าครึ่ง หากมาล้มเลิกเอาตอนนี้… เห็นที…
และทรัพย์สินส่วนนั้นที่ยกให้ไปก็ไม่อยู่แล้ว ยังจะเสียชีวิตลูกสาวไปอีกหรือ ?
ในที่สุดเขาก็ยอมเปิดปาก “ช้าก่อนผู้นำตระกูลมู่ ข้ายอมรับ! ถึงแม้ทรัพย์สินพวกนี้จะมีมูลค่าสูง แต่มันไม่สำคัญเท่าชีวิตของเหว่ยเหว่ย”
สองพี่น้องโอวหยางจื่อกับโอวหยางเฉียงล้วนเดือดดาล ใจของพวกเขากรุ่นโกรธแทบปะทุ มู่เฉียนซีสตรีโอหังนี่กรรโชกทรัพย์กันชัด ๆ!
โอวหยางเฉียงทนไม่ไหว คิดจะลงมือกับมู่เฉียนซีแต่กลับถูกโอวหยางจื่อดึงเอาไว้
“เย็นไว้น้องรอง ต่อให้ทรัพย์สมบัติพวกนั้นตกไปอยู่ในมือของจอมขูดเลือดเนื้ออย่างนางปีศาจมู่เฉียนซี ไม่แน่เสมอไปว่านางจะสามารถจัดการบริหารได้ดี เราแค่รอให้ทรัพย์สินพวกนั้นขาดทุน เดี๋ยวตระกูลมู่ก็จะมาร้องขอให้เรารับซื้อคืนเอง”
โอวหยางเฉียง “อย่างไรเสียพี่ใหญ่ก็คิดการได้รอบคอบ”
เวลานี้เยวี่ยเจ๋อรับหนังสือสัญญาทรัพย์จนตาลาย
หลังจากส่งมอบเสร็จ โอวหยางจูถามขึ้น “ผู้นำตระกูลมู่ ตอนนี้เจ้ารักษาเหว่ยเหว่ยได้แล้วกระมัง! เหว่ยเหว่ยใกล้จะตายแล้ว”
มู่เฉียนซีหยิบขวดยาออกมา หันไปกล่าวกับโอวหยางจื่อ “นี่คือน้ำบริสุทธิ์ไร้ราก เจ้าให้คุณหนูโอวหยางกลืนลงไปก่อน แล้วอีกสักครู่ถึงจะสามารถใช้ยาฟื้นฟูว่านหลิงได้”
“ได้” โอวหยางจื่อถือขวดยาเดินไปข้างเตียงของโอวหยางเหว่ย
เมื่อโอวหยางจื่อยกขวดยาขึ้น มู่เฉียนซีพลันกระซิบกับเยวี่ยเจ๋อ “รีบปิดจมูกและกลั้นหายใจไว้เร็วเข้า”
เยวี่ยเจ๋อไม่รู้เหตุผล แต่ฟังน้ำเสียงพี่ใหญ่แล้ว เป็นยาพิษไม่ผิดแน่!
“แค่ก ๆ ๆ!”
“โอ้กกกก!”
กลิ่นเน่าเหม็นจากร่างโอวหยางเหว่ยกระจายคลุ้งฟุ้งทั่วอากาศ กลิ่นเหม็นร้ายกาจทำให้สามพ่อลูกตระกูลโอวหยางแทบสลบ
โอวหยางเฉียงเกรี้ยวโกรธ กล่าวขึ้น “มู่เฉียนซี ยานี่ช่วยชีวิตได้ที่ไหนกัน ? นี่มันเป็นยาพิษชัด ๆ!”
ด้วยกลิ่นเหม็นอันรุนแรง กล่าวจบโอวหยางเฉียงทนไม่ไหว โก่งคออาเจียน
“โอ้กกกก!”
เยวี่ยเจ๋อรีบปิดจมูกกลั้นหายใจ นึกภาพไม่ออกเลยว่าน้ำบริสุทธิ์ไร้รากนั้นจะเหม็นมากเพียงใด แต่ดูจากสีหน้าของพ่อลูกทั้งสามคนแล้ว เขารับรู้ได้ถึงความสยดสยองและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเวทนาพวกเขา
“ผู้นำตระกูลมู่!” สีหน้าของโอวหยางจูเวลานี้ดำคล้ำราวกับว่าจะสามารถหยดเป็นหมึกออกมาได้
“ผู้นำตระกูลมู่อย่ามาหลอกข้าดีกว่า ถ้าเหว่ยเหว่ยไม่ดีขึ้น เจ้าอย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไปจากจวนโอวหยางได้” โอวหยางจูกล่าวอย่างโหดเหี้ยม
มู่เฉียนซี “แน่นอน ในเมื่อข้ามู่เฉียนซีมาถึงจวนตระกูลโอวหยาง ข้าคงไม่ได้จะมาหยอกล้อท่านผู้นำตระกูลโอวหยางแน่นอนอยู่แล้ว มิฉะนั้นข้ากับเยวี่ยเจ๋อจะถือเป็นคนอ่อนแอ ไม่มีทางที่จะออกจากตระกูลโอวหยางได้”
“เจ้ารู้ก็ดีนี่ เช่นนั้นน้ำบริสุทธิ์ไร้รากนี่…”
เมื่อพูดถึงน้ำนี้ ใบหน้าผู้นำตระกูลโอวหยางพลันบิดเบี้ยว แม้ตอนนี้เขาจะกำลังกลั้นหายใจอยู่ แต่เมื่อนึกถึงกลิ่นที่ลอดเข้ารูจมูกเมื่อครู่ เกรงว่าอาจจะกินข้าวไม่ลงเป็นเดือนก็เป็นได้
มู่ฉียนซี “นี่เป็นยาวิเศษ แน่นอนว่ารสชาติจะต้องแตกต่างจากยาอื่น ๆ มาก แต่ข้ารับประกันได้ว่าผลของมันไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”
โอวหยางจู “งั้นข้าจะลองเชื่อผู้นำตระกูลมู่อีกสักครั้ง”
โอวหยางจูรีบนำยาน้ำบริสุทธิ์ไร้รากนั่น กรอกให้โอวหยางเหว่ยกลืนลงคอ
ขณะนั้น โอวหยางเหว่ยที่กำลังอยู่บนเตียงกลิ้งไปมาอย่างบ้าคลั่ง
“อ๊า… อ๊า… อ๊า…!” โอวหยางเหว่ยกรีดร้องตะโกนก้อง
โอวหยางจูแผ่ไอสังหาร สายตาฉายแววต้องการฆ่า เขากล่าวอย่างเดือดดาล “มู่เฉียนซี เจ้าจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร ?!”
มู่เฉียนซีโบกมือไม่ใส่ใจ “นี่เป็นปฏิกิริยาปกติ ยิ่งนางดื่มยาน้ำบริสุทธิ์ไร้รากและมันได้ผลดีมากเท่าไหร่ นั่นแสดงให้เห็นได้ว่ายาฟื้นฟูว่านหลิงมีโอกาสจะรักษาโรคประหลาดของคุณหนูโอวหยางได้ผลดีมากยิ่งขึ้น”
“เช่นนั้นเจ้ารีบให้เหว่ยเหว่ยกินยาเม็ดฟื้นฟูเร็วเข้าสิ” โอวหยางจูตาแดงก่ำ
มู่เฉียนซี “เม็ดยาฟื้นฟูว่านหลิงล้ำค่ามาก ใช้สมุนไพรวิญญาณคุณภาพสูงหลากหลายชนิดถึงจะหลอมออกมาได้ ข้าได้ยินมาว่าตระกูลโอวหยางมียาสมุนไพรวิญญาณที่มีระดับอยู่ไม่น้อย ยาระดับสองก็ไม่น้อย ข้าสงสัยว่าท่านจะมอบสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นให้ข้าได้หรือไม่ เพื่อทดแทนการใช้ยาฟื้นฟูว่านหลิงในครั้งนี้”
โอวหยางจูโกรธแทบกระอักเลือด มู่เฉียนซีกําลังฉวยโอกาสปล้นตระกูลโอวหยางอีกแล้ว
หรือว่ายาวิญญาณระดับหนึ่งและยาวิญญาณระดับสองของตระกูลโอวหยางเป็นยาที่ขูดรีดมา ? มู่เฉียนซีจึงดูเหมือนต้องการทรัพย์สินมีค่าทุกอย่าง
เวลานี้โอวหยางจื่อและโอวหยางเฉียงแทบอยากจะฆ่ามู่เชียนซีที่กำลังแย้มยิ้มเจิดจ้าให้ตายตกไปคามือ
นางรังแกกันเกินไปแล้ว!
ร้านค้ากว่าสิบร้านของตระกูลมู่ ทรัพย์สินมากมายของตระกูลโอวหยางของพวกเขายังไม่พอจะซื้อน้ำวิเศษและเม็ดยาเม็ดหนึ่งได้อีกหรือ ? วิเศษวิโสล้ำค่ามากนักหรือ ?
นาง… นางยังมีหน้ามากรรโชกสมุนไพรวิญญาณของตระกูลโอวหยาง
ต้องทราบก่อนว่ายาวิญญาณและยาเม็ดเป็นสมบัติสําคัญในการฝึกยอดฝีมือของทุกตระกูล
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านผู้นำตระกูลโอวหยางไม่เห็นด้วยหรือ ? เช่นนั้นให้คุณหนูโอวหยางกระโดดต่อไปบนเตียงเถอะ อย่างไรนางก็ไม่ตาย คิดว่าท่านผู้นำตระกูลโอวหยางคงจะไม่เอาเรื่องนี้มาโทษข้า ท่านผู้นำตระกูลโอวหยางเป็นคนยอมทิ้งการรักษาคุณหนูโอวหยางเอง”
.