บทที่ 411 สมบัติล้ำค่าแห่งเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ
อาศัยการเชื่อมต่อระหว่างร่างเงากับร่างแท้จริงของเขา หลิงเทียนหยุนจึงสามารถบอกหลิงตู้ฉิงเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ตลอดเวลา
“ท่านพ่อสถานที่นี้ค่อนข้างแปลก ดูเหมือนที่นี่จะไม่เชื่อมต่อกับโลก” หลิงเทียนหยุนพูดด้วยสีหน้าสับสน
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “เจ้ายังจำสิ่งที่พ่อพูดก่อนหน้านี้ได้ไหม? เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับเป็นโลกที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังการตายของผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่ง หากโลกนี้สมบูรณ์สถานที่แห่งนี้ก็ควรจะเป็นสถานที่ของ ‘เหล่าเทพ’ ดังนั้นตามการคาดเดาของพ่อ ที่นี่มันจะต้องมีสิ่งของล้ำค่าที่สุดซึ่งไม่สามารถหาได้ในโลกของเราแน่นอน”
หลิงเทียนหยุนพยักหน้าและพูดว่า “ข้าจะตั้งใจค้นหามันให้ละเอียดที่สุด แต่น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้ร่างเงาหลายสิบร่างของข้าถูกทำลายไป ไม่งั้นข้าคงจะสำรวจที่นี่ได้ดีกว่าตอนนี้”
หลิงตู้ฉิงแสดงสีหน้าอับจนและพูดว่า “ข้าเกรงว่าเรื่องนั้น มันคงเป็นความตั้งใจของใครบางคนที่จงใจทำให้เจ้าลำบากเพราะเขาคงไม่ต้องการให้เราได้รับผลประโยชน์มากเกินไป”
“หืม? ท่านพ่อ ท่านพูดว่าอะไรนะ? ทำไมข้าไม่ได้ยินอะไรเลย?” หลิงเทียนหยุนถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง
หลิงตู้ฉิง เมื่อเห็นเช่นนี้เขาก็ได้แต่ทอดถอนใจ
คนผู้นั้นคงไม่ต้องการให้เขาพูดเรื่องนี้สินะ?
“ไม่มีอะไรหรอกช่างมันเถอะ ตั้งใจสำรวจต่อไปก็พอ” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น
น่าแปลกที่รอบนี้หลิงเทียนหยุนได้ยินสิ่งที่เขาพูดแล้ว เขาพยักหน้าและพูดว่า “ท่านพ่อ ดูเหมือนว่าข้าจะเจอบางอย่างแล้ว แต่ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร ตอนนี้ข้ากำลังนำมันกลับมาให้ท่านตรวจสอบ”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องรีบ เจ้าสามารถมองหาอย่างอื่นเพิ่มเติมต่อก็ได้ จากนั้นค่อยเก็บพวกมันมาทีเดียว”
“อืม เมื่อครู่ข้าก็ได้พบเมล็ดพันธุ์แปลก ๆ อีกอย่างแล้ว ไว้ข้าจะนำมันกลับมาด้วยนะท่านพ่อ” หลิงเทียนหยุนพูดอย่างมีความสุข
หลิงตู้ฉิง เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็มีความสุขเช่นกัน เพราะเมล็ดพันธุ์ที่ปรากฏในสถานที่แห่งนี้ย่อมต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
ในอดีตเขาอาจไม่เหลียวแลเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้มันต่างออกไป เนื่องจากตอนนี้เขามีลูกหลายคนแถมยังต้องเลี้ยงดูบรรดาภรรยาทั้งหลายของเขาอีก และนี่ยังไม่รวมไปถึงเหล่าผู้ติดตามของเขาอีกมากมายที่ต้องการการสนับสนุนของเขา ดังนั้นตอนนี้เขาจึงต้องการทุกสิ่งทุกอย่างที่พอจะเป็นประโยชน์ได้ทั้งหมด
ร่างเงาของหลิงเทียนหยุนในตอนนี้กำลังสำรวจไปทุกหนทุกแห่งในสถานที่มหัศจรรย์แห่งนี้
แต่แล้วจู่ ๆ ร่างกายของหลิงเทียนหยุนก็สั่นขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น?” หลิงตู้ฉิงถามอย่างรีบร้อน
หลิงเทียนหยุนยิ้มอย่างขมขื่น “หนึ่งในร่างเงาของข้าเข้าใกล้ลูกไฟดวงหนึ่ง และจากนั้นมันก็ถูกเผา”
หลิงตู้ฉิงรีบพูดว่า “ถ้าเจ้าเห็นว่ามันอาจจะเป็นอันตราย เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเอง”
“ไม่เป็นไรท่านพ่อ ตอนนี้ข้าคิดว่าข้าได้วิธีที่นำมันมาให้ท่านได้แล้ว” หลิงเทียนหยุนหัวเราะ “ก่อนหน้านี้ข้าได้พบกับโลหะประหลาดชิ้นหนึ่ง ข้าก็เลยลองใช้มันสัมผัสกับลูกไฟลูกนั้นดู ซึ่งลูกไฟดวงนี้มันแปลกมากเลยท่านพ่อ มันสามารถทำให้โลหะชิ้นนั้นละลายได้เล็กน้อย ข้าคิดว่าลูกไฟนี้มันต้องแข็งแกร่งมากจริง ๆ ไม่ว่าจะยังไงข้าต้องทางเอามันมาให้ได้!”
หลิงตู้ฉิงรีบพูดว่า “ถ้าไม่ไหวจริง ๆ เจ้าก็อย่าฝืน!”
“ท่านพ่อ ยังไงซะมันก็แค่ร่างเงา ถ้ามันหายไปหมด ข้าก็แค่บ่มเพาะมันขึ้นมาใหม่” หลิงเทียนหยุนพูดอย่างมุ่งมั่น “ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะไม่สามารถเอาลูกไฟดวงนั้นมาได้”
หลิงตู้ฉิงพูดอย่างหมดหนทาง “งั้นเจ้าก็จงตัดสินใจด้วยตัวเองก็แล้วกัน แต่ถ้าเจ้านำมันมาได้จริง ๆ ก็อย่าเอามันเข้ามาใกล้เรา”
ถ้าหากมีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นจริง ๆ เขาก็คงต้องใช้กฎระดับสวรรค์เข้าต่อต้าน ซึ่งแน่นอนว่ามันจะส่งผลให้พวกเขาต้องออกจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ
“ข้าเข้าใจแล้วท่านพ่อ” หลิงเทียนหยุนพยักหน้า
จากนั้นผ่านไปไม่นาน ร่างเงาของเขาก็ค่อย ๆ กลับมาและนำสิ่งที่มันพบกลับมาด้วย
“ท่านพ่อรู้ไหมว่าเมล็ดนี้คืออะไร?” หลิงเทียนหยุนถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงมองเมล็ดพันธุ์ในมือของร่างเงา และพูดด้วยอารมณ์ตื่นเต้น “นี่มันคือเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลก มันปรากฏขึ้นที่นี่ได้ยังไง?”
“เมล็ดพันธุ์ต้นไม้โลก?” หลิงเทียนหยุนแสดงสีหน้างุนงง
“พูดง่าย ๆ ก็คือเมื่อเมล็ดพันธุ์นี้เติบโตขึ้นมันจะสามารถรองค้ำจุนโลกได้ทั้งใบได้” หลิงตู้ฉิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หากต้นไม้โลกได้หยั่งรากลงในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับและเติบโตขึ้นเมื่อไหร่ล่ะก็ เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับก็อาจจะกลายเป็นโลกที่สมบูรณ์ได้ หากลองวิเคราะห์ดี ๆ แล้วเมล็ดพันธุ์นี้น่าจะเป็นแผนสำรองของเจ้าของเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับที่ไม่ทันได้ใช้มันก่อนที่เขาจะตายลงไปซะ”
หลิงเทียนหยุนแสดงสีหน้าตื่นเต้นทันทีและพูดขึ้นว่า “ท่านพ่อ ถ้างั้นหากเราปลูกมันในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับตอนนี้ โลกนี้มันจะกลายเป็นของเราใช่ไหม?”
“ไม่!” หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “เอาล่ะ ตอนนี้เราเก็บมันเอาไว้ก่อนแล้วลองสำรวจต่อไป”
หลิงตู้ฉิงตอนนี้รู้สึกตื่นเต้นจริง ๆ แค่ของสิ่งแรกที่พวกเขาพบมันก็เป็นเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลกซะแล้ว
ไม่นานต่อมา ร่างเงาอีกร่างของหลิงเทียนหยุนก็กลับมาพร้อมกับชิ้นส่วนโลหะอีกชิ้นที่ล้อมรอบไปด้วยอักขระโบราณ
“โลหะแรกกำเนิด?” หลิงตู้ฉิงพูดด้วยความสับสน
“โลหะแรกกำเนิด คืออะไรท่านพ่อ?” หลิงเทียนหยุนถามด้วยความประหลาดใจ
หลิงเทียนหยุนไม่เคยได้ยินชื่อเหล่านี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจว่ามันมีที่มาอย่างไร
หลิงตู้ฉิงพูดอย่างมีความสุขว่า “โลหะแรกกำเนิด เป็นโลหะชิ้นแรกที่กำเนิดขึ้นในกระบวนการวิวัฒนาการของโลก ซึ่งภายในของมันนั้นแฝงไปด้วยพลังธาตุโลหะที่ลึกซึ้งที่สุดจะมีได้ในโลกที่ให้กำเนิดมันขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าอำนาจของมันคงเทียบไม่ได้กับของที่กำเนิดในโลกภายนอกของเรา”
“อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ามันจะกำเนิดในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ มันก็ยังเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก ๆ เช่นกัน หยุนเอ๋อ เจ้าจงใช้โลหะแรกกำเนิดชิ้นนี้ไปนำลูกไฟที่เจ้าเพิ่งพูดถึงกลับมา ไม่ว่ามันจะเป็นลูกไฟแบบไหนก็ตาม มันจะไม่มีทางทำลายโลหะแรกกำเนิดชิ้นนี้ได้แน่นอน”
หลิงตู้ฉิงมีความสุขอย่างแท้จริง การได้พบกับลาภก้อนใหญ่ขนาดนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นในอดีตที่เขามีสถานะสูงส่ง เขาก็ยังถือได้ว่าของเหล่านี้ล้ำค่าเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นเมื่อเขาเห็นหลิงเทียนหยุนนำสิ่งของต่าง ๆ กลับมาเพิ่มทีละชิ้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็กว้างขึ้นเรื่อย ๆ
“หยุนเอ๋อ พ่อคิดถูกจริง ๆ ที่พาเจ้ามาที่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ!” หลิงตู้ฉิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ “ตอนนี้เรามีทั้งห้าธาตุแรกกำเนิด เมล็ดพันธุ์ต้นไม้โลก และอีกอย่างที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ ผลึกสวรรค์โกลาหล! เมื่อไหร่ที่เรากลับไปยังโลกขอบเขตนภาและหาวัสดุบางอย่างที่จำเป็นเพิ่มอีกสักหน่อยเราจะสามารถสร้าง หม้อเอกภพ ขึ้นมาได้! ด้วยหม้อเอกภพ เราจะสามารถเก็บสิ่งของของที่นี่ได้เป็นจำนวนมากและนำพวกมันออกไปได้โดยไม่มีปัญหา!”
หลิงเทียนหยุน เมื่อได้ยินเช่นนี้เขาก็หัวเราะเช่นกัน
เนื่องจากปัญหาใหญ่ของพวกเขาที่ไม่มีแหวนมิติไว้ใช้เก็บของล้ำค่าของที่นี่กำลังจะถูกแก้ไขได้แล้ว
ถ้ามันเป็นอย่างที่พ่อของเขาพูดจริง ๆ ด้วยหม้อเอกภพใบนี้ พี่น้องและแม่ของเขาทุกคนจะมีโอกาสได้รับประโยชน์กันถ้วนหน้า ดังนั้นการที่เขาได้สูญเสียร่างเงาของเขาไปกว่าสิบร่างก่อนหน้านี้มันก็ไม่น่าเสียดายอีกต่อไป หรืออันที่จริงต่อให้เขาต้องเสียมันไปทั้งหมดมันก็ยังนับว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เพราะเขาก็แค่ต้องเสียเวลาบ่มเพาะมันใหม่ก็แค่นั้น
“ท่านพ่อ ของที่ข้ากำลังนำมามันยังไม่หมด!” หลิงเทียนหยุนเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “แต่ข้ารู้สึกว่าของชิ้นนี้มันดูแปลกประหลาดมากว่าของชิ้นอื่นมาก ๆ อ๋อ ท่านพ่อตอนนี้ข้ายังเหลือร่างเงาอยู่อีกหลายร่างที่กำลังสำรวจอยู่ข้างนอกนั่น ข้าตั้งใจว่าจะยังคงให้มันค้นหาต่อไปก่อนอีกสักหน่อย”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและส่งสัญญาณให้หลิงเทียนหยุนสำรวจสถานที่นี้ต่อไป เนื่องจากว่าในตอนนี้ที่เขามีผลึกสวรรค์โกลาหลแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องที่เขาจะนำสิ่งของต่าง ๆ ออกไปไม่ได้อีกต่อไป
ไม่นานต่อมา ร่างเงาของหลิงเทียนหยุนก็ได้นำผลึกประหลาดที่ดูคล้ายเพชรมาให้หลิงตู้ฉิง และถามขึ้นว่า “ท่านพ่อ ท่านรู้ไหมว่าสิ่งนี้มันคืออะไร?”
หลิงตู้ฉิงที่กำลังมองไปยังมัน จู่ ๆ ทันใดนั้นแสงหลากสีก็พุ่งออกมาจากผลึกและพุ่งเข้าสู่ร่างกายของหลิงตู้ฉิงทันที!