รุ่งเช้าเมื่อถังซีตื่นขึ้นเฉียวเหลียงก็ออกจากห้องไปแล้ว แต่เขาซื้ออาหารเช้าไว้ให้เธอก่อนจะออกไป ขณะมองดูอาหารเช้าบนโต๊ะถังซีก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ เธอส่งข้อความถึงเฉียวเหลียงผ่านวีแชต แล้วไปอาบน้ำ มาทานอาหารเช้า หลังอาหารเช้าเธอโทรหาผู้ช่วยของเธอ บอกให้มาพบที่โรงแรม
ถังซีพร้อมแล้วเมื่อผู้ช่วยมาถึง ผู้ช่วยส่งเอกสารที่เตรียมมาให้เธอ ถังซีหยิบเอกสารมาดูและพยักหน้า “เรากำลังจะไปพบกับประธานบริษัทชั้นนำ 4 แห่งของเมือง A เตรียมตัวให้พร้อม”
จากการไต่เต้าขึ้นมาจากผู้ช่วยธรรมดาๆ จนถึงจุดที่ยืนอยู่ในปัจจุบัน ผู้ช่วยถังซีได้กลายเป็นผู้ที่มีความสามารถมากคนหนึ่ง เธอพยักหน้า “ฉันตรวจสอบประวัติคุณเฮ่อหว่านโจว ประธานเฮ่อซิงกรุป ประธานเฉียว และประธานเซียวดูแล้วเมื่อคืนนี้ คุณมั่นใจได้เลยค่ะ ท่านประธาน”
ถังซีมองเธออย่างชื่นชม แล้วพยักหน้า “ดี เราไปกันได้แล้ว”
ตามการนัดหมาย เธอทั้งสองมุ่งหน้าไปที่เฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป เพื่อพบกับท่านประธานทั้งสี่ ระหว่างทางถังซีถามว่าช่วงที่ผ่านมาบริษัทเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเธอแทบไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงเลย หลังจากฉินกรุปและเอ็มไพร์กรุปยุติการฟาดฟันกันชั่วคราว เธอก็แทบจะอยู่แต่ที่เมือง A ทุกวัน
ผู้ช่วยส่งอีเมลรายงานสถานการณ์ของบริษัทมาให้เป็นครั้งคราว ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่เธอจะได้รับทราบถึงสถานการณ์ล่าสุดของบริษัท
ผู้ช่วยหวังเล่าทุกอย่างที่เธอรู้ให้ถังซีฟังโดยละเอียด ถังซีฟังและพยักหน้า จากคำพูดของผู้ช่วยหวัง เธอได้ทราบคร่าวๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัท
“คุณหมายความว่าฉินกรุปติดต่อกับถังเจี๋ยเหรินงั้นหรือ” ถังซีหรี่ตา ดูเหมือนจะมีใครหลายคนเริ่มกระสับกระส่าย เมื่อเธอไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง โดยเฉพาะถังเจี๋ยเหริน!
เสือดาวยังไงก็ไม่มีวันเปลี่ยนลายจุดของมัน! คนทรยศพวกนี้นี่น่ารังเกียจจริงๆ!
ผู้ช่วยพยักหน้า “และฉันยังพบว่าถังเห่านัดพบกับฉินซินหยิ่งบ่อยครั้งด้วยค่ะ” จากนั้นเธอก็หยิบภาพจากกระเป๋าถือส่งให้ถังซี
ถังซีเลิกคิ้ว กวาดตามองภาพถ่ายนั้น ขณะมองไปตามใบหน้าผู้คนในภาพ ประกายเย็นเยียบก็กะพริบไปทั่วดวงตาเธอ เธอคืนภาพให้ผู้ช่วย และกล่าวว่า “จับตาดูพวกเขาไว้ หาหลักฐานให้ได้มากที่สุดแล้วส่งมาให้ฉัน ฉันทนได้ถ้าพนักงานของฉันจะไร้ประโยชน์ แต่ทนไม่ได้สำหรับคนทรยศ!”
เธอยังไม่ได้ชำระบัญชีเก่ากับ ‘ญาติๆ’ ที่รักของเธอเลย พวกเขาก็เริ่มลงมือช่วยเหลือตระกูลฉินทำลายเอ็มไพร์กรุปอีกครั้งแล้ว!
ผู้ช่วยเก็บภาพถ่ายใส่กระเป๋าและพยักหน้า ถังซีมองหน้าเธอพร้อมกับกล่าวว่า “ฉันอยากให้คุณทำอะไรให้ฉันบางอย่าง”
…
เมื่อทั้งสองลงจากรถ เซียวจิ่งก็มารอพวกเธออยู่แล้ว ถังซีมีชื่อเสียงโด่งดังมากจนแทบทุกคนรู้จักเธอ เมื่อเห็นเธอปรากฏตัวที่นี่พนักงานเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปต่างก็มองเธอด้วยความประหลาดใจ พวกเขาเริ่มเดากันต่างๆ นานา ว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่
ถังซีทักทายเซียวจิ่งอย่างสุภาพ จากนั้นเซียวจิ่งก็พาพวกเธอขึ้นไปชั้นบน
“นั่นท่านประธานหญิงของเอ็มไพร์กรุปใช่ไหม!”
“โอ้โห เธอดูสวยกว่าในทีวีเสียอีก! และเธอยังเด็กมาก!”
“พระเจ้า ออร่าเธอเปล่งปลั่งมาก! ฉันรู้สึกปลื้มปริ่มที่ได้เห็นเธอ!”
“ผู้ช่วยของเธอก็สวยเหมือนกัน!”
“เอ็มไพร์กรุปคัดเลือกพนักงานที่หน้าตาหรือเปล่าเนี่ย!”
“ใช่ แม้แต่ผู้ช่วยของเธอก็สวยมาก!”
เมื่อได้ยินคำพูดของพวกพนักงานเฉียวกรุปถังซีก็แอบยิ้ม เป็นเหมือนเช่นเคย ถังซีกลายเป็นจุดสนใจอีกครั้ง
แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่า ถังซีได้เสียชีวิตไปแล้วจากอุบัติเหตุทางอากาศที่ก่อขึ้นโดยคนบางกลุ่ม และเธอต้องให้คนพวกนั้นชดใช้อย่างสาสม
“ท่านประธานถัง คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ” เมื่อเห็นเธอเหม่อลอย เซียวจิ่งก็ใช้นิ้วสะกิดเธอ
ถังซีหันมาสบตาเขา ผู้ช่วยเธอหันมามองหน้าเซียวจิ่งด้วยความตกใจ ครั้งสุดท้ายที่หุ้นส่วนทางธุรกิจถูกท่านประธานตบหน้านั้น เป็นเพียงเพราะเขาสัมผัสเสื้อผ้าเธอ ผู้ชายคนนี้ช่างกล้า…
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความประหลาดใจของเธอ ถังซียิ้มให้เซียวจิ่งด้วยท่าทางขอโทษ “ขอโทษนะคะ ฉันเสียสมาธิไปหน่อย คุณว่าอะไรนะคะ ท่านประธานเซียว”
ผู้ช่วยหวังมองเธอด้วยความประหลาดใจ ทำไมท่านประธานถึงไม่โกรธผู้ชายคนนี้เลยล่ะ
ผู้ช่วยหวังมองดูเซียวจิ่งซึ่งสนทนาอย่างมีความสุขกับถังซี แล้วขมวดคิ้ว พร้อมกับบ่นพึมพำ “เป็นเพราะว่าเขาหล่อเหรอ”
ก็เป็นไปได้! เธอรู้ว่าท่านประธานชอบผู้ชายหล่อ!
ผู้ช่วยหวังพยักหน้า พลางคิดว่าเธอได้ค้นพบความจริงแล้ว!
ใช่ ต้องเป็นเพราะเหตุผลนี้แน่
“คุณว่าอะไรนะ ผู้ช่วยหวัง” ถังซีหรี่ตามองผู้ช่วยของเธอ เธอเองก็นึกถึงสิ่งที่เธอเคยทำกับหุ้นส่วนธุรกิจคนนั้นด้วยเช่นกัน เธอคิดว่าโชคดีที่เอ็มไพร์กรุปมีอิทธิพลมากพอ มิฉะนั้นเธออาจทำลายโอกาสในการร่วมมือทางธุรกิจไปแล้วมากมาย
ผู้ช่วยหวังกล่าวอึกอัก “ฉันแค่คิดถึงรายการอาหารของงานเลี้ยงอาหารค่ำในงานครบรอบวันสถาปนาบริษัท ที่เราจะจัดขึ้นเดือนหน้านี้ค่ะ อาหารต้องไม่เค็มเกินไป และ…”
พระเจ้า นี่เธอพูดอะไรออกไป!
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความประหลาดใจของเธอ ถังซีไม่ได้ดุเธอเลยที่เธอเหม่อลอย เพียงแค่พยักหน้า จริงสิ จะถึงวันครบรอบสถาปนาเอ็มไพร์กรุปในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เธอต้องไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำด้วย ดูเหมือนว่าเธอต้องขอวันหยุดหนิงเหยี่ยนอีกสักหนึ่งวัน
…
ทันทีที่ถังซีเข้าห้องประชุม เฮ่อหว่านโจวก็ลุกขึ้น รีบวิ่งเข้ามาหาเธอ เขาจับมือทักทายกับถังซี และยิ้มให้เธอด้วยรอยยิ้มที่เป็นสุภาพบุรุษที่สุดในความคิดของเขา “ท่านประธานถัง เราพบกันอีกแล้ว”
ถังซีมองหน้าเขา แสร้งทำเป็นจำเขาไม่ได้ “ขอโทษนะคะ คุณคือ…”
เฮ่อหว่านโจวมองถังซีอย่างเศร้าใจ “คุณ… คุณลืมไปแล้วหรือครับ ว่าผมเป็นใคร”
“ไม่ค่ะ ไม่ลืมอย่างแน่นอน” ถังซียิ้ม “ฉันจะลืมผู้ชายที่หล่อเหลาอย่างคุณได้ยังไงล่ะคะ ท่านประธานเฮ่อ ฉันแค่ล้อเล่นน่ะค่ะ โปรดอย่าถือสาเลยนะคะ”
ถังซีหันไปสบตาเฉียวเหลียง มองเขาราวกับว่าเธอไม่ได้เห็นเฉียวเหลียงมาเป็นเวลานาน เธอเดินไปหาเขา ยื่นมือให้เขา “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”
เฉียวเหลียงมองหน้าถังซีซึ่งแสดงละครได้เก่งมาก แล้วจับมือกับเธอ “ใช่ครับ นานทีเดียว”
เซียวเจี่ยนมองคนทั้งสองแล้วขมวดคิ้ว “พวกคุณรู้จักกันด้วยเหรอ”
“ยิ่งกว่ารู้จักเสียอีก!” เฮ่อหว่านโจวกล่าว “สองคนนี้เขาเป็น…”
“เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนในมหาวิทยาลัยน่ะค่ะ” ถังซียิ้มให้เฮ่อหว่านโจว “ประธานเฮ่อก็เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเอ็มไพร์ด้วยเหมือนกัน ใช่ไหมคะ”
ภายใต้ประกายตาเตือนภัยวาววับของเฉียวเหลียง เฮ่อหว่านโจวกลืนน้ำลายแล้วยิ้มอย่างเงอะงะ “ใช่ ใช่ พวกเขาเป็น… เพื่อนร่วมชั้นเรียนกันน่ะ”