“ ลานแห่งวิวรณ์ถูกสร้างขึ้นโดยไห่อู่เซิงรึ ?สุสานก็ถูกเขาสร้างขึ้นมาด้วยรึ ?” จางลู่อึ้ง
ซุนเหยียนพยักหน้า “ มันน่าจะเป็นทักษะของมัน มันกำเนิดขึ้นมาในจิตที่หลงเหลือของจ้าวโกลาหล มันเป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษ มันมีทักษะพิเศษ”
หลังจากที่พูดจบ ซุนเหยียนก็พูดขึ้นต่อ “ หลังจากที่รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมา เขาก็ได้เห็นความหวัง เขาเชื่อว่าตราบใดที่ลานยังเพิ่มความแข็งแกร่งได้ต่อ สักวันเขาจะทะลวงบาเรียของจิตลึกลับได้และเอาชนะจิตลึกลับ รวมไปถึงทวงคืนร่างกายของตนกลับมา” ซุนเหยียนสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมแสดงสีหน้าซับซ้อน “ หลังจากที่ดิ้นรนอยู่นาน สุดท้ายเขาก็รู้ความจริง เขาเริ่มเลียนแบบจิตลึกลับ เขาได้สร้างบัตรหยกมากมายและส่งมันไปยังโลกภายนอกทำให้ผู้คนมากมายหันมาสนใจสุสาน” ตัวเขาเองโดนจองจำไว้ในสุสานแต่บัตรหยกนี้สามารถส่งออกไปด้านนอกได้
“ หากอยู่ไม่ห่างออกไปนัก บัตรหยกนี้จะส่งคนเข้ามาได้ทันทีแต่ถ้าอยู่ห่างกันเกินไป ก็ต้องไปตามพิกัดที่กำหนดและอาศัยคลื่นพลังของบัตรหยกเปิดการทำงานของค่ายกลแล้วถึงจะเข้ามายังสุสานได้”
“ ตอนแรกเขาไม่คิดจะฆ่าใคร แม้ว่าพวกนั้นจะทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้น แต่หลังจากใช้เวลามาหลายปี เขาก็ไม่สามารถทะลวงบาเรียที่จำกัดเขาได้ เขาจึงรู้ว่าจิตลึกลับนั้นแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้และยังพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว “
“ หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป บางทีเขาคงไม่อาจจะเอาชนะมันได้ ไม่มีทางที่จะได้ร่างกายและวิญญาณกลับคืนมา เขาหมดหนทาง เขาเริ่มหวั่นไหวและเริ่มสับสนว่าจะฆ่าคนดีรึไม่”
“ สุดท้ายวันหนึ่งเขาก็ไม่อาจจะอดทนได้ไหว เขาได้ฆ่าคนไปทีละคนๆ….เมื่อเริ่มแล้วเขาก็ไม่อาจจะหยุดได้ ยิ่งรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สุดท้ายเขาก็ตกเป็นทาสของการฆ่าฟัน คนที่ตายไปด้วยฝีมือของเขานั้นมีนับไม่ถ้วน”
จางลู่ไม่รู้ว่าจะประเมินซุนเหยียนยังไง
สถานการณ์ของซุนเหยียนนั้นนอกจากฆ่าตัวตายแล้ว มันยากที่จะรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้
จางลู่ไม่คิดว่าเขาจะควบคุมสติตัวเองได้หากอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
เพราะแบบนั้นการที่ซุนเหยียนทำตัวเช่นนี้เขาก็พอเข้าใจ
“ หลังจากที่ฆ่าผู้ควบคุมไปนับไม่ถ้วน พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก เขาลืมเป้าหมายของตัวเองและเกือบจะลืมความคิดของตัวเองไป เขาได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริง ในหัวของเขามีเพียงแต่การฆ่าและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง” ร่างที่อัดแน่นไปด้วยปราณสุสานเริ่มสั่นไหว “ เขาเริ่มไม่อยากแก้แค้นจิตลึกลับ เขาไม่อยากได้ร่างตัวเองกลับมาเพราะในใจของเขาตอนนี้โดนปราณสุสานครอบงำไปแล้ว เขาไม่ใช่เขาคนเดิมแล้ว”
“ จนกระทั่งวันหนึ่งจิตลึกลับก็มาหาเขา เขาคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีแล้วเขาจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ แต่ผลลัพธ์..”
“ จิตลึกลับกลับเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย !”
“ จิตลึกลับได้สร้างโกลาหลนภาขึ้นมา มันแข็งแกร่งกว่าสุสานสวรรค์ ความแข็งแกร่งของมันจึงเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว”
“ การต่อสู้นั้นเขาพ่ายแพ้อย่างหมดรูป แม้แต่ลานก็ยังโดนทำลายไปเป็นจำนวนมาก…”
“ หากไม่ใช่เพราะจิตของเขาพิเศษพอจะทัดเทียมกับจ้าวโกลาหลได้ บางทีเขาอาจจะโดนฆ่าไปแล้วไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง…”
“ หลังจากจิตลึกลับกลับไป เขาก็ยิ่งคลั่งกว่าเก่า เขาคิดว่าเขายังพยายามไม่พอ เขายิ่งทำให้ตัวเองกลายเป็นจิตสุสาน เขาฆ่าคนและควบคุมคน เขาทำทุกอย่างเพื่อที่ความแข็งแกร่งของเขาจะได้เพิ่มขึ้นมา”
“ เขากลายเป็นจิตสุสานที่ทำให้คนนับไม่ถ้วนต้องหวาดกลัว เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดอย่างสมบูรณ์ !”
“ เรื่องที่น่าตลกคือแม้ว่าเขาจะยอมทุ่มเททุกอย่างแต่ก็ไม่อาจจะเป็นคู่มือของจิตลึกลับได้…”
“ จิตลึกลับมักจะมาหาเขาอยู่ตลอดและเอาชนะเขาไปได้อย่างง่ายดาย เขาไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากตกสู่ความสิ้นหวัง…”
ซุนเหยียนตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้นและสิ้นหวัง
“ เขาเหมือนกับหนูที่โดนปั่นหัวโดยแมว” ซุนเหยียนเยาะเย้ยตัวเอง “ได้แต่รอวันพ่ายแพ้”
“ เรื่องที่เขารู้สึกผิดที่สุดคือเขาไม่น่าจะไปหาต้นกำเนิดของมันเลย เขามั่นใจตัวเองเกินไปถึงได้ตกอยู่ในสภาพนี้ “ ซุนเหยียนเงียบไปสักัพกและเรียกสติตัวเองกลับมา เขามองไปที่จางลู่ “เขาก็คือข้าซุนเหยียน จิตลึกลับนั้นคือไห่อู่เซิง นี่คือเรื่องราวระหว่างข้ากับมัน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมข้าถึงได้เป็นคนเช่นนี้”
จางลู่เงียบไป
ประสบการณ์ที่ซุนเหยียนผ่านมานั้นช่างโหดร้าย เรื่องราวมันน่าเศร้าแต่ก็ไม่อาจจะชดเชยความผิดที่เขาก่อขึ้นมา
หากแค่ฆ่าคน จางลู่คงไม่คิดจะใส่ใจแต่นี่ยังคิดจะทำลายโกลาหลด้วย
ซุนเหยียนจมอยู่กับความเกลียดชังจนลืมเลือนเหตุผลทุกอย่างไป !
คนที่เคยเป็นผู้พิทักษ์แต่ตอนนี้กลับเร่งความเร็วในการทำลายล้างโกลาหล หากวันหนึ่งโกลาหลโดนทำลายจริงๆ งั้นซุนเหยียนก็คือคนร้าย
ตอนนี้ซุนเหยียนไม่ใช่ซุนเหยียนคนเดิม แต่เป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่มีเหตุผล จางลู่มั่นใจว่าหากยังปล่อยให้ซุนเหยียนทำแบบนี้ต่อไป งั้นโกลาหลก็คงหายไปในสักวัน
“ ข้าสงสารเจ้า” จางลู่พูดขึ้นมา “ แต่มันไม่มีทางที่จะยกโทษให้กับความผิดที่เจ้าก่อเอาไว้ได้ ข้าไม่อาจจะยกโทษกับสิ่งที่เจ้าทำกับโกลาหลได้ …” ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้ซุนเหยียนกลายเป็นจิตสุสาน แต่จางลู่ก็ต้องหาทางกำจัดอีกฝ่าย เพราะตัวตนของอีกฝ่ายนั้นเป็นภัยต่อโกลาหล ยิ่งซุนเหยียนแข็งแกร่งเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเร่งความเร็วในการทำลายโกลาหลเท่านั้น
ซุนเหยียนพูดขึ้นมา “ ข้าไม่คิดจะให้ใครยกโทษให้ข้า ! บางเรื่องเมื่อทำลงไปแล้วผิดก็ถือว่าผิด คนอื่นจะยกโทษให้รึไม่นั้นมันจะมีความหมายตรงไหนกัน ? ”
เขามองไปที่เสี่ยวเสียแล้วพูดต่อ “ รับปากข้าเงื่อนไขหนึ่ง แล้วข้าจะไม่ต่อต้านและให้เจ้ากินข้า หุ่นเชิดในสุสานแห่งนี้ข้าจะยกให้เจ้าทั้งหมด” “ เงื่อนไขอะไร ?” จางลู่สนใจในตัวหุ่นเชิดพวกนี้อย่างมาก
“ ช่วยข้ากำจัดจิตลึกลับ !” ซุนเหยียนกัดฟันแน่นและพูดขึ้นมา
ซุนเหยียนพยักหน้า “ มันน่าจะเป็นทักษะของมัน มันกำเนิดขึ้นมาในจิตที่หลงเหลือของจ้าวโกลาหล มันเป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษ มันมีทักษะพิเศษ”
หลังจากที่พูดจบ ซุนเหยียนก็พูดขึ้นต่อ “ หลังจากที่รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมา เขาก็ได้เห็นความหวัง เขาเชื่อว่าตราบใดที่ลานยังเพิ่มความแข็งแกร่งได้ต่อ สักวันเขาจะทะลวงบาเรียของจิตลึกลับได้และเอาชนะจิตลึกลับ รวมไปถึงทวงคืนร่างกายของตนกลับมา” ซุนเหยียนสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมแสดงสีหน้าซับซ้อน “ หลังจากที่ดิ้นรนอยู่นาน สุดท้ายเขาก็รู้ความจริง เขาเริ่มเลียนแบบจิตลึกลับ เขาได้สร้างบัตรหยกมากมายและส่งมันไปยังโลกภายนอกทำให้ผู้คนมากมายหันมาสนใจสุสาน” ตัวเขาเองโดนจองจำไว้ในสุสานแต่บัตรหยกนี้สามารถส่งออกไปด้านนอกได้
“ หากอยู่ไม่ห่างออกไปนัก บัตรหยกนี้จะส่งคนเข้ามาได้ทันทีแต่ถ้าอยู่ห่างกันเกินไป ก็ต้องไปตามพิกัดที่กำหนดและอาศัยคลื่นพลังของบัตรหยกเปิดการทำงานของค่ายกลแล้วถึงจะเข้ามายังสุสานได้”
“ ตอนแรกเขาไม่คิดจะฆ่าใคร แม้ว่าพวกนั้นจะทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้น แต่หลังจากใช้เวลามาหลายปี เขาก็ไม่สามารถทะลวงบาเรียที่จำกัดเขาได้ เขาจึงรู้ว่าจิตลึกลับนั้นแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้และยังพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว “
“ หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป บางทีเขาคงไม่อาจจะเอาชนะมันได้ ไม่มีทางที่จะได้ร่างกายและวิญญาณกลับคืนมา เขาหมดหนทาง เขาเริ่มหวั่นไหวและเริ่มสับสนว่าจะฆ่าคนดีรึไม่”
“ สุดท้ายวันหนึ่งเขาก็ไม่อาจจะอดทนได้ไหว เขาได้ฆ่าคนไปทีละคนๆ….เมื่อเริ่มแล้วเขาก็ไม่อาจจะหยุดได้ ยิ่งรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สุดท้ายเขาก็ตกเป็นทาสของการฆ่าฟัน คนที่ตายไปด้วยฝีมือของเขานั้นมีนับไม่ถ้วน”
จางลู่ไม่รู้ว่าจะประเมินซุนเหยียนยังไง
สถานการณ์ของซุนเหยียนนั้นนอกจากฆ่าตัวตายแล้ว มันยากที่จะรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้
จางลู่ไม่คิดว่าเขาจะควบคุมสติตัวเองได้หากอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
เพราะแบบนั้นการที่ซุนเหยียนทำตัวเช่นนี้เขาก็พอเข้าใจ
“ หลังจากที่ฆ่าผู้ควบคุมไปนับไม่ถ้วน พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก เขาลืมเป้าหมายของตัวเองและเกือบจะลืมความคิดของตัวเองไป เขาได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริง ในหัวของเขามีเพียงแต่การฆ่าและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง” ร่างที่อัดแน่นไปด้วยปราณสุสานเริ่มสั่นไหว “ เขาเริ่มไม่อยากแก้แค้นจิตลึกลับ เขาไม่อยากได้ร่างตัวเองกลับมาเพราะในใจของเขาตอนนี้โดนปราณสุสานครอบงำไปแล้ว เขาไม่ใช่เขาคนเดิมแล้ว”
“ จนกระทั่งวันหนึ่งจิตลึกลับก็มาหาเขา เขาคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีแล้วเขาจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ แต่ผลลัพธ์..”
“ จิตลึกลับกลับเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย !”
“ จิตลึกลับได้สร้างโกลาหลนภาขึ้นมา มันแข็งแกร่งกว่าสุสานสวรรค์ ความแข็งแกร่งของมันจึงเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว”
“ การต่อสู้นั้นเขาพ่ายแพ้อย่างหมดรูป แม้แต่ลานก็ยังโดนทำลายไปเป็นจำนวนมาก…”
“ หากไม่ใช่เพราะจิตของเขาพิเศษพอจะทัดเทียมกับจ้าวโกลาหลได้ บางทีเขาอาจจะโดนฆ่าไปแล้วไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง…”
“ หลังจากจิตลึกลับกลับไป เขาก็ยิ่งคลั่งกว่าเก่า เขาคิดว่าเขายังพยายามไม่พอ เขายิ่งทำให้ตัวเองกลายเป็นจิตสุสาน เขาฆ่าคนและควบคุมคน เขาทำทุกอย่างเพื่อที่ความแข็งแกร่งของเขาจะได้เพิ่มขึ้นมา”
“ เขากลายเป็นจิตสุสานที่ทำให้คนนับไม่ถ้วนต้องหวาดกลัว เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดอย่างสมบูรณ์ !”
“ เรื่องที่น่าตลกคือแม้ว่าเขาจะยอมทุ่มเททุกอย่างแต่ก็ไม่อาจจะเป็นคู่มือของจิตลึกลับได้…”
“ จิตลึกลับมักจะมาหาเขาอยู่ตลอดและเอาชนะเขาไปได้อย่างง่ายดาย เขาไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากตกสู่ความสิ้นหวัง…”
ซุนเหยียนตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้นและสิ้นหวัง
“ เขาเหมือนกับหนูที่โดนปั่นหัวโดยแมว” ซุนเหยียนเยาะเย้ยตัวเอง “ได้แต่รอวันพ่ายแพ้”
“ เรื่องที่เขารู้สึกผิดที่สุดคือเขาไม่น่าจะไปหาต้นกำเนิดของมันเลย เขามั่นใจตัวเองเกินไปถึงได้ตกอยู่ในสภาพนี้ “ ซุนเหยียนเงียบไปสักัพกและเรียกสติตัวเองกลับมา เขามองไปที่จางลู่ “เขาก็คือข้าซุนเหยียน จิตลึกลับนั้นคือไห่อู่เซิง นี่คือเรื่องราวระหว่างข้ากับมัน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมข้าถึงได้เป็นคนเช่นนี้”
จางลู่เงียบไป
ประสบการณ์ที่ซุนเหยียนผ่านมานั้นช่างโหดร้าย เรื่องราวมันน่าเศร้าแต่ก็ไม่อาจจะชดเชยความผิดที่เขาก่อขึ้นมา
หากแค่ฆ่าคน จางลู่คงไม่คิดจะใส่ใจแต่นี่ยังคิดจะทำลายโกลาหลด้วย
ซุนเหยียนจมอยู่กับความเกลียดชังจนลืมเลือนเหตุผลทุกอย่างไป !
คนที่เคยเป็นผู้พิทักษ์แต่ตอนนี้กลับเร่งความเร็วในการทำลายล้างโกลาหล หากวันหนึ่งโกลาหลโดนทำลายจริงๆ งั้นซุนเหยียนก็คือคนร้าย
ตอนนี้ซุนเหยียนไม่ใช่ซุนเหยียนคนเดิม แต่เป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่มีเหตุผล จางลู่มั่นใจว่าหากยังปล่อยให้ซุนเหยียนทำแบบนี้ต่อไป งั้นโกลาหลก็คงหายไปในสักวัน
“ ข้าสงสารเจ้า” จางลู่พูดขึ้นมา “ แต่มันไม่มีทางที่จะยกโทษให้กับความผิดที่เจ้าก่อเอาไว้ได้ ข้าไม่อาจจะยกโทษกับสิ่งที่เจ้าทำกับโกลาหลได้ …” ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้ซุนเหยียนกลายเป็นจิตสุสาน แต่จางลู่ก็ต้องหาทางกำจัดอีกฝ่าย เพราะตัวตนของอีกฝ่ายนั้นเป็นภัยต่อโกลาหล ยิ่งซุนเหยียนแข็งแกร่งเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเร่งความเร็วในการทำลายโกลาหลเท่านั้น
ซุนเหยียนพูดขึ้นมา “ ข้าไม่คิดจะให้ใครยกโทษให้ข้า ! บางเรื่องเมื่อทำลงไปแล้วผิดก็ถือว่าผิด คนอื่นจะยกโทษให้รึไม่นั้นมันจะมีความหมายตรงไหนกัน ? ”
เขามองไปที่เสี่ยวเสียแล้วพูดต่อ “ รับปากข้าเงื่อนไขหนึ่ง แล้วข้าจะไม่ต่อต้านและให้เจ้ากินข้า หุ่นเชิดในสุสานแห่งนี้ข้าจะยกให้เจ้าทั้งหมด” “ เงื่อนไขอะไร ?” จางลู่สนใจในตัวหุ่นเชิดพวกนี้อย่างมาก
“ ช่วยข้ากำจัดจิตลึกลับ !” ซุนเหยียนกัดฟันแน่นและพูดขึ้นมา