ทุกคนมองซือถูฉยงที่อยู่ในชุดสีขาว รู้สึกว่าเขาหล่อมาก
“กรี๊ด ซือถูฉยง”
“กี่ปีแล้วที่ไม่เห็นเขาสวมชุดแบบนี้”
“เมื่อก่อนเวลาที่เขาแข่งคนต้องเต็มสนามแน่ๆ ไม่คิดเลยว่าตอนนี้เราจะได้เห็นเขามาแข่งอยู่ที่นี่”
“เขาไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ยังหล่อเหมือนเดิมเลย”
ทุกคนกรีดร้องเสียงดัง ทั้งสนามดูครึกครื้นขึ้นมาทันที
ต่อมาไม่นาน
กู้จิ้งเจ๋อที่อยู่ในชุดฟันดาบก็เดินเข้ามา
เขาถือหน้ากากเอาไว้ มืออีกข้างถือดาบ
แบ่งคนละฝั่งซ้ายขวากับซือถูฉยงอย่างชัดเจน
ตอนนี้ทั้งสนามคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง
“สวรรค์ กู้จิ้งเจ๋อ กู้จิ้งเจ๋อตัวจริง หล่อมากเลย”
“ทำไมกู้จิ้งเจ๋อถึงได้หล่อขนาดนี้”
“สวรรค์ ครั้งแรกเลยที่เห็นเขาสวมชุดแบบนี้ เหมือนเจ้าชายเลย”
กางเกงรัดรูปทำให้เขาเหมือนกับอัศวิน ยิ่งทำให้ร่างสูงของกู้จิ้งเจ๋อดูสูงขึ้นไปอีก มองเห็นเอวสูงได้ชัดเจน
กู้จิ้งเจ๋อดูดี ขายาวมาก
อวี๋หมินหมิ่นยกมือขึ้นอุดหู เสียงกรีดร้องดังแบบนั้น เธอหันไปพูดกับหลินเช่อ “สวรรค์ เด็กพวกนี้กรี๊ดเก่งกันจริงๆ ”
หลินเช่อไม่ได้สนใจเสียงกรี๊ด เธอเพียงมองไปที่สนามด้วยความกังวล
พวกเขาจะแข่งกันจริงๆ ด้วย
“จริงๆ เลย…พวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ บอกว่าจะแข่งก็แข่ง ล้อเล่นกันหรือเปล่า”
“ทำไม เธอไม่เคยได้ยินคำพูดหนึ่งเหรอ”
“คำพูดอะไร”
“มีเงิน เอาแต่ใจ พวกเขาก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ”
เอาล่ะ
สวมเสื้อกั๊กติดเซนเซอร์แล้ว กู้จิ้งเจ๋อจึงมองไปยังซือถูฉยงที่อยู่ตรงหน้า
ซือถูฉยงเองก็มองไปยังกู้จิ้งเจ๋อ
“เรียกคนมาเยอะขนาดนี้ คุณไม่กลัวแพ้จริงๆ สินะ” ซือถูฉยงบอก
กู้จิ้งเจ๋อเองก็ไม่รู้ว่าจะมีคนมาเยอะขนาดนี้ แต่ว่า ก็ไม่เป็นไร
เวลานี้ ในสายตาของเขามีเพียงซือถูฉยง มีเพียงการประลองของพวกเขาทั้งสอง
“ถ้าคุณกลัว ผมจะตัวต่อตัวกับคุณ” เขาบอก
ซือถูฉยงหัวเราะ “ใครๆ ก็บอกว่าผมอวดดี ไม่คิดว่าคุณจะอวดดียิ่งกว่าผม”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “ไม่หรอก ผมไม่เคยอวดดี อยากทำก็ทำเลย ไม่ชอบพูดมาก”
“ได้ ไม่พูดมาก เริ่มเถอะ”
“งั้นเริ่มเลย”
ในที่สุดทั้งสองคนก็เดินมาหยุดอยู่กลางเวที
คนด้านบนพลันลุกขึ้นราวกับจะพุ่งเข้าไป เหล่าหญิงสาวไม่ยอมอยู่เงียบๆ ตะโกนเชียร์เสียงดังอยู่แบบนั้น
ภาพนั้น บ้ายิ่งกว่าคอนเสิร์ตที่หลินเช่อเคยเห็นซะอีก
ไม่รู้ทำไม หลินเช่อรู้สึกกดดันขึ้นมาเมื่อเห็นทั้งสองคนยืนอยู่ตรงนั้น
กู้จิ้งเจ๋อฟันดาบเป็นด้วยเหรอ
ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อน
เพียงแต่ กู้จิ้งเจ๋อดูเป็นคนมีพรสวรรค์ เขาทำอะไรเป็นตั้งหลายอย่าง เธอไม่รู้จริงๆ
ตอนนี้มองทั้งสองคน หลินเช่อไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เธอคิดในใจ ไม่รู้ว่ากู้จิ้งเจ๋อฟันดาบเป็นอย่างไร เขาเก่งไหมนะ
เธอคิด ไม่รู้ว่าทั้งสองคนใครจะเก่งกว่ากัน แต่ว่า เธอรู้ว่าซือถูฉยงนั้นเชี่ยวชาญ เขาน่าจะโจมตีได้ดีเลยทีเดียว
งั้น กู้จิ้งเจ๋อจะแพ้หรือเปล่า
เธอไม่อยากให้กู้จิ้งเจ๋อแพ้ ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด หัวใจของเธอ ถ้ากู้จิ้งเจ๋อทำได้ไม่ดี เธอคงจะปวดใจ
แต่ว่า ถ้าซือถูฉยงแพ้ เขาจะกลับไปสิ้นหวังเหมือนเดิมหรือเปล่า
หลินเช่อไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
เธอสับสน กำมือแน่น คิดว้าวุ่นไปหมด ทำไมพวกเขาต้องมาแข่งกันด้วย อีกทั้งผู้ชายพวกนี้ เมื่อดื้อขึ้นมา พูดอย่างไรก็ไม่ยอมฟัง น่าโมโหจริงๆ
เสียงในสนาม ทำลายความคิดวุ่นวายของหลินเช่อ
ไม่สนว่าเธออยากให้เป็นแบบนั้นหรือไม่ แต่การแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
กู้จิ้งเจ๋อพุ่งโจมตีออกไป
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่มืออาชีพ แต่ว่า เธอจำสิ่งที่ซือถูฉยงเคยบอกเอาไว้ได้ว่า การป้องกันที่ดีที่สุดคือการโจมตี
ดังนั้น กู้จิ้งเจ๋อกำลังทำแบบนั้นอยู่สินะ
หลินเช่อไม่เคยเห็นกู้จิ้งเจ๋อฟันดาบมาก่อน แต่ว่า เขาพึ่งลงมือ หลินเช่อมองท่าทางที่คล่องแคล่วแบบนั้น ร่างกายที่ตั้งตรง ไม่แพ้ให้กับมืออาชีพเลยสักนิด เธอก็เข้าใจในทันที
กู้จิ้งเจ๋อฟันดาบเป็น
สมกับที่เป็นกู้จิ้งเจ๋อ ไม่ว่าอะไร ก็ทำออกมาได้ดีไปหมด
การที่คอยแต่จะหาเรื่องจับผิดคนอื่น ทำให้เขากลายเป็นกู้จิ้งเจ๋อที่น่าหลงใหล
และซือถูฉยงเองก็ไม่ด้อยไปกว่ากันเลยสักนิด
ท่าทางของพวกเขาคล่องแคล่วว่องไว คนอื่นมองไม่ออกว่าใครเก่งกว่าใคร แต่ว่าการแข่งขันครั้งนี้นั้นทำให้พวกเขายากที่จะลืมแน่นอน
ดูการแข่งขันฟันดาบนั้นมันง่าย แต่ว่า แต่การที่จะได้เห็นกู้จิ้งเจ๋อแข่งกับซือถูฉยงแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆ เลย
ผู้ชมทั้งสนามยังคงส่งเสียงกรี๊ด ตะโกนร้องเชียร์เสียงดัง มองตรงไปยังสองคนในสนาม ยากที่จะดูออก ว่าใครนำหรือใครตาม
และหัวใจของหลินเช่อ ก็ยิ่งว้าวุ่นมากยิ่งขึ้น
เมื่อมองคะแนน ไม่ว่าใครจะแพ้ เธอก็เสียใจทั้งนั้น เธอกังวล
ต้องทำอย่างไรดี
ผู้ชมเกิดการแบ่งเป็นสองฝั่ง
ฝั่งหนึ่งตะโกนชื่อกู้จิ้งเจ๋อ หล่อมากเลย กู้จิ้งเจ๋อสู้ๆ
อีกฝั่งตะโกน คุณชายฉยง เยี่ยมมาก คุณต้องชนะ
อวี๋หมินหมิ่นจับจ้องไม่ละสายตา นี่เธอมาดูความครึกครื้นจริงๆ สินะ ไม่ว่าใครจะแพ้หรือใครจะชนะ ตอนนี้ยังดูไม่ออก เธอบอก “ดูไม่ออกเลย กู้จิ้งเจ๋อเองก็เก่งใช่เล่น”
เธอเงยหน้าขึ้นมาพูดกับหลินเช่อ “แต่โหดร้ายไปหน่อย ดูกู้จิ้งเจ๋อสิ ลงมือเลือดเย็นมาก ฉันเดาว่า เขาคงคิดว่าดาบในมือนั้นเป็นมีดแน่ๆ อยากจะสับซือถูฉยงให้เป็นชิ้นๆ ”
หลินเช่อจ้องอวี๋หมินหมิ่นเขม็ง
ตอนนั้นเอง กู้จิ้งเจ๋อบุกเข้าโจมตีอีกครั้ง ซือถูฉยงถอยเท้าหลบ และโจมตีตอบโต้กลับมาทันที กู้จิ้งเจ๋อหลบได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันดาบของเขาได้ทันท่วงที
กู้จิ้งเจ๋อโจมตีอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ซือถูฉยงถอยหลัง ถูกบีบให้ถอยหลัง ทุกคนคิดว่าเขาจะแพ้แล้ว ทว่าเขากลับหลบได้และโจมตีกลับโดยการพุ่งตัวย้อนกลับมาอย่างรวดเร็ว
ทุกคนที่กำลังตะโกนเชียร์อยู่เมื่อสักครู่ พลันต้องกลั้นหายใจ
เพราะใกล้จะถึงสี่สิบห้าคะแนนแล้ว เมื่อมีใครสามารถคว้าสี่สิบห้าคะแนนได้ก่อน การแข่งขันก็จะจบลง
การโจมตีไม่อีกไม่กี่ครั้ง มันสำคัญกว่าอะไรทั้งสิ้น
กู้จิ้งเจ๋อยื่นดาบออกไปอีกครั้ง
ซือถูฉยงเบี่ยงหลบไปอย่างรวดเร็ว
คนบนอัฒจันทร์สูดหายใจเข้าลึก
คนที่เข้าใจกำลังวิจารณ์
“นี่เป็นการแข่งขันที่สุดยอดมาก ไม่คิดเลยว่ากู้จิ้งเจ๋อจะเก่งขนาดนี้”
เดิมพวกเขามาดูเพราะความครึกครื้น ทว่าไม่คิดว่า สุดท้ายการแข่งขันจะน่าตื่นตาตื่นใจแบบนี้
“คนรวยพวกนี้ คงจะเก่งไปซะทุกอย่าง ยังไงก็มีเงิน อยากเรียนอะไรก็ได้เรียน”
“เธอจะเข้าใจอะไร เรียนได้ดีขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าแค่เรียนไปแล้วมันจะเก่ง กู้จิ้งเจ๋อเองถ้าไม่ใช่ฝึกฝนอย่างหนัก ก็คงเป็นพรสวรรค์”
เวลานี้ ทั้งสนามยื้อยันกันขึ้นมาอีกครั้ง
สุดท้าย
ใครที่ชนะ ก็จะได้รับชัยชนะไป