ตอนที่ 1684 ความโกรธของเสี่ยวไป๋ (1)
ฉินเสวี่ยเหม่อไปครู่หนึ่งก่อนที่นางจะตอบสนอง นางก็เห็นหลินรั่วไป๋กระโจนเข้าไปหาซูจวิ้นอย่างรวดเร็ว
“อ้า!” เสียงร้องบาดแก้วหูดังขึ้นไปทั่วฟ้าเป็นเวลานาน
ซูจวิ้นเจ็บปวดมากและสีหน้าของเขาก็ซีดราวกับศพ เขาใกล้จะหมดสติแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย เขาคงตายเพราะความเจ็บปวดไปแล้ว
เสี่ยวโม่จ้องหลินรั่วไป๋อย่างตะลึงแล้วเขาก็ตัวสั่นทันที
“นายหญิง ข้าคิดว่า…ถ้าข้าแต่งงานกับเสี่ยวไป๋แล้วในอนาคตข้าคงไม่สามารถขัดใจนางได้ ไม่อย่างนั้นข้าคิดว่าถ้าข้าไม่ตายก็อาจจะใกล้ตาย”
อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มเยาะแล้วมองเสี่ยวโม่ด้วยรอยยิ้มล้อเลียน ดูเหมือนว่าเสี่ยวโม่จะมีความคิดที่จะแต่งงานกับหลินรั่วไป๋เสียแล้ว
…
โชคดีที่เท้าของหลินรั่วไป๋กระแทกไปโดนหว่างขาของเขาพอดี แล้วเมื่อรวมกับเรื่องที่ว่านางกระโจนลงมาจากท้องฟ้า ใครก็คงจินตนาการได้ว่านางมีแรงกระแทกมากขนาดไหน หว่างขาของเขาจึงมีเลือดไหลนองออกมาจนย้อมพื้นให้เป็นสีแดง
“เจ้ากล้ารังแกอาจารย์ของข้าแล้วใส่ร้ายนาง” ดวงตาของหลินรั่วไป๋เป็นประกายสีแดงแล้วจากนั้นนางก็ใช้หมัดเล็กๆ ของนางกระแทกไปที่ซูจวิ้น
ตูม!
เกิดการระเบิดรุนแรงจนทำให้หน้าอกบางส่วนของซูจวิ้นแหว่งหายไป ซี่โครงของเขาแตกละเอียดเพราะหมัดของหลินรั่วไป๋และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฟื้นฟู
เลือดไหลออกมาจากปากของซูจวิ้นไม่หยุดแล้วเขาก็มองหลินรั่วไป๋ด้วยความกลัว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ข้า…ในอดีตข้าเคยช่วยเจ้า…”
“ฮึ่ม!” หลินรั่วไป๋ส่งเสียงขึ้นจมูกแล้วหมัดเล็กๆ ของนางก็ต่อยเขาอีกครั้งโดยไม่ลังเล
“ใช่แล้ว ตอนที่ข้าสูญเสียความทรงจำ เจ้าช่วยข้าไว้จริงๆ แต่เจ้ากลับหลงผิดคิดว่าข้าชื่นชอบเจ้าแล้วยังกล้าวางแผนใส่ร้ายอาจารย์ของข้าอีก! จากเรื่องนี้ก็ดูเหมือนว่าตอนนั้นเจ้าคงช่วยข้าเพราะมีเจตนาแอบแฝง!”
“ถึงแม้ว่าเราจะไม่พูดเรื่องนี้ ข้าก็ไม่มีทางให้อภัยเรื่องที่เจ้ารังแกอาจารย์ของข้าได้!”
ถ้านางจะเตะปากผู้มีพระคุณแล้วอย่างไร ถึงแม้ว่าชื่อของนางจะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ความชั่วร้าย นางก็ไม่มีทางให้อภัยคนที่ทำให้อาจารย์ของนางอับอาย!
อวิ่นลั่วเฟิงหันหน้าออกจากหลินรั่วไป๋แล้วมองฉินเสวี่ยด้วยสายตาร้ายกาจ “น้องสาวของข้าอยู่ที่ไหน”
ใบหน้าของฉินเสวี่ยซีดเผือด เพื่อที่จะบังคับให้เยี่ยฉีทรยศอวิ๋นลั่วเฟิง นางจึงสั่งให้ลูกน้องของนางลงโทษเยี่ยฉี ถ้าอวิ๋นลั่วเฟิงได้เจอเยี่ยฉีนางจินตนาการไม่ออกเลยว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะทำอะไรกับนางบ้าง
“ฉินเสวี่ย แม่นางที่เจ้าจับมาอยู่ที่ไหน” สีหน้าของผู้อาวุโสทั้งสามดำมืดขณะที่สอบถามอย่างเคร่งเครียด
ตอนนี้ผู้อาวุโสทั้งสามก็รู้แล้วว่าพวกนางเข้าใจอวิ๋นลั่วเฟิงผิดไป และเกือบจะทำร้ายอาจารย์ของบุตรหัวหน้าเผ่า!
ในความคิดของพวกนาง การกระทำของนางเป็นการขัดแย้งผู้นำของพวกนางและทุกอย่างก็เป็นเพราะฉินเสวี่ยที่เชื่อคนง่าย ถ้าแม่นางคนนั้นมีบาดแผลภายในเผ่าของพวกนาง พวกนางจินตนาการได้เลยว่าบุตรของผู้นำเผ่าและแม่นางอวิ๋นต้องโกรธมากแน่
ฉินเสวี่ยเงียบโดยไม่พูดอะไรแล้วเอาแต่คิดถึงการกระทำของตัวเอง ถึงแม้ว่าสองสามวันมานี้นางจะทรมานเยี่ยฉี แต่ก็ไม่ได้รุนแรงมาก ไม่แน่…อวิ๋นลั่วเฟิงอาจจะไว้ชีวิตนางก็ได้
ทันทีที่นางกำลังจะพูด ผู้อาวุโสก็หมดความอดทนแล้วกันไปถามศิษย์คนอื่น
“สตรีที่ฉินเสวี่ยจับมาอยู่ที่ไหน”
“ตอบผู้อาวุโสชุดเขียว…” สตรีคนหนึ่งเดินออกมาช้าๆ สตรีผู้นี้คือคนที่ไปตามหาซูจวิ้นในห้องขังแล้วยื่นเสื้อให้เยี่ยฉี
…………………………………..
ตอนที่ 1685 ความโกรธของเสี่ยวไป๋ (2)
“สตรีผู้นั้นถูกขังอยู่ในคุกเจ้าค่ะ แต่ว่า…” นางหยุดไปพูดเพราะไม่รู้ว่านางควรจะพูดถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีหรือไม่
หัวใจของอวิ๋นลั่วเฟิงบีบรัดแน่น “เกิดอะไรขึ้นกับเยี่ยฉีงั้นหรือ พาข้าไปที่คุกเดี๋ยวนี้!”
เยี่ยฉีเป็นบุตรสาวบุญธรรมของท่านพ่อท่านแม่และถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนาง ตระกูลเยี่ยจะต้องอยู่ในความโศกเศร้าและนั่นเป็นสิ่งที่นางไม่ต้องการเห็น
สตรีผู้นี้เงียบไปนานก่อนสุดท้ายก็พูดความจริงออกมา
“ผู้อาวุโส ตอนที่ท่านฉินเสวี่ยพาแม่นางเยี่ยกลับมา นางพยายามบังคับให้แม่นางเยี่ยทรยศแม่นางอวิ๋น แต่ไม่คิดว่าแม่นางเยี่ยจะยอมตายดีกว่าให้ความร่วมมือ ดังนั้น…ดังนั้นท่านฉินเสวี่ยจึงใช้เครื่องมือทรมานกับนางเจ้าค่ะ”
เครื่องมือทรมานงั้นหรือ
ผู้อาวุโสขมวดคิ้วเพราะไม่รู้ว่าเครื่องมือทรมานที่นางได้รับหนักหนาแค่ไหน ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่ไม่แน่พวกนางอาจจะขอร้องให้ยอมไว้ชีวิตฉินเสวี่ย ถึงอย่างไรพวกนางก็เห็นเฝ้ามองฉินเสวี่ยเติบโตมา จะกล้าทนดูคนอื่นสังหารนางได้อย่างไร อย่างมากที่สุดก็ทำให้นางพิการพลังฌานและไล่นางออกจากเผ่าไปเท่านั้น
โชคไม่ดีที่พวกนางไม่ได้รู้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นคนที่เอาคืนสิ่งที่นางได้รับเป็นร้อยเท่า ไม่ต้องพูดถึงว่าเยี่ยฉีโดนเครื่องมือทรมาน นางไม่มีทางให้อภัยฉินเสวี่ยแม้ว่าเยี่ยฉีจะเสียเส้นผมไปเพียงเส้นเดียว!
“แต่ว่า…” สตรีผู้นั้นมองผู้อาวุโสอย่างระมัดระวัง “ตอนที่ข้าไปตามหาซูจวิ้น เขากำลังโจมตีแม่นางเยี่ยและนางก็เปลือยทั้งตัวโดยมีน้ำตาไหลอาบแก้ม ข้าไม่รู้ว่าซูจวิ้นได้ลงมือทำอะไรนางหรือไม่…”
เมื่อคิดถึงการกระทำเหมือนสัตว์ป่าของซูจวิ้น นางก็โกรธแค้นและกังวลขึ้นมา
เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์เกลียดผู้ชายที่ทำให้ความบริสุทธิ์ของสตรีมีมลทินและการสังหารเยี่ยฉีก็ยังดีกว่าบังคับให้นางเสียความบริสุทธิ์!
ตูม!
ความคิดของอวิ๋นลั่วเฟิงระเบิดทันทีและความโกรธก็ทะลักออกมาจนทำให้ทั่วร่างของนางดูเคร่งเครียด
ซูจวิ้น..ทำให้เยี่ยฉีมีมลทินงั้นหรือ
ดี ดีมาก! นางไม่มีทางให้อภัยใครก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้!
“เสี่ยวโม่ จับตาดูเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับคนอื่นและไม่ให้ใครออกไปได้” อวิ๋นลั่วเฟิงสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาแล้วหันไปมองศิษย์คนนั้นอย่างเย็นเยียบ “เจ้า พาข้าไปที่ห้องขัง”
นางไม่มีทางลืมทุกอย่างที่ศิษย์คนนี้พูด
ฉินเสวี่ยพยายามที่จะบังคับให้เยี่ยฉีทรยศนาง แต่เยี่ยฉีปฏิเสธ…
นางยอมทนการทรมานจากเครื่องมือต่างๆ แล้วยังยอมทุกข์จากการการกระทำป่าเถื่อนของซูจวิ้นแทนที่จะทรยศนาง
ตอนนั้นเองที่ไม่ว่าเมื่อก่อนนางทะเลาะกับเยี่ยฉีมาแค่ไหน เรื่องพวกนั้นก็หายไปหมดเสียแล้ว
“เจ้าค่ะ แม่นางอวิ๋น” ศิษย์คนนั้นพูดอย่างนอบน้อม
…
ภายในห้องขัง เยี่ยฉีสวมชุดที่ศิษย์คนหนึ่งโยนมาให้ขณะที่นั่งขดตัวอยู่ที่มุมห้อง นางตัวสั่นอย่างมาก ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยน้ำตาขณะที่นางกัดปากและมองเลยประตูห้องขังออกไปโดยไม่ละสายตา
แกรก…
ประตูของห้องขังถูกเปิดออกและแสงแดดก็ไหลอาบไปทั่วห้องจนเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยน้ำตา
ภาพสตรีชุดขาวเดินเข้ามาด้านในช้าๆ สะท้อนเข้าสู่ดวงตาของเยี่ยฉี นางดูเหมือนเทพที่ลงมาจากสวรรค์
ตลอดเวลาที่ผ่านเยี่ยฉีแกล้งทำเป็นเข้มแข็งแต่เมื่อนางเห็นสตรีชุดขาว ความอดทนของนางก็พังทลายในทันที นางยืนขึ้นด้วยความลำบากและสุดท้ายก็โซเซจนเกือบจะล้ม…แต่ว่าทันทีที่นางกำลังจะล้ม ก็มีมือยื่นมาพยุงนางขึ้นอย่างอ่อนโยน
เยี่ยฉีอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก่อนที่นางจะได้พูด เม็ดยาก็ถูกยัดเข้ามาในปากของนาง กลิ่นของยากระจายไปทั่วปากและฟื้นฟูร่างกายของนางอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณ…” เยี่ยฉีกัดปากเล็กน้อยแล้วเงยหน้ามองสตรีที่ช่วยพยุงนางอยู่