ตอนที่ 1686 ความโกรธของเสี่ยวไป๋ (3)
“ขอบคุณที่ช่วยข้า…” ครั้งนี้คำขอบคุณที่ออกมาจากใจจริงของนาง ขณะที่ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาก็ดูจะจริงจังอย่างมาก
“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณ” อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดก่อนพูดต่อ “เจ้าเป็นคนของตระกูลเยี่ย เป็นเรื่องธรรมดาที่ข้าจะมาช่วยเจ้า ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าไม่เคยทรยศข้าไม่ใช่หรือ”
เยี่ยฉียิ้ม รอยยิ้มนี้แสดงให้เห็นว่านางละทิ้งเรื่องบาดหมางในอดีตแล้ว
“ข้าจะจดจำไว้ว่าเจ้าช่วยเหลือข้าและในอนาคตข้าจะตอบแทนเจ้าแน่นอน”
อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้ว “อันที่จริงถ้าไม่ใช่เพราะข้า เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็คงไม่จับตัวเจ้ามา…”
“แต่ว่าเจ้าก็ยังมาช่วยข้านี่”
เยี่ยฉีค่อยๆ ขยับตัวออกจากอ้อมกอดของอวิ่นลั่วเฟิงแล้วสายตาของนางก็ตกไปอยู่ที่ศิษย์ที่นำทางอวิ๋นลั่วเฟิงมา
“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ามาได้ทันเวลาไม่แน่ ข้าอาจจะต้องทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของซูจวิ้นไปแล้ว” นางพูดอย่างจริงจัง “ที่สำคัญเจ้าก็ยังยื่นเสื้อผ้าให้ข้าแม้เจ้าจะไม่ใส่ใจก็ได้ และข้าจะจดจำความช่วยเหลือของเจ้าเอาไว้”
นางไม่ใช่คนที่อกตัญญู ในเมื่ออีกฝ่ายช่วยเหลือนาง ในอนาคตนางก็ไม่มีทางปฏิเสธคำขอความช่วยเหลือ
ศิษย์คนนั้นยิ้ม “เจ้าใช้คืนแล้ว”
ถึงอย่างไรนางก็เป็นผู้ติดตามของฉินเสวี่ยและได้ลงมือทำความผิดไปแล้ว นางเองก็ต้องมีชะตากรรมเดียวกันแต่ว่า…คำพูดโดยไม่ตั้งใจของเยี่ยฉีก็ทำให้นางสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
เยี่ยฉีได้ยินคำพูดของนางก็แสดงสีหน้าสับสนเพราะไม่เข้าใจความหมายที่นางพูด…
อวิ่นลั่วเฟิงหันไปหาศิษย์คนนั้นแล้วถึงแม้ว่าสีหน้าของนางจะยังเย็นชาเหมือนเดิมแต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกคุกคามแล้ว
“ข้ารบกวนเจ้าดูแลน้องสาวของข้าหน่อย ข้ามีบางอย่างต้องไปจัดการ”
น้องสาว…เยี่ยฉีตัวแข็ง
อวิ๋นลั่วเฟิงอยู่ในตระกูลเยี่ยมาห้าถึงหกปีแต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางเรื่องเยี่ยฉีว่าน้องสาว และคำนี้ก็ทำให้หัวใจของนางเต็มไปด้วยความอบอุ่น
เมื่อรู้ว่าซูจวิ้นยังทำไม่สำเร็จ อวิ๋นลั่วเฟิงก็ผ่อนคลายลงแต่เขายังมีหนี้ที่ต้องชำระกับนางอยู่…
…
เหนือหุบเขาภายในเผ่า
ซูจวิ้นอยู่ในสภาพใกล้ตายและเลือดก็ยังไหลออกปากไม่หยุด เสี่ยวโม่ถึงกลับสงสัยว่าเจ้าสารเลวนี่จะตายเพราะเสียเลือดหรือไม่
“ซูจวิ้น เจ้ากล้ามากที่ลงมือทำความผิดแบบนี้ เจ้าถึงกลับกล้าทำให้น้องสาวของอาจารย์มีมลทินงั้นหรือ”
หลินรั่วไป๋ขมวดคิ้วและออกแรงมากขึ้น นางได้ยินสิ่งที่ศิษย์คนนั้นพูดก่อนหน้านี้ได้ชัดเจนดังนั้นนางจึงยิ่งเดือดจัด ถ้านางไม่ได้ตีเขาจนตาย นางก็คงระบายความโกรธในใจนางไม่ได้!
เมื่อเห็นว่าเด็กสาวกำลังยืนอยู่บนหน้าอกของซูจวิ้น สมาชิกในเผ่าก็อดตัวสั่นไม่ได้ พวกนางไม่เคยคิดเลยว่าหัวหน้าเผ่าน้อยของพวกนางจะโหดร้ายขนาดนี้แม้ว่านางจะมีใบหน้าที่ดูน่ารักไร้เดียงสาก็ตาม
กระดูกทั้งร่างของซูจวิ้นแตกละเอียด แต่นางก็ยังไม่ยอมปล่อยเขาไป นางตั้งใจจะตีเขาจนตาย
ตอนนั้นเองอวิ่นลั่วเฟิงก็กลับมา ร่างของนางมาปรากฏตรงหน้าฉินเสวี่ย ดวงตาร้ายกาจที่ดำสนิทของนางเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารที่ชั่วร้าย
“คนที่ไปที่แดนลับแลมีจำนวนเท่าไหร่ ใครบ้างที่ใช้เครื่องมือทรมานกับเยี่ยฉี รีบพาพวกนางออกมาเดี๋ยวนี้”
หัวใจของฉินเสวี่ยเต้นแรง นางกัดฟัน “แม่นางอวิ๋น ข้าและคนของข้าทำความผิดจริงแต่เรื่องนี้ควรถูกจัดการโดยผู้อาวุโสและผู้นำเผ่าน้อย อย่าบอกข้านะว่าเจ้าตั้งใจจะล้ำเส้น”
นางรู้ดีว่านางต้องเจอเรื่องทรมานมากแน่นอน หากนางต้องอยู่ในกำมือของอวิ๋นลั่วเฟิง และคงจะดีกว่าหากได้รับการลงโทษตามกฎของเผ่า
อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตาและประกายอันตรายก็พาดผ่านดวงตาขณะที่นางหัวเราะโดยไม่มีเสียง
“เจ้าหมายความว่าข้าไม่มีสิทธิลงโทษเจ้างั้นสิ”
ฉินเสวี่ยหลุบตาต่ำ “ข้าจะฟังแค่หัวหน้าเผ่าน้อยและผู้อาวุโสทั้งสามเท่านั้น”
…………………………………..
ตอนที่ 1687 ความโกรธของเสี่ยวไป๋ (4)
ใบหน้าของหลินรั่วไป๋แดงด้วยความโกรธขณะที่จ้องฉินเสวี่ย
“นางเป็นอาจารย์ของข้า! ในเมื่อเจ้าบอกว่าข้าเป็นหัวหน้าเผ่าน้อยของเจ้าถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ต้องเชื่อฟังอาจารย์ของข้า!”
“เสี่ยวไป๋” อวิ่นลั่วเฟิงมองหลินรั่วไป๋แล้วหยุดนางก่อนจะหันมาหาฉินเสวี่ย “ตอนนี้ข้าจะไม่พูดถึงความสัมพันธ์ของข้ากับเสี่ยวไป๋ ข้าแค่ต้องการแก้แค้นในน้องสาวของข้า! ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกไปแล้วผมทุกเส้นที่นางเสียไป ข้าก็สังหารคนของเผ่าตามจำนวนนั้นไปจนกว่าทั้งเผ่าจะถูกกำจัดหมด!”
ผู้อาวุโสทำสีหน้าดูไม่ได้แต่พวกนางก็ไม่กล้าพูดอะไรและทำได้แค่มองฉินเสวี่ยอย่างโมโห
“ฉินเสวี่ย ยอมให้นางลงโทษซะ!”
ถึงอย่างไรหัวหน้าเผ่าน้อยของพวกนางก็เป็นศิษย์ของอวิ๋นลั่วเฟิง!
ฉินเสวี่ยไม่ยอมแพ้ “เจ้ามาสังหารคนในเผ่าเพราะเส้นผมที่นางเสียไปได้อย่างไร ก็จริงอยู่ที่เรื่องนี้ข้าทำผิดและข้าก็ยินดีรับโทษแต่ว่าความผิดของเผ่าของพวกเราไม่ได้รุนแรงถึงขนาดที่สมควรรับความตาย อย่างมากที่สุดเจ้าก็สามารถทำให้พวกเราชดใช้ด้วยการลงโทษแบบเดียวกับเยี่ยฉีให้หนักกว่า”
“แล้วถ้าข้ายังยืนยันที่จะสังหารคนของเผ่าเจ้าล่ะ”
“อวิ่นลั่วเฟิง เจ้าอย่ามาทำตัวไร้เหตุผล!”
ไร้เหตุผลอย่างนั้นหรือ
อวิ่นลั่วเฟิงหัวเราะเบาๆ เพราะฉินเสวี่ยทำให้นางรู้สึกขบขัน
“เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าควรจะตรวจสอบเรื่องของข้ามาอย่างดี ข้าสงสัยว่าเจ้าได้สืบเรื่องชื่อเสียงของข้าในแผ่นดินนี้หรือยัง” อวิ๋นลั่วเฟิงเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่ฉินเสวี่ย
“ข้าเคยมีเหตุผลตั้งแต่เมื่อไรกัน แล้วใครกันที่สามารถหยุดไม่ให้ข้าสังหารคนได้”
นางก็เป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรือ
ตั้งแต่ตอนที่อวิ๋นลั่วเฟิงมาที่โลกใบนี้ การกระทำของนางก็ไร้เหตุผล ต้องการจะพูดกับนางด้วยเหตุผลน่ะหรือ ขอโทษด้วย นางไม่เคยคุยกับใครด้วยเหตุผล!
ในเมื่อเจ้าก้าวขาเข้ามาแล้ว นางก็ต้องฟันขาข้างนั้นทิ้งซะ! ทุกรอยแผลที่เจ้าทำกับนาง เจ้าก็ต้องชดใช้เป็นร้อยเท่า! ส่วนเรื่องตาต่อตาฟันต่อฟันน่ะหรือ เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับนาง!
“ถ้าเจ้าไม่ยอมเปิดเผยว่าใครจับตัวเยี่ยฉีที่แดนลับแลถ้าอย่างนั้นข้าก็จะใช้วิธีอื่นให้เจ้าพูด” อวิ่นลั่วเฟิงยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วเดินเข้าไปหาฉินเสวี่ย
ฉินเสวี่ยหวาดกลัวและรีบถอยหลังไปทันที “อวิ่นลั่วเฟิง เจ้าอย่าทำตัวไร้เหตุผล เจ้าอยู่ในเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์นะ!”
ผู้อาวุโสทั้งสามอยากจะปกป้องฉินเสวี่ยแต่ใครคิดว่าตอนที่พวกนางก้าวเท้าไปข้างหน้าเสียงเดือดดาลของหลินรั่วไป๋จะดังขึ้น
“ถ้าใครกล้าขัดขืน ข้าจะไม่มีทางยอมสืบทอดเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์จนกว่าข้าจะตาย”
ผู้อาวุโสชะงักและเผลอหยุดทันที เทียบกับชีวิตของฉินเสวี่ยแล้วการกลับมาของหลินรั่วไป๋สำคัญกว่าอย่างชัดเจน…
ฉินเสวี่ยตื่นตระหนก เหตุผลที่นางกล้าขัดขืนอวิ๋นลั่วเฟิงก็เพราะนางมั่นใจว่าผู้อาวุโสจะต้องขอร้องให้ไว้ชีวิตนางแน่ แต่ใครจะไปคิดว่าคำพูดของหลินรั่วไป๋จะทำให้พวกเขาล่าถอยไป
เมื่อไม่มีการปกป้องจากผู้อาวุโส ความคาดหวังของฉินเสวี่ยก็พังทลาย แล้วนางก็รีบพูดขึ้น “ไม่ อย่าเข้ามานะ! ข้าจะบอก ข้าจะบอกแล้ว!”
ถึงแม้ว่าต่อให้นางให้ข้อมูลไปแล้วจุดจบก็นางก็มีแต่ความตายเท่านั้นแต่นางเข้าใจดีว่าหากนางไม่พูด นางจะต้องเจอประสบการณ์เหมือนตายทั้งเป็น เหตุใดนางถึงต้องทนทรมานเช่นนั้นเพื่อลูกน้องของนางด้วย
“ข้าจะพูด ข้าบอกเจ้าทุกอย่างได้โปรด อย่าทรมานข้า…”
อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มเยาะ เทียบกับความตายแล้วการใช้ชีวิตอยู่ในนรกน่ากลัวกว่ามาก
“เร็วเข้า คนที่ไปที่แดนลับแลเดินออกมารวมถึงคนที่ทรมานเยี่ยฉีในหลายวันมาด้วย!” สายตาของอวิ๋นลั่วเฟิงหันไปหาไหน่ฉาและสัตว์วิญญาณอสูรอื่นๆ อย่างช้าๆ “ข้าไม่ต้องการให้พวกมันมีชีวิตอยู่!”
จะบอกว่านางโหดร้ายไร้ปรานีก็ได้ นางก็แค่ต้องการปกป้องครอบครัวของนางเท่านั้นและถึงแม้ว่านางจะต้องทนทรมานจากคำสาปแช่งของคนเหล่านี้นางก็ไม่กลัว
ยิ่งไปกว่านั้นนางก็ไม่ได้คิดว่านางทำอะไรผิด นางต้องการให้ทุกคนรู้ว่าถ้าพวกเขาทำร้ายครอบครัวของนาง ก็ย่อมเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะหนีจากความตายได้!